Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Attorney Bunyarit (ทนายบอล)
•
ติดตาม
15 ก.ค. 2024 เวลา 05:43 • ความคิดเห็น
Advocacy Note Ep.3
เรื่อง ไต่สวนคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล
📍เมื่อต้นปีผมได้ทำอุทธรณ์คดีแพ่งเรื่องหนึ่งครับ ซึ่งเมื่อจัดทำอุทธรณ์เสร็จสิ้นแล้ว ในวันยื่นอุทธรณ์คู่ความฝ่ายที่อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางพร้อมกับอุทธรณ์ด้วย ซึ่งเงินค่าธรรมเนียมที่ต้องมาวางก็หมายถึง เงินค่าขึ้นศาลชั้นอุทธรณ์ และเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนที่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งได้วางไว้ต่อศาล โดยเมื่อคำนวณเงินค่าธรรมเนียมทั้งสองที่ลูกความผมจะต้องนำมาวางต่อศาล รวมเป็นเงินประมาณ 150,000 บาท
เมื่อเงินที่ต้องนำมาวางศาลสูงเช่นนี้ ทำให้ตัวความไม่มีเงินเพียงพอมาวางได้ แต่กฎหมายก็ไม่ใจร้ายขนาดนั้นครับ ยังพอมีวิธีที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ที่ไม่มีเงินเพียงพอ สามารถขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเข้าเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดครับ
💬วันนี้เลยอยากจะนำแนวทางปฏิบัติมาเล่าให้ฟังครับ
ในเรื่องการขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล จะมีหลักเกณฑ์ในการที่ศาลจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต หรืออนุญาตให้ยกเว้นได้เพียงบางส่วน
ในบทบัญญัติของกหมายบัญญัติไว้คือ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156/1 วรรคสอง วางหลักว่า "ห้ามมิให้ศาลอนญาตตามคำร้องเช่นว่านั้น เว้นแต่จะเป็นที่เชื่อได้ว่าผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลหรือหากผู้ร้องไม่ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลจะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรเมื่อพิจารณาถึงสถานะของผู้ร้อง และในกรณีผู้ร้องเป็นโจทก์หรือผู้อุทธรณ์หรือฎีกา การฟ้องร้องหรืออุทธรณ์หรือฎีกานั้นมีเหตุผลอันสมควรด้วย"
จากบทบัญญัติดังกล่าว จะสามารถแยกหลักเกณฑ์ ได้ 2 อย่าง คือ
1.ผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินเพียงพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาล หรือหากไม่ได้รับยกเว้นจะได้รับความเดือดร้อนเกินควร เมื่อพิจารณาตามสถานะ
2.การฟ้องร้อง หรืออุทธรณ์ หรือฎีกา ต้องมีเหตุผลอันสมควร
จะเห็นได้ว่ากฎหมายไม่ได้บอกว่าคนที่จะขอยกเว้นค่าธรรมเนียมจะต้องเป็นคนยากจน หรือไม่มีเงินเสียทีเดียว แต่ทั้งนี้การจะยื่นขอได้นั้นนอกจากเรื่องเงินแล้ว ยังต้องพิจารณาถึงเหตุที่ฟ้องหรืออุทธรณ์หรือฎีกานั้นด้วยว่ามีเหตุที่อาจจะชนะคดี หรือเพียงพอที่จะให้ศาลพิจารณาต่อไปได้หรือไม่ กรณีนี้เป็นการป้องกันถึงคนที่มีเจตนาไม่สุจริตต้องการทำให้คดียืดเยื้อ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น หากเรายังพอมีเงินแต่การที่จะต้องนำเงินทั้งหมดไปชำระค่าธรรมเนียมศาล
💡ดังนั้น ในการยื่นคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของทนายความ จึงต้องเขียนให้เห็นถึงสาเหตุว่าคดีของเรามีเหตุที่อาจจะชนะคดีได้อย่างไร โดยแนบเอกสารหลักฐานต่าง ๆพร้อมคำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง(ถ้ามี) และเขียนให้เห็นถึงว่าคู่ความฝ่ายตนนั้นไม่มีทรัพย์สิน หรือมีทรัพย์สินอยู่บ้างแต่การวางเงินค่าธรรมเนียมจะทำให้เดือดร้อนอย่างไร เช่น มีภาระค่าใช้จ่ายมาก หรืองานที่ทำอยู่มีปัญหาอย่างไร ซึ่งผมมีตัวอย่างการเขียนคำร้องตามภาพในคอมเมนท์ครับ
🏛พอผ่านการยื่นคำร้องไปแล้ว ต่อมาคือกระบวนพิจารณาในศาลครับ ทีนี้ผมจะพูดถึง การเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆเพื่อประกอบการไต่สวนคำร้องนะครับ
จากประสบการณ์ที่ผมเคยเป็นทั้งคนยื่นคำร้องเอง และเป็นคนคัดค้านคำร้อง อยู่บ้าง ทำให้พอจะคลำๆเป็นแนวทางได้ว่า ในการไต่สวนคำร้องนั้น ผู้ยื่นคำร้องควรที่จะนำเอาพยานหลักฐานมาประกอบให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าเอาแต่พูดขึ้นมาลอย ๆว่าไม่มีเงิน ๆหรือพูดลอย ๆว่าตัวเองเดือดร้อน อย่างนั้นอย่างนี้ อย่างเช่นที่ผมเพิ่งได้ทำการไต่สวนไป ผมอ้างว่ากิจการของตัวความย่ำแย่ เราก็ต้องหาว่าย่ำแย่อย่างไร เช่น แหล่งข่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจของกิจการนี้ , รายการเดินบัญชีของตัวความ หรือหลักฐานอื่น ๆเพื่อสนับสนุนข้ออ้างของตน
⁉️ผมมีข้อสังเกตหนึ่งนะครับว่าค่าธรรมเนียมศาลที่จะขอยกเว้นนั้น นอกจากหมายถึงการขอยกเว้นค่าขึ้นศาลแล้วกฎหมายยังหมายความรวมถึงค่าธรรมเนียมใช้แทน ด้วยนะครับ
🎉ซึ่งภายหลังจากไต่สวนเสร็จ คดีที่ผมเพิ่งไต่สวนฯมา ศาลก็มีคำสั่งในวันนั้นเลย ว่าให้ยกเว้นได้ครึ่งหนึ่ง ครับ อย่างน้อยก็ทำให้ตัวความประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้บางส่วน ไม่ต้องชำระเงินเป็นแสน ๆอย่างตอนแรกครับ
ขอบคุณทุกคนครับ🙏😃
เรื่องเล่า
ความรู้รอบตัว
ความรู้
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย