14 ก.ค. เวลา 11:21 • การศึกษา
ปทุมธานี

การสื่อสารในการขาย (ตอนที่ 2)

ขายเก่งใน 7 วัน - เทคนิคการสื่อสารทางวาจา
1. การใช้ภาษาอย่างเหมาะสม
การใช้ภาษาที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารทางวาจา ควรหลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์ที่ซับซ้อนหรือภาษาทางเทคนิคที่ลูกค้าอาจไม่เข้าใจ การสื่อสารด้วยภาษาที่เป็นมิตรและสุภาพช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการสนทนา
ตัวอย่าง:
1.1 การอธิบายสินค้าด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย: เมื่อลูกค้าสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ พนักงานขายอธิบายด้วยภาษาง่ายๆ ว่า "สินค้านี้ใช้งานง่ายมาก เพียงแค่กดปุ่มนี้ก็สามารถเปิดใช้งานได้ทันที"
Pic : https://www.electronicshub.org/wp-content/
1.2 การใช้ภาษาที่เป็นมิตรและสุภาพ: เมื่อลูกค้าเข้ามาที่ร้าน พนักงานต้อนรับด้วยคำว่า "สวัสดีครับ/ค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมครับ/ค่ะ?" แทนที่จะพูดว่า "ต้องการอะไร?"
1.3 การหลีกเลี่ยงคำศัพท์ทางเทคนิคที่ซับซ้อน: แทนที่จะบอกลูกค้าว่า "สินค้านี้มีฟีเจอร์ AI ที่สามารถประมวลผลแบบ Machine Learning" อาจใช้คำว่า "สินค้านี้สามารถเรียนรู้และปรับปรุงการทำงานได้เอง"
1.4 การใช้คำถามเปิดในการสนทนา: เมื่อต้องการข้อมูลเพิ่มเติมจากลูกค้า ใช้คำถามเปิด เช่น "คุณต้องการใช้ผลิตภัณฑ์นี้เพื่อวัตถุประสงค์อะไรครับ/ค่ะ?" แทนที่จะถามว่า "คุณจะใช้ผลิตภัณฑ์นี้ไหม?"
1.5 การสรุปข้อความสำคัญ: หลังจากอธิบายรายละเอียดสินค้า ควรสรุปให้ลูกค้าฟังอีกครั้ง เช่น "ดังนั้น สินค้านี้สามารถช่วยคุณประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ครับ/ค่ะ"
Pic : fastwork-asset/subcategory_images/th/cover/operation/
2. การใช้เสียงและน้ำเสียงในการสื่อสาร
การใช้เสียงที่ชัดเจนและน้ำเสียงที่เหมาะสมช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการสื่อสาร เสียงที่ชัดเจนช่วยให้ลูกค้าเข้าใจข้อความที่เราต้องการสื่อได้ดีขึ้น ส่วนน้ำเสียงที่เป็นมิตรและอบอุ่นช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีและทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย
ตัวอย่าง:
2.1 การใช้เสียงที่ชัดเจน: เมื่อต้องอธิบายรายละเอียดสินค้า พนักงานใช้เสียงที่ชัดเจนและเน้นคำสำคัญ เช่น "สินค้านี้มีคุณสมบัติพิเศษในการช่วยประหยัดพลังงาน"
2.2 การใช้เสียงที่มีระดับเสียงเหมาะสม: ไม่พูดเสียงดังเกินไปหรือลดเสียงจนเบาเกินไป เช่น "ขอบคุณที่เลือกใช้บริการของเรานะครับ/ค่ะ"
2.3 การใช้เสียงที่มีจังหวะเหมาะสม: ไม่พูดเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป เช่น "สินค้านี้มีความทนทานสูง และสามารถใช้งานได้ในระยะยาว"
Pic : https://unannocontrolospreco.org/wp-content/uploads/2021/
2.4 การใช้เสียงที่อบอุ่นและเป็นมิตร: เมื่อต้อนรับลูกค้าใหม่ พนักงานใช้เสียงที่เป็นมิตรและอบอุ่น เช่น "สวัสดีครับ/ค่ะ ยินดีต้อนรับครับ/ค่ะ"
2.5 การใช้เสียงที่แสดงความมั่นใจ: เมื่อตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับสินค้า พนักงานใช้เสียงที่มั่นใจ เช่น "ใช่ครับ/ค่ะ สินค้านี้มีการรับประกันคุณภาพ"
Pic : https://www.jobtopgun.com/article/
3 การฟังและตอบสนองอย่างมืออาชีพ
การฟังลูกค้าอย่างตั้งใจและตอบสนองด้วยความสุภาพและมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญในการสื่อสารทางวาจา การฟังอย่างตั้งใจช่วยให้เราสามารถเข้าใจความต้องการและความกังวลของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น การตอบสนองด้วยความสุภาพและมืออาชีพช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
ตัวอย่าง:
3.1 การฟังอย่างตั้งใจ: เมื่อฟังลูกค้าพูด ควรให้ความสนใจและไม่ขัดจังหวะ เช่น "ฉันเข้าใจว่าคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับการใช้งานผลิตภัณฑ์นี้ใช่ไหมครับ/ค่ะ?"
3.2 การใช้ท่าทางที่แสดงความสนใจ: การพยักหน้าและการมองตาลูกค้าขณะที่เขากำลังพูดแสดงถึงความใส่ใจ
Pic : https://www.thaifranchisecenter.com/document/sme/picture/document_5
3.3 การตอบสนองด้วยความสุภาพ: เมื่อลูกค้าถามคำถาม ควรตอบด้วยความสุภาพ เช่น "ขอขอบคุณสำหรับคำถามครับ/ค่ะ สินค้านี้มีคุณสมบัติดังนี้..."
3.4 การให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์: เมื่อลูกค้ามีคำถามหรือข้อกังวล ควรให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ เช่น "หากคุณต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม เรามีทีมงานที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ตลอดเวลาครับ/ค่ะ"
Pic : https://genzmanpower.com/wp-content/uploads/2021/05/
3.5 การติดตามผลหลังจากการสนทนา: หลังจากพูดคุยกับลูกค้า ควรมีการติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าได้รับข้อมูลที่ต้องการ เช่น "หลังจากที่เราได้พูดคุยกัน คุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่ครับ/ค่ะ?"
Pic : https://www.smeleader.com/wp-content/uploads/2017/07/SEO-for-Insurance-Agents-and-Companies.jpg
อย่าลืมกดติดตามเพจ TPN Smart Center เพื่อไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการขาย!
หากคุณต้องการความรู้เพิ่มเติมและเทคนิคในการขาย เรามีหนังสือ E-book ที่เน้นการสื่อสารในการขายอย่างละเอียดและครอบคลุมทุกแง่มุม หรือถ้าคุณต้องการคำปรึกษาด้านธุรกิจ เรายินดีให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จ
โฆษณา