14 ก.ค. เวลา 11:33 • ข่าวรอบโลก
ผมลองไล่ไปทีละขัอเท่าที่พอจะนึกได้
- ขอแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสียในเหตุการณ์นี้และเหตุการณ์ใกล้เคียง
- เวรกรรมมีจริง สนองทันตา!
- เจ้าหน้าที่คุ้มกันเอาตัวเองบังกระสุน น่าเห็นใจมาก ถึงแม้เขาจะถูกฝึกมาแบบนั้น
- ทีม counter sniper น่าจะเห็นคนร้ายได้ไม่ยาก และสมัยนี้มี drones บินสำรวจพื้นที่ได้ด้วย
- คนร้ายมีโอกาสยิงอย่างน้อยๆ แปดนัด ซึ่งถือว่าเยอะมาก และอดีตท่านผู้นำก็โชคดีมากๆที่รอดมาได้
- คนร้ายประสงค์ชีวิต เพราะเล็งที่หัว ไม่ใช่ยิงขู่
1
- คนร้ายน่าจะยิงในระยะไม่ไกลมาก เพราะคนแถวนั้นเห็นตัวเขาก่อนจะเริ่มยิงด้วยซ้ำ
1
- คนร้ายไม่ใช่มืออาชีพ เพราะถ้าเป็น ยิงไปสองนัดแรกก็จบไปแล้ว
- ทีม counter sniper ต้องทำงานได้ดีกว่านี้ เพราะมีชาวบ้านเสียชีวิต และท่านอดีตผู้นำได้รับบาดเจ็บ แถมคนร้ายมีเวลายิงตั้งแปดนัด
- เวลาไปฟังหาเสียง ให้คิดก่อนว่าจุดไหนมีความเสี่ยง อยู่บ้านน่าจะดีกว่า
- ถ้าคนร้ายตั้งอาวุธในระนาบเดียวกับเป้าหมาย อาจยิงได้ถนัดกว่านี้
การที่คนร้ายอยู่ที่สูงแล้วยิงเป้าทึ่ต่ำกว่านั้นจะยากขึ้นไปอีก แต่ sniper ที่ถูกฝึกมาอย่างดีจะรู้ว่าต้องแก้ยังไง
- ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อย่าได้เอาระบบการปกครอง หรือตัวผู้นำมาเป็นข้ออัางให้เราเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนเหล่านั้น
ชีวิตเรา เราต้องรับผิดชอบเอง!
อย่าไปโทษโน่นโทษนี่
เพราะพวกที่โทษคนอื่นไปทั่วจะไม่ยอมโทษตัวเองว่าแท้จริงแล้วตัวคนเหล่านั้นเองเป็น
พวกขี้ขลาดตาขาว!
• ฉากในหนังเรื่องนี้ แสดงถึงการลอบสังหารที่ใช้อาวุธอานุภาพสูง
• จากข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศที่ผมดูบน Youtube เมื่อครู่ ได้ข้อมูลจากข่าวเพิ่มเติมว่า
- อาคารที่คนร้ายใช้เป็นจุดซุ่มโจมตีนั้น ห่างจากเป้าหมายราว 137 เมตรเท่านั้น!
ซึ่งอาวุธที่คนร้ายใช้ มีระยะยิงหวังผลราว 457 เมตร! นั่นหมายถึง คนร้ายไม่มีทักษะในการใช้อาวุธ
- ทำไมทีมคุ้มกันถึงไม่รักษาความปลอดภัยบนอาคารที่คนร้ายใช้เป็นจุดซุ่มยิง ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้เวทีมาก ไม่ถึง 200 เมตร!
โฆษณา