ถ้าฝากเงินเท่านี้ ที่ไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไรบ้าง (อัพเดทล่าสุด 13 กรกฎาคม 2567)
--------------------------------------------------------------
เนื่องจากโพสต์ที่ลงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถูก Facebook ลบไปเพราะมองว่าเป็นสแปม 🥲 อาจจะดูเป็นโพสต์พี่มิจชวนลงทุ... มีแต่คำว่าดอกเบี้ยสู... 😅 วันนี้เราขอนำโพสต์มาลงใหม่อีกครั้ง ฝากกดไลค์ กดแชร์ให้กำลังใจเด็กการเงินอีกทีนะคร้าบบ
เงินฝากออนไลน์ ดอกเบี้ยสูงของหลายที่ก็มีเงื่อนไขแตกต่างกัน และหลายที่ก็คิดเเบบขั้นบันได ทำให้งงว่าจริงๆ แล้วเราจะได้ดอกเบี้ยเฉลี่ยเท่าไรกันแน่
วันนี้ #เด็กการเงิน ขอแก้ปัญหาความงงนี้ ด้วยการคิดมาให้เลยว่าเงินฝากออนไลน์ของที่ต่างๆ ดอกเบี้ยเฉลี่ยจริงๆ เป็นเท่าไร เป็นการอัพเดทในรูปแบบใหม่ ใช้ได้จริง!! ซึ่งในรูปเราทำมา 3 เคส คือ ฝากเงิน 50,000 บาท 100,000 บาท และ 1,000,000 บาท ที่ไหนให้ดอกเบี้ยเท่าไร เรียงจากมากไปน้อย
วิธีการดูตาราง ก็ง่ายๆ เลย เพียงดูว่าเราจะฝากเงินเท่าไร แล้วก็ไล่ดูตารางข้างล่างว่าที่ไหนให้ดอกเบี้ยเป็นอย่างไร
เงื่อนไขที่เรานำมาคิดดอกเบี้ยเฉลี่ย มีดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยกรณีฝากครั้งเดียวโดยไม่เพิ่มหรือลดเงินเป็นเวลา 1 ปี
2. เป็นอัตราดอกเบี้ยจริงๆ ที่ไม่ได้นำโบนัสหรือโปรโมชั่นมารวมด้วย เช่น ต้องฝากมากกว่าถอนในแต่ละเดือนจึงจะได้โบนัส เป็นต้น หากใครสนใจเรื่องโปรโมชั่น แนะนำให้ดูเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ด้านล่าง
3. ไม่ได้นำดอกเบี้ยที่ได้รับในเเต่ละเดือนหรือทุก 6 เดือนมาคิดทบต้น
เมื่อคำนวณแล้ว จะเห็นว่า 3 ธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่
กรณีฝาก 50,000 บาท
1. KKP START SAVING 2%
2. alpha savings 2%
3. Dime 1.8%
กรณีฝาก 100,000 บาท
1. Chill D by CIMB Thai 2.1%
2. alpha savings 2%
3. Kept 1.75%
กรณีฝาก 1,000,000 บาท
1. LH B-You Wealth 1.98%
2. Speed D+ by CIMB Thai 1.88%
3. Kept 1.75%
*กรณีของ ttb หากเราฝากเงิน 100,000 บาท แล้วในแต่ละเดือนมียอดเงินฝากมากกว่าถอน ตัวเงิน 100,000 บาทนี้จะได้รับดอกเบี้ยรวมโบนัสสูงสุด 2.2% ต่อปี
การฝากเงินผ่านช่องทางออนไลน์เป็นการบริหารสภาพคล่องที่ดี สามารถใช้เป็นช่องทางที่จะใช้พักเงินก่อนลงทุนก็ได้ หรือไว้เก็บเงินสำรองฉุกเฉินก็ดี อย่างไรก็ตาม บัญชีเงินฝากออนไลน์ของบางที่อาจจะไม่สามารถผูกกับบัญชีลงทุนได้โดยตรง ต้องโอนออกจากบัญชีเงินฝากออนไลน์ไปบัญชีเงินฝากปกติก่อน
เงินฝากออนไลน์ส่วนมากจะไม่มีสมุดคู่ฝากให้ ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนอาจจะไม่มั่นใจ เพราะไม่ได้ถือสมุดไว้คอยอัพเดทได้เหมือนเงินฝากปกติ แต่ข้อดีคือสามารถทำธุรกรรมได้อย่างสะดวก และได้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ปกติ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นบัญชีเดี่ยวเท่านั้น ไม่สามารถเปิดบัญชีร่วมได้
สำคัญ! ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของแต่ละธนาคาร ผ่านลิ้งค์ที่เรารวมไว้ให้ได้เลย
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติมคือ
1. หากดอกเบี้ยเงินฝากประเภทออมทรัพย์จากทุกบัญชีทุกธนาคารรวมกันเกิน 20,000 บาทต่อปี หรือมีการยื่นแสดงความจํานงไม่ยินยอมให้ธนาคารนําส่งข้อมูลดอกเบี้ยแก่กรมสรรพากรไว้ ถือเป็นการแจ้งความประสงค์ไม่ใช้สิทธิยกเว้นภาษี ธนาคารจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% ของดอกเบี้ยรับเต็มจํานวนก่อนจ่ายดอกเบี้ยเข้าบัญชี
2. จากการปรับลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก จาก 5 ล้านบาท เป็น 1 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา หากสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากในสถาบันการเงินดังกล่าว จะได้รับเงินฝาก (เงินต้นและดอกเบี้ย) คืนจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากภายใต้วงเงินคุ้มครองที่กำหนด โดยจะคุ้มครองในลักษณะ “1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน (ไม่ใช่ต่อ 1 บัญชี)”
3. ทั้งนี้ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก เนื่องจากธนาคารเหล่านี้มีรัฐบาลเป็นประกันอยู่แล้ว
Facebook 👉 https://www.facebook.com/DekFinance101
Blockdit 👉 https://www.blockdit.com/dekfinance
LINETODAY 👉https://today.line.me/th/v2/publisher/10240
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
