มีความรักระหว่างเรียน เสมือนจุดเทียนกลางสายฝนจริงหรือ???
วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าเรื่องความรักระหว่างเรียนของวัยรุ่นฉบับ ยุค 90 อย่างเรา ยุคนั้นเทคโนโลยียังไม่ทันสมัยเท่าปัจจุบัน ยังใช้เพจ จดหมาย โทรศัพท์รุ่นแรก ๆ เลย ส่วนตัวผู้เขียนนั้นมีแฟนตั้งแต่สมัยประถมตอนปลาย (หัวเราะ) ความรักของวัยรุ่นเด็ก ๆ ช่วงนั้นไม่มีอะไรมาก เราข้ามมาสู่ช่วงมัธยมศึกษาตอนต้นกันดีกว่าค่ะ การมีแฟนช่วงนั้นแน่นอนว่าคุณครูไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดถึงครอบครัว (ซึ่งเราปิดบังเอาไว้ตลอดมา) หัวเราะ เพราะคุณครูก็มองว่าในช่วงอายุนั้นเราควรให้ความใส่ใจกับการเรียนเป็นอันดับแรก
ในการคบกันในช่วงนั้นก็ไม่มีอะไรมาก เป็นความรักของวัยรุ่นคู่หนึ่งธรรมดาทั่วไป มีการจับมือถือแขนบ้างปกติ ไม่มีการเกินเลยอะไร (แอบขนาดว่าอย่าได้มีใครเห็นเด็ดขาด (หัวเราะ))
จนกระทั่งเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.3) สู่การเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมถึงชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซึ่งขณะนั้นผู้เขียนและแฟน ต่างแยกย้ายเรียนคนละโรงเรียน เค้าเรียนต่อโรงเรียนมัธยมชื่อดังของจังหวัด ส่วนตัวผู้เขียนนั้นเรียนวิทยาลัยการอาชีพ สาขาวิชาการบัญชีแห่งหนึ่ง ซึ่งสมัยนั้นคนส่วนใหญ่ หรือผู้ใหญ่ทั้งหลาย ต่างมองว่าวิทยาลัยการอาชีพนั้น
สาว ๆ ที่เรียนที่นั่นจะหมายถึง ผู้หญิงอ้อร้อ มีโอกาสสูงที่จะเรียนไม่จบ คิดว่าท้องก่อนแต่งบ้างแหละ ไม่รู้ทำไมถึงมองแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วเรียนที่ไหน สถาบันไหน ก็อ้อร้อ ท้องก่อนแต่งได้ทั้งนั้น ผู้เขียนเห็นปีนรั้วโรงเรียนหนีเรียนกันก็มี แต่ของเราสะดวกค่ะ ไม่อยากเรียนก็แค่เดินออกหน้าประตูแบบสวย ๆ เพราะประตูรั้วเปิดตลอดเวลา (หัวเราะ) จนกระทั่งมีเหตุต้องเลิกรากับแฟนจริง ๆ ด้วยเค้าเรียนสายวิทคณิตย์ คงเป็นวิชาที่เรียนค่อนข้างยาก ทำให้เกรดเฉลี่ยลดลงตามลำดับ
เมื่อเกรดเฉลี่ยลดลง แน่นอนว่าผู้ใหญ่คิดเป็นอันดับแรกเลยว่าต้องเพราะมีแฟนระหว่างเรียนแน่นอน อันที่จริงแล้วไม่ใช่เลย ผู้เขียนเรียนได้เกรดเฉลี่ยเพิ่มขึ้นทุกปี ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับการมีแฟนระหว่างเรียนตรงไหน แต่ไหนที่สุดผู้เขียนก็บอกเลิกเค้าไป เพราะไม่อยากเป็นสาเหตุให้พ่อแม่อีกฝ่ายคิดว่าเราเป็นต้นเหตุให้เค้ามีผลการเรียนไม่ดี และเพราะไม่อยากให้เค้ากังวลเรื่องของเรา ชอบคิดว่าเราต้องนอกใจโน่นนี่นั่นเพราะเรียนคนละที่ บราๆๆๆๆๆๆ ซึ่งผู้เขียนไม่ชอบความคิดแบบนั้น รักกันต้องเชื่อใจกัน (เหมือนจะดูดี)
แต่แล้วเหมือนเวรกรรมอะไรไม่รู้ได้มาพบเจอกับผู้ชายอีกคน ไม่ต้องถามความลงเอย ลึกซึ้งแน่นอน ซึ้งมากจนอยากจะบ้า (หัวเราะ) เจ้าชู้สุด ๆ ไปเลยจ้า ผู้เขียนก็ทนเก่งเนอะ 6 ปี เลยทีเดียว คบจนจบปริญญาตรี หาได้ท้องก่อนแต่งไม่ สุดท้ายก็เลิกรากันไป ขอไม่ลงรายละเอียดเนื่องจากอาจต้องพาดพิงเค้ามากจนเกินไป แต่สิ่งที่อยากจะบอกกับผู้อ่านทุกคนว่า
ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีความรักระหว่างเรียน ซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเรียนแต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง หากเรารู้หน้าที่ รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่จะเป็นใบเบิกทางให้เราได้มีอาชีพดี ๆ เราควรจะให้ความสำคัญนั้นเป็นอันดับแรก เพราะนั่นคือชีวิตของเราทั้งชีวิต สำหรับคนรักหรือแฟนนั้น คือขวัญและกำลังใจ ที่จะทำให้หนึ่งวันของเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใครมีคนรักดีก็ถือว่าโชคดีมีบุญ ก็ควรรักษาความรักดี ๆ เช่นนั้นไว้
แต่หากมีความรักแย่ ๆ ก็ไม่ควรให้ตัวเองอยู่ปักหลักเสียโอกาสดี ๆ ในชีวิตที่เราจะได้เจอคนดี ๆ คนอื่น ๆ ไป อย่าคิดว่าเราจะไม่เจอคนที่ใช่ ห้ามคิดว่าเค้าคือผู้ชายคนแรก ห้ามคิดว่าเค้าคือผู้หญิงคนแรก มีคนแรกก็มีคนที่ 2 3 ตามมาได้เสมอ หากมีโอกาสเลือกให้เลือกคนที่ดีที่สุด ไม่ใช่อะไรค่ะ ไม่งั้นเราจะเสียเวลาไปเปล่า ๆ ดังเช่นตัวผู้เขียนเอง ปัจจุบันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะให้โอกาสคนไม่เลือกนั่นเอง สุดท้ายขอชี้แนะ หนุ่มสาววัยรุ่นทุกคนว่า ความรักระหว่างเรียนมันไม่ได้แย่
มีแล้วมีกำลังใจในการเรียนย่อมดีแก่ตัวเรา ช่วยกันเรียนช่วยกันนำพาไปสู่ความสำเร็จ สำหรับวิธีทำอย่างไรไม่ให้ท้องก่อนแต่ง ผู้หญิงง่าย ๆ เลยกินยาคุมเลยจ้า เลือกแบบที่ช่วยปรับฮอร์โมนผู้หญิงจะดีที่สุด สวยด้วยปลอดภัยด้วยย่อมดีกว่า ส่วนผู้ชายหากชอบทางนี้ ก็ไม่ต้องอายที่จะพกถุงยางอนามัย ใช้ 2 อย่างคู่กันจะเลิศ ป้องกันการตั้งครรภ์ และป้องกันโรคที่จะมาจากการมีเพศสัมพันธ์ คือเลิศ ชนะทุกสิ่งขอบอก #พลังชีวิตภายใต้กะลาครอบ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
