11 ก.ค. เวลา 07:20 • หนังสือ

นิทาน : พ่อมดบราวน์

เรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้น ที่เกิดขึ้นอยู่ในผืนป่ากรีนวู๊ด ผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นโอ๊คและต้นเมเปิ้ล ที่ขึ้นเรียงรายสลับกัน แต่ท่ามกลางธรรมชาติที่สงบร่มรื่น ภายในพื้นป่าแห่งนี้ ยังแฝงไว้ด้วยพวกสิงสาราสัตว์ ที่มีทั้งสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่และยังรวมไปถึงบรรดาสิ่งมีชีวิตในตำนาน ไม่ว่าจะเป็น ยูนิคอร์น เพกาซัส กริฟฟินและสิ่งมีชีวิตอื่นๆอีกมากมาย ที่มีรูปร่างหน้าตาแปลกประหลาดพิสดาร
นอกจากจะเป็นป่าที่มากไปด้วยเหล่าสรรพสัตว์ ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ในดินแดนทางตอนเหนือของผืนป่าแห่งนี้ ยังมีหุบเขาอยู่ลูกหนึ่ง บริเวณรอบๆหุบเขาลูกนั้น ถูกปกคลุมไปด้วยต้นหญ้าเมธัส มันคือหญ้าวิเศษ ที่สามารถรักษารอยแผล ที่เกิดขึ้นตามร่างกาย ให้หายได้อย่างสนิท เพียงแค่ร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้นั้น ได้แตะหรือสัมผัสเข้ากับพื้นหญ้าเท่านั้น
ในยามค่ำคืน หญ้าทุกเส้นจะกลายเป็นลำแสงสีเขียวมรกต ที่ส่องสว่างเป็นประกาย ต่อมา แสงแห่งราตรีเหล่านั้น ก็จะแปรสภาพเป็นผีเสื้อกลางคืน ที่บินวนไปวนไปมา รอบๆบริเวณของหุบเขาแห่งนั้น
ในความอัศจรรย์ของธรรมชาติ แท้ที่จริงแล้ว หุบเขาแห่งนี้คือที่อยู่อาศัยของพ่อมดผู้วิเศษตนหนึ่ง ซึ่งพ่อมดผู้นี้ เขามีรูปร่างที่ค่อนข้างเตี้ยกำยำ ผิวพรรณของเขาขาวราวกับหิมะ นัยน์ตาของเขาเป็นสีเขียว เขายังมีเส้นผม และหนวดเคราที่ยาวดก ที่ถูกย้อมทับด้วยสีน้ำตาลเข้ม บรรดาสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิตในกรีนวู๊ด จึงต่างเรียกชื่อเขาแบบติดปากกันว่าพ่อมดบราวน์ พ่อมดบราวน์เป็นพ่อมด ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์ และมีไมตรีจิต เขามักจะชอบช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก โดยไม่เลือกปฏิบัติ และไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน
ในแต่ละวันของการใช้ชีวิต พ่อมดมักจะขี่ม้าวิเศษ ซึ่งเป็นคู่หูคู่ใจของเขา ในการออกตระเวน เพื่อสำรวจผืนป่า ส่วนความวิเศษของเจ้าม้าตัวนี้ นั่นก็คือ มันสามารถวิ่งได้ทั้งบนพื้นดินและในท้องฟ้า มันยังวิ่งได้เร็วแบบชนิดที่ว่าแม้กระทั่งมนุษย์หมาป่า ก็ยังวิ่งไล่ตามไม่ทัน
ในระหว่างทาง หากพ่อมดบังเอิญพบเจอสัตว์ในป่า ที่ป่วยหรือบาดเจ็บ เขาก็จะให้ความช่วยเหลือแก่สัตว์ตัวนั้น ด้วยความเต็มใจเเละด้วยความรัก เพราะความที่เขาเป็นผู้วิเศษ ในการรักษาแต่ละครั้ง เขาจะร่ายเวทย์มน ลงไปยังไม้เท้าวิเศษ ที่เขามักจะพกติดตัวตลอดเวลา พอเขาทำการชี้ไม้เท้า ตรงไปยังร่างของสัตว์ตัวนั้น อาการบาดเจ็บที่กำลังเป็นอยู่ของสัตว์ตัวนั้น ก็จะหายสนิทในทันที
เพราะความที่จิตใจของเขา มีแต่การช่วยเหลือสรรพชีวิตด้วยกัน เขาจึงเป็นที่รักใคร่และเคารพ ต่อเหล่าสัตว์และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ที่อยู่ในกรีนวู้ด สรรพชีวิตในผืนป่า ยังยกย่องเขาให้เป็นผู้วิเศษ เป็นทั้งที่พึ่งทางกายและจิตวิญญาณ นอกจากนี้ เขายังสอนให้ชาวกรีนวู๊ด รักและให้เกียรติซึ่งกันและกัน รวมถึงเคารพการตัดสินใจของผู้อื่น
ในตอนบ่ายแก่ๆของวันหนึ่ง ขณะที่พ่อมดผู้ท่องไพร กำลังเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยในผืนป่า กิจวัตรที่เขามักจะทำเป็นประจำ ในระหว่างทาง สายตาของเขาก็มองเห็นกวางมูสตัวหนึ่ง ที่อยู่ในสภาพอิดโรย แถมยังเป็นกวางที่อยู่ในวัยชรา สภาพร่างกายที่อิดโรยของกวางมูส ทำให้พ่อมดเกิดความรู้สึกสงสาร เขาหยุดพักพร้อมกับกระโดดลงจากหลังม้า และเดินเข้าไปตรงจุดที่กวางมูสกำลังยืนอยู่
"สวัสดีสหายรักของข้า นี่เจ้ากำลังจะไปที่ใด?" พ่อมดเอ่ยถามกวางมูสขึ้นมาอย่างสงสัย
กวางมูสสบตากับพ่อมดอยู่ชั่วครู่ แล้วตอบในสิ่งที่พ่อมดถาม ด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยอ่อน "พอดีข้าพักอาศัยอยู่ในหุบเขา ภายในเขตป่าฟากนู้น แต่จู่ๆ ข้าก็รู้สึกกระหายน้ำ และทุกครั้งที่ข้าเกิดกระหายน้ำ ขึ้นมา ข้าจะต้องเดินไปตามทุ่งหญ้า จนกว่าจะถึงต้นไม้ใหญ่ เพราะตรงบริเวณต้นไม้ต้นนั้น จะมีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่ง ที่ข้ามักจะเดินไปดื่มประจำ"
ทันทีที่พ่อมดกวาดสายตามองไปยังหุบเขา สถานที่พักหลับนอนของกวางชรา เขาก็รู้สึกว่าหุบเขาลูกนี้ช่างแปลกประหลาด เพราะลักษณะของหุบเขาลูกนี้ มันมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับเขากวาง อย่างไม่มีผิดเพี้ยน แถมบริเวณรอบๆ ก็ปกคลุมไปด้วยพวกเศษไม้ใบหญ้า และบรรดาต้นไม้ที่ขึ้นสลับเรียงรายกัน พ่อมดยังหันหน้ามองไปยังต้นไม้ต้นหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ใจกลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ที่ทอดยาวออกไป ซึ่งจะต้องเดินอยู่หลายก้าวพอสมควร กว่าจะเดินไปให้ถึงต้นไม้ต้นนั้น
“นี่สหายรักของข้า เจ้าไม่ต้องก้าวเท้าเดิน ไปยังหนองน้ำแห่งนั้นแล้ว เพราะข้าจะทำให้หนองน้ำมาอยู่ต่อหน้าเจ้าเอง” ทันทีที่พ่อมดพูดจบ แววตาของเขาก็ค่อยๆหลับลงอย่างช้าๆ พร้อมกับไม้เท้าวิเศษ ที่เขายกขึ้นไว้เหนือศีรษะ จากนั้น เขาก็เริ่มท่องเวทมนต์อะไรสักอย่าง แต่เพียงชั่วอึดใจ ไม้เท้าที่อยู่ในมือของเขา ก็เกิดสั่นไปสั่นมา แบบไม่มีสาเหตุ แล้วจู่ๆไม้เท้าของพ่อมด ก็ค่อยๆมีสภาพกลายเป็นแสงสว่าง ที่มีสีเขียว แสงสว่างจากธรรมชาติ ทำให้กวางมูสที่อยู่ในเหตุการณ์อันน่าเหลือเชื่อ รู้สึกแสบตา จนเขาต้องหลับตาลง
ต่อมา แสงที่กำลังส่องสว่าง ก็ได้จางหายไป พอเมื่อทั้งคู่ได้ลืมตาขึ้นมา พวกเขาก็พบเข้ากับหนองน้ำแห่งหนึ่ง ที่ได้มาปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขาแถมน้ำที่อยู่ในหนองน้ำ ก็เป็นน้ำที่มีความใสราวกับแก้ว จากนั้น พ่อมดบราวน์ก็ได้พูดกับกวางมูสขึ้นมาว่า“สหายรักของข้า จากนี้ไปที่นี่จะเป็นแหล่งน้ำของเจ้า เวลาที่เจ้าเกิดกระหายน้ำ เจ้าไม่จำเป็นต้องเดินใกล้ๆอีกต่อไป เจ้าจะได้มีความสะดวก” พ่อมดพูดพร้อมกับเดินขึ้นไปบนหลังม้า
ความช่วยเหลือของพ่อมด ทำให้กวางชราเกิดความซาบซึ้งใจเป็นที่สุด จนเขาได้เผลอร้องไห้ออกมา “ขอบใจมากนะท่านพ่อมด บุญคุณครั้งนี้ สักวันหนึ่งข้าจะต้องตอบแทนท่านให้ได้” กวางชราพูดกับพ่อมด จากส่วนลึกของหัวใจแห่งความมีปิติ “สักวันหนึ่ง เจ้าจะได้ตอบแทนข้าอย่างแน่นอนสหายรัก” พ่อมดพูดกับกวางชรา ก่อนที่เขาจะควบม้าจากไป
และแล้ว วันเวลาแห่งการตอบแทนของกวางมูสผู้ชราก็มาถึง ในวันหนึ่ง ขณะที่พ่อมดบราวน์กำลังลัดเลาะท่องไพร อันเป็นกิจวัตรประจำวัน ทันทีที่ดวงตะวันลับขอบฟ้า ขณะที่พ่อมดกับม้าวิเศษคู่ใจของเขา กำลังเดินทางกลับที่พัก ในระหว่างทาง ก็เกิดมีลมพายุพัดอย่างรุนแรง จนทำให้มีฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทั่วร่างกายของพ่อมดเปียกชุ่ม ไปด้วยหยดน้ำฝน ทำให้ภายในวันนั้น พ่อมดบราวน์จึงไม่สามารถเดินทางกลับสู่ที่พัก ได้อย่างปลอดภัย
พ่อมดได้ควบม้ามาจนถึงหนองน้ำ ที่เขาได้ใช้เวทมนต์สร้างมันขึ้นมา ให้กับกวางมูสผู้ชรา แต่ดูเหมือนว่าโชคจะไม่เข้าข้าง เมื่อพ่อมดนักเวทย์ เดินทางมาถึงหนองน้ำแห่งนี้ เขาก็เกิดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย ประกอบกับความชราของเขา จึงทำให้แววตาสองข้างของเขา ค่อยๆหลับอย่างช้าๆ จากนั้น ร่างกายที่อ่อนล้าของเขา ก็นอนหมดสติลงไปในที่สุด
ในความโชคร้าย ก็ยังมีความโชคดีอยู่ ในระหว่างที่ผู้วิเศษ กำลังหมดสติ ท่ามกลางฝนฟ้าที่ตกลงมา ขณะนั้นเอง กวางมูสผู้ชราที่พึ่งกลับจากการไปเยี่ยมเยียนเหล่าสหาย เขาได้เดินผ่านมาตรงหนองน้ำแห่งนั้นพอดี พอสายตาเขามองไปเห็นร่างที่ใบหน้า มีแต่หนวดเคราสีน้ำตาลเข้ม เขาก็จำได้ทันทีว่าชายคนนี้ ก็คือพ่อมดบราวน์ ผู้ที่เคยเนรมิตสร้างหนองน้ำให้กับตน
กวางมูสผู้ชราบอกให้ม้าวิเศษของพ่อมด นำเอาร่างของพ่อมด กลับไปยังที่พักของตน ม้าวิเศษนำพาร่างของนายอันเป็นที่รัก แบกขึ้นไว้บนหลัง จากนั้น ม้าผู้วิเศษก็ค่อยๆเดินตามหลังของกวางชรา เพื่อไปให้ถึงที่พักอย่างว่าง่าย พอเมื่อไปถึง กวางมูสได้นำร่างของพ่อมดเข้าไปในหุบเขา อันเป็นที่พักของตน
พ่อมดได้นอนหมดสติไปจนถึงเช้า พอเข้าสู่ช่วงสายๆ สายตาของเขาก็ค่อยๆเปิดขึ้น และเขาได้เห็นกวางมูส ที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆ
“ตื่นแล้วรึท่านพ่อมด ข้าเป็นผู้ที่พาท่านมายังที่พักของข้า เพราะเมื่อคืนนี้ได้เกิดฝนตกหนัก ตอนที่ข้ากำลังจะกลับที่พัก บังเอิญว่าข้าพบกับท่านที่กำลังหมดสติอยู่พอดี” กวางชราเอ่ยปากถามพ่อมด จากก้นบึ้งของความห่วงเป็นใย
“อาการของข้าในตอนนี้ ก็นับได้ว่าย่ำแย่เอาการ เพราะฝนฟ้าที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืน ส่วนข้าก็แก่ชรามากแล้ว เลยทำให้พลังเวทย์มนต์ของข้า ถดถอยลงไปมาก ตอนนี้ข้าเลยใช้พลังเวทย์ ได้ไม่ดีเท่าที่ควรข้าคงต้องพักรักษาตัวไปอีกนาน รบกวนเจ้าจริงๆ ที่ข้าต้องมาตกเป็นภาระของเจ้า”พ่อมดพูดออกมาด้วยความท้อแท้
“ไม่เป็นไรท่าน ท่านอย่าคิดว่าท่านเป็นภาระข้าเลย ข้าสามารถดูแลท่านได้ เพราะท่านเองก็เคยช่วยสร้างแหล่งน้ำ เพื่อให้ข้ามีความสะดวก ในการเดินไปดื่มน้ำ ให้ข้าได้ตอบแทนท่านบ้างเถอะ”
“อืม ขอบใจเจ้ามากๆเลยนะสหาย ที่เจ้าไม่เห็นว่าข้าเป็นภาระ แถมยังอาสาจะดูแลข้าอีก” พอพูดจบประโยค พ่อมดก็ค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ
ในช่วงสายของวันนั้น กวางชราได้นำเอาเรื่องที่พ่อมดบราวน์มีอาการป่วยหนัก ไปแจ้งแก่เหล่ากรีนวู๊ด ข่าวคราวการล้มป่วยของพ่อมด ได้กระจายตัวออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว ทำให้บรรดาสรรพชีวิต ที่พอได้ทราบข่าว ต่างก็แวะพากันมาเยี่ยม และเข้ามาดูแลพ่อมดบราวน์ ในช่วงที่เขาป่วย
สรรพชีวิตในกรีนวู๊ดทั้งหลาย ได้ช่วยกันดูแลพ่อมดผู้วิเศษที่พวกเขารักกันอย่างดี บางส่วนที่เข้ามาดูแล ก็ต่างเคยได้รับการรักษาอาการเจ็บป่วย ด้วยเวทมนต์ชั้นดีของพ่อมด มาบัดนี้ พวกเขาได้ตอบแทนพระคุณของผู้วิเศษ บุคคลที่พวกเขารักยิ่ง ผู้ที่เคยช่วยชีวิตและทำให้พวกเขายังคงมีลมหายใจ
การเป็นผู้มีจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการช่วยเหลือ และการคิดดีทำดีต่อผู้อื่นอยู่เสมอของพ่อมดบราวน์ ไม่ใช่เรื่องเสียเวลาและเป็นสิ่งไร้ค่า เพราะช่วงที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในผืนป่า กิจวัตรและงานส่วนใหญ่ของเขา ก็ล้วนแต่เป็นการรักษาและช่วยชีวิต เพื่อให้ทุกสรรพชีวิตสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า แต่พอเขาเป็นฝ่ายที่ถูกความเจ็บป่วยเข้าเล่นงาน บรรดาสิ่งมีชีวิตในผืนป่าที่เขารัก ก็เดินทางเข้ามาดูแล และปรนนิบัติรับใช้เขา อย่างเต็มใจและด้วยความรัก
พอเวลาล่วงเลยผ่านไปได้ 1 เดือน ความเจ็บป่วยที่แม้แต่ผู้วิเศษอย่างพ่อมดบราวน์ ยังต้องหมดสติ ก็ปลิวหายเป็นปลิดทิ้ง พลังเวทย์ของเขา จากที่เคยลดน้อยถดถอย ก็ฟืนกลับคืนมา จนเข้าสู่สภาพเดิม ก่อนที่พ่อมดจะเดินทางกลับที่พัก เขากล่าวคำอำลาและเอ่ยคำขอบคุณแก่ชาวกรีนวู๊ดทุกชีวิต ที่เป็นห่วงเขา และมาคอยช่วยกันดูแลเขา ในช่วงที่เขาเจ็บไข้ได้ป่วย จนกระทั่งที่เขาหายดี เขายังส่งมอบคำขอบคุณให้กับกวางมูสผู้ชรา ที่ได้ให้ที่พักอาศัยแก่เขา เพื่อให้เขาได้หลับนอน และยังคอยดูแลเขาเป็นอย่างดี
ต่อมา ทั้งพ่อมดบราวน์และม้าวิเศษคู่ใจของเขา ก็มุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก แต่ทันทีที่กลับมาถึง เขาก็เห็นที่พักของเขา อยู่ในสภาพที่พังเสียหาย จากการถูกฟ้าผ่า เพราะฝนที่ตกหนักเมื่อคืน จากนั้น เขาก็ได้หลับตาลง พร้อมกับท่องเวทย์มนอะไรบางอย่าง แต่พอเขาลืมตาขึ้น จู่ๆ ก็พลันมีแสงสว่างสีเขียว ปรากฎขึ้นอยู่บนไม้เท้าวิเศษ ที่เขาถืออยู่ในมือ
พ่อมดได้ทำการชี้ไม้เท้า ไปยังที่พักของตน ที่ตกอยู่ในสภาพที่พังระเนระนาด ต่อมา เพียงอึดใจเดียว ทั่วพื้นที่บริเวณแห่งนั้น ก็ถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีเขียว ที่ส่องสว่างเจิดจ้า แต่พอแสงสว่างนั่นมอดดับลง ที่พักของผู้วิเศษ จากที่เคยมีสภาพที่พังยับเยิน แต่มาคราวนี้ มันกลับอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ทุกอย่าง ราวกับว่าไม่มันไม่ได้สิ่งใดถูกทำลายลง
นับแต่นั้นมา ในช่วงบั่นปลายของชีวิตที่เหลือ พ่อมดบราวน์ก็ใช้ชีวิต ในการพักอาศัยอยู่ในหุบเขาของผืนป่าอันเงียบเชียบ และออกท่องเที่ยวป่า เพื่อช่วยเหลือและทำการรักษาบรรดาชาวกรีนวู้ด ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมีความสุข 1
โฆษณา