13 ก.ค. เวลา 05:59 • ความคิดเห็น

เล่าประสบการณ์สู่กันฟัง จากคนพลาดโอกาสเพราะกฎระเบียบ “วุฒิการศึกษา” สู่จุดเปลี่ยนในชีวิต

โพสต์นี่ ผมขอเล่าประสบการณ์สู่กันฟัง เคยมีคนถามบ่อยๆว่า ทำไมผมมาเรียนจีน? ความตั้งใจจริงๆหลังเรียนจบปตรี คือการมาจีน เลยหรือ?
1
มานั่งย้อนคิด ผมไม่เคยอยากมาอยู่จุดนี้เลยนะ ระเหเร่ร่อน ไกลบ้าน 😀
ชีวิตจริงๆที่คิดไว้ตั้งแต่ก่อนเรียนจบปตรี เมื่อปี 2553-2554 คือ “อยากเป็นครูมัธยม อยากรับราชการ ตามที่พ่อแม่หวังไว้ มีเงินเดือนมีงานที่มั่นคง ดูแลครอบครัวได้“
ก่อนเรียนจบ ผมเลยสอบเข้าโครงการ สควค. ที่เปิดโอกาสให้คนจบปตรีทางด้านวิทยาศาสตร์และคอมพิวเตอร์ สอบเข้าไปเรียนวิชาชีพครู 1 ปี จากนั้นก็บรรจุ ซึ่ง "ผมสอบได้"
และนั่นคือจุดหักเห
วันที่ไปรายงานตัวที่ศูนย์ของโครงการนี้ในเชียงใหม่ (แน่นอนว่าไม่ใช่ มช.) พ่อแม่เดินทางมาที่เชียงใหม่ เพื่อมาทำสัญญาเข้าโครงการ
พ่อแม่เดินทางจากสุโขทัย ด้วยการยืมรถคนอื่นมา เพราะรถตนเองเก่ามาก ขับข้ามจังหวัดมีหวังคงไม่ถึง น่าจะจอดตั้งแต่แถวอำเภอเถิน ลำปาง
พอมาถึง ไม่สามารถรายงานตัวได้ เพราะ "ไม่มีวุฒิตัวจริง" คือเรียนจบแล้ว แต่วุฒิไม่ออก เนื่องจากผมได้รับอนุมัติให้จบ คือสอบเล่มปตรีผ่าน ใน "วันแรกของเปิดภาคการศึกษาฤดูร้อน หรือซัมเมอร์" ไม่ได้จบในภาคการศึกษาปกติ วุฒิเลยออกหลังเดือนพฤษภาคมในปีนั้น ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังรายงานตัว
ทางเจ้าหน้าที่และทางศูนย์นั้น ยืนยันหนักแน่นว่า "ไม่สามารถอนุญาตให้รายงานตัวได้ เพราะไม่มีวุฒิการศึกษาปตรี ตามที่กำหนด" (ตอนนั้นมีแค่ใบคาดว่าจะจบ และสิ่งที่ยืนยันว่ามีเกรดครบหมดตามหลักสูตร และผ่านโปรเจคแล้ว)
จากเหตุการณ์นั้น ผมก็เลยยื่นทุนเรียนต่อจีนอย่างจริงจัง (เริ่มรู้ข่าวทุนจีนในช่วงเวลาใกล้กับที่สอบ สควค. คือช่วงปลายปี 2553)
1 ในความคิดตอนนั้น คือ หวังเพียงแค่ว่าอยากไปจากไทยให้พ้นๆ (เป็นความรู้สึกนึกคิด ณ ขณะนั้น ที่เสียใจและผิดหวังมาก แต่ปัจจุบันก็กลับไปไทย ทำงานสังกัดที่ไทยอยู่ดี)
เรื่องที่เล่ามาผมไม่ได้โทษใครเลย โทษที่ตัวผมเองนี่แหล่ะ ที่เรียนจบไม่ทันในภาคการศึกษาปกติเอง อาจารย์ที่ปรึกษาในตอนนั้น ก็ตามให้แก้เล่มแล้วแก้เล่มอีก
แต่ไม่ได้แก้ตัวนะครับ ตอนขณะเรียนปตรี ผมต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนและส่งให้ที่บ้านด้วย เลยมัวแต่ทำงาน อีกอย่างขอสารภาพเลยว่า ในความคิดเด็กน้อยในขณะนั้น คิดแค่ว่า เดี๋ยวมันต้องทันแหล่ะเรื่องเรียน แต่ถ้าไม่มีเงิน แย่แน่
ถ้านั่งไทม์แมชชีนกลับไปได้ อยากจะเขกกะโหลกตัวเองแล้วบอกว่า ทำโปรเจคจบปตรีให้ทันเวลาภาคการศึกษาปกติซะ!!!
ว่ากันตามตรง ต้องชื่นชมทางเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ ที่โทรมาสอบถามอยู่ตลอดเลย ว่าวุฒิออกทันไหม ทันเดือนพฤษภาคมหรือไม่ จำได้ว่าเขาโทรมาสามสี่ครั้ง ก็ตอบไปทุกครั้งว่า ทางมหาวิทยาลัยแจ้งว่า ต้องเป็นไปตามระเบียบ และปลายสายก็ยืนยันเช่นกันว่า ทางฝั่งโครงการเขา ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ ก็ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้จริงๆ
ผมขอยืนยันว่า ความคิดในตอนนั้น และตอนนี้ ก็ยังคิดว่า เจ้าหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทุกคนทำถูกแล้วครับที่ทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ผมก็หวังว่า ในประเด็นต่างๆที่สังคมมีข้อกังขาอยู่เนืองๆ ในประเด็นการบังคับใช้กฎระเบียบ จากเคสแล้ว สู่เคสเล่า จะถูกบังคับใช้อย่างจริงๆในทุกกรณี รวมถึงกรณี “วุฒิการศึกษา” นะครับ
ผมแค่เล่าสู่กันฟัง เป็นอุทาหรณ์ และเป็นกำลังใจให้ทุกคนก้าวผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา