16 ก.ค. เวลา 05:48 • ประวัติศาสตร์

ว่าด้วยเรื่อง “มูลค่าที่เหมาะสม”

สิ่งต่างๆ ในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่มีมูลค่า
มนุษย์เรียนรู้ที่จะเก็บสะสมสิ่งของต่างๆมานานแสนนาน ตั้งแต่อดีต จนถึง ปัจจุบัน
....ก้อนหิน ต้นไม้ โลหะ หินสวยงาม เปลือกหอย แร่ต่างๆ
เงิน ทอง สิ่งสมมุติแทนมูลค่า หุ้น เงินกระดาษ เงินดิจิทัล ....
สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะมีมูลค่าขึ้นมา ได้อย่างไร ?
... คำตอบอย่าง่าย คือ มี “ผู้คน ให้ มูลค่า” กับสิ่งนั้น
เมื่อเรามาลองขยายเนื้อความ คือ มีผู้คนต้องการ ของสิ่งนั้น : มีความต้องการเกิดขึ้น ความต้องการมากกว่า , สิ่งของนั้น หายาก/ผลิต ยาก
ความต้องการอาจะมาจาก ของนั้นสามารถนำไปใช้ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเองได้ หรือเกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ ทำให้ผู้คน มีความอยากได้มาครอบครอง มากยิ่งๆขึ้น
ส่วนความหายาก/ผลิตยาก นั้น เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก
ซึ่งขึ้นอยู่กับ แหล่งที่พบทรัพยากรตามธรรมชาติ ความรู้ เทคโนโลยี ... จะพบว่า เมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยเหล่านี้ จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น .... หินสวยงาม หรือโลหะมีค่า ในสมัยอดีต หายากเพราะ ไม่มีเทคโนโลยี แต่ เมื่อเข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดขึ้น ทำให้ทีกระบวนการผลิตเกิดได้ง่ายขึ้น มูลค่าจะลดลงตามมา
... เมื่อ มีองค์ประกอบ 2 สิ่ง ย่อมทำให้ เกิดมูลค่ามากขึ้น
มูลค่า เกิดขึ้น ตามกลไก ของผู้คนในระบบดังกล่าว
ผู้ให้มูลค่า vs ผู้ยอมรับมูลค่า นั้นๆ จึงเกิด สิ่งที่เรียกว่า ราคาที่เหมาะสม หรือมูลค่าที่เหมาะสม ของสิ่งของชิ้นนั้นๆ
.... การซื้อขาย แพร่เป็นวงกว้าง มากขึ้น จึงเกิดการพัฒนาตลาดกลาง เพื่อ แลกเปลี่ยน ซื้อขาย มูลค่ากันเกิดขึ้น ทำให้การตีมูลค่า มีความไกล้เคียง ความต้องการซื้อ ความต้องการขาย มากที่สุด เมื่อมูลค่านั้นถูกตีมูลค่าจาก ผู้คนส่วนใหญ่
ตลาดพระเครื่อง ตลาดเพชรนิลจินดา ตลาดทอง ตลาดเงิน ตลาดหุ้น ตลาดคริปโต เป็นต้น....
.... แต่ หลายครั้ง มนุษย์ผู้ฉลาดเทียมพระเจ้า(Homo Deus) ก็อาจลืมไป ว่า ...
..... สิ่งที่มีค่ามากที่สุดนั่น อาจะไม่ใช่ทั้ง หินสวยงาม เพชรนิลจินดา แร่มีค่า เงิน ทองคำ เงินกระดาษ หุ้น หรือคริปโต เลย ... หากแต่คือ ”เวลา“
1
• บทความต่อไป เราจะมาเรียนรู้วิธีการ ตีค่าหรือหามูลค่า หุ้น อย่างง่ายๆ มีอะไรบ้าง.... รอติดตามกัน
1
โฆษณา