11 ก.ค. เวลา 11:22 • ปรัชญา
1. ทำความเข้าใจก่อนว่าการนั่งสมาธิ คือการข่มจิตและทำความเพียรที่จะสงบระงับ แต่ธรรมชาติของจิตจะปรู๊ดปร๊าดว่องไวไปมาเป็นปกติ ดังนั้นเวลานั่งสมาธิก็ต้องหาที่ยึดที่เกาะให้จิตจดจ่ออยู่กับสิ่งเดียวเสียก่อน อาทิ ที่คุณเคยได้ยินมา ยุบหนอ-พองหนอ หรือพุทธ-โธ หรือแม้แต่สัมมาอะระหัง สิ่งเหล่านี้ เป็นอุบายสำหรับผู้เริ่มต้น หรือยังไม่ชำนาญในการทำสมาธิ หรือแม้แต่ชำนาญแล้ว แต่ห่างหายไปไม่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง
2. เวลาคุณหลับตาทำสมาธิ ให้หลับตาเบาๆ สบายๆ อย่ากดข่มจนทำให้ตาในเห็นแต่ความมืดตื๋อ ให้สังเกตตัวเองว่า ณ ขณะเริ่มต้นหลับตา ความฟุ้งหายไปชั่วประเดี๋ยว เพราะคุณกำลังจดจ่อกับการจะหลับตาทำสมาธิ ต่อมาคุณเริ่มจดจ่อกับการท่องในใจว่าพุทธ-โธ ขณะแรกความฟุ้งยังไม่เกิด เพราะคุณจดจ่อ ต่อมาคุณจะฟุ้ง ตรงฟุ้งนี้แหละ! ให้มีสติรู้ตัวให้ได้ไวที่สุดว่า ฟุ้งเข้าแล้ว! ก็ให้กลับมาจดจ่อกับพุทธ-โธ รอบใหม่ จิตเรามันจะวนไป-มาอย่างนี้ คุณก็นั่งไปเท่าที่คุณตั้งใจ จังหวะที่ตาในไม่มืดตื๋อ เห็นความสว่างนวล ก็ถือว่ามาได้ถูกทาง
3. แค่เพียงคุณทำมันไปเรื่อยๆ สม่ำเสมอ หากว่าคุณเป็นผู้ที่สะสมมามาก คุณจะได้รับประสบการณ์บางอย่างด้วยตัวเอง แต่ต้องจำไว้ว่า ไม่ว่าประสบการณ์เหล่านั้นจะเป็นอะไร มันก็แค่มาแล้วไป หรือ "เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป ไม่เหลือเลย"
ตราบใดที่คุณเอาแต่ถามว่า
การถึงสมาธิเป็นยังไง จิตนิ่งมันเป็นยังไง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงฌาณนี้ๆ
และหากว่าคุณเอาแต่ฟังคนอื่นบอกอย่างนั้นอย่างนี้
จิตคุณก็จะปรุงแต่งไม่หยุด ฟุ้งซ่านไม่หยุดค่ะ
โฆษณา