12 ก.ค. เวลา 00:56 • ประวัติศาสตร์

ผลการทดลองที่บันทึกผิดพลาด สู่เรื่องราวของป๊อปอายกินผักโขมแล้วกล้ามโต

ป๊อปอาย คือ ตัวละครการ์ตูนที่เขียนขึ้นโดย เอลซี่ ซีการ์ ถูกตีพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1929
และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนการ์ตูนป๊อปอายถูกนำไปสร้างเป็นการ์ตูนโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิดีโอเกม และสินค้าต่างๆ
4
ตัวละคร ป๊อปอาย จะเป็นกะลาสีเรือ ที่ผ่านการเดินทางมาแล้ว 7 คาบสมุทรด้วยกัน ป๊อปอายได้สูญเสียตาข้างขวาไปจากการต่อสู้เมื่อเขามีอายุได้ 12 ปี ป๊อปอายมักใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาเสมอ โดยเมื่อเขากินผักโขมแล้ว กล้ามของป๊อปอายจะใหญ่โตขึ้นมาทันที ทำให้เขาสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องเจอได้
ด้วยเหตุนี้ป๊อปอายจึงเป็นสัญลักษณ์ของคนแข็งแรงมีพละกำลังมาก และกลายเป็นภาพจำว่าหากเรากินผักโขมแล้วจะแข็งแรงเหมือนป๊อปอาย ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือ?
4
คำถามนี้คงต้องย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.1870 อีริก ฟอน วูล์ฟ นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันได้ทำการทดลองสารอาหารที่อยู่ในผักใบเขียว แต่จะด้วยสาเหตุเพราะความเหนื่อยล้า การเบลอ หรือการตีพิมพ์ผิด ทำให้อีริกบันทึกข้อมูลที่ได้จากการทดลองผิดพลาด โดย ผักโขม 100 กรัม จะให้ธาตุเหล็ก 3.50 มิลลิกรัม แต่เขาดันใส่จุดทศนิยมผิดตำแหน่งทำให้บันทึกผิดเป็น ผักโขม 100 กรัม ให้ธาตุเหล็ก 35 มิลลิกรัม ไปแทน มากกว่าความเป็นจริงถึง 10 เท่า และข้อมูลนี้มันก็ได้ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ไปทั่วโลก
5
และด้วยคุณประโยชน์ของธาตุเหล็กที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ทำให้คนยุคนั้นมีความเชื่อกันว่ากินผักโขมแล้วร่างกายจะแข็งแรงเพราะมีธาตุเหล็กสูงมาก ซึ่งความเชื่อนี้มันก็ได้เป็นแรงบันดาลใจในตัวการ์ตูนป๊อปอายที่กินผักโขมเมื่อไรจะกล้ามโตแข็งแรงขึ้นมาทันที
2
จนเมื่อเวลาผ่านไป 67 ปี นักวิทยาศาสตร์รุ่นหลังได้ตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าผักโขมมันให้ธาตุเหล็กสูงขนาดที่อีริกเคยทำการทดลองไว้จริงหรือ จึงได้ทำการทดลองใหม่ถึงได้ทราบว่า แท้จริงแล้วผักโขม 100 กรัม ให้ธาตุเหล็ก 3.50 มิลลิกรัม ไม่ใช่ 35 มิลลิกรัม อย่างที่อีริกได้บันทึกตีพิมพ์ไว้ ซึ่งมันน่าจะเกิดจากข้อผิดพลาดในการบันทึกหรือตีพิมพ์เรื่องตำแหน่งจุดทศนิยม
4
แม้ข้อมูลความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาว่าผักโขมไม่ได้มีธาตุเหล็กสูงขนาดนั้น แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผักโขมเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากอยู่ดี เพราะมันมีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินซี แคลเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แมกนีเซียม ไนอาซีน เบตาแคโรทีน โฟเลต วิตามินเค แมงกานีส รวมทั้งธาตุเหล็กด้วย สารอาหารเยอะแยะมากมายไปหมด การกินผักโขมจึงสามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรงได้
4
เพียงแต่ใครคิดว่ากินผักโขมแล้วจะกล้ามใหญ่โตเหมือนป๊อปอายเลยมันคงเป็นไปไม่ได้ในโลกความจริงครับ
 
 
อ้างอิง
 
หนังสือ We did that? เขียนโดย โซฟี สเตอร์ลิง
 
 
3
โฆษณา