16 ก.ค. เวลา 08:41 • ธุรกิจ
กรุงเทพ

แบงก์เข้มปล่อยกู้พ่นพิษ ฉุดสินเชื่อดิ่ง-หนี้เสียพุ่ง

เปิดข้อมูล ‘ลูกหนี้’ หลังมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ธปท.มีผลบังคับใช้
มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending: RL) ส่งผลให้แบงก์เข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยกู้ ส่งผลให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อลดลง ในขณะเดียวกัน ‘หนี้เสีย’ กลับเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบของมาตรการ
ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นมา ธปท.ได้ออกมาตรการ RL ที่มุ่งเน้นการปรับโครงสร้างหนี้และคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ห้ามคิดค่าปรับหากชำระหนี้ก่อนกำหนด และช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางด้วยการเปลี่ยนหนี้เป็นสินเชื่อระยะยาว
ผลต่อการปล่อยสินเชื่อ
แม้ว่ามาตรการนี้จะช่วยให้ลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ก่อนเป็นหนี้เสีย แต่กลับส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อในระบบเข้มงวดขึ้น ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าที่ขอสินเชื่อเพิ่มเติม มีอัตราการปฏิเสธสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและนำไปสู่ปัญหาค้างชำระและหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น
ข้อมูลการปรับโครงสร้างหนี้
ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2567 มีลูกหนี้เข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ 8.2 แสนราย คิดเป็นมูลค่า 2.3 แสนล้านบาท ซึ่งมาตรการ RL ช่วยให้ลูกหนี้ไม่ตกเหว แต่การปล่อยสินเชื่อในระบบกลับลดลง โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อบัตรเครดิต
ข้อมูลสินเชื่อที่ลดลงและหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น
สินเชื่อบ้าน
ยอดอนุมัติสินเชื่อลดลง 23.8%
สินเชื่อรถยนต์
ยอดอนุมัติสินเชื่อลดลง 12.5%
สินเชื่อบัตรเครดิต
ยอดอนุมัติสินเชื่อลดลง 23.6%
ขณะที่หนี้เสียกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถยนต์ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนเมษายน 2567
ยอดลูกหนี้ถูกบังคับคดีพุ่งสูง
ณ สิ้นพฤษภาคม 2567 ยอดลูกหนี้ที่ถูกบังคับคดีอยู่ที่ 2 ล้านคดี คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 16 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้ของสถาบันการเงิน 1.15 ล้านคดี และหนี้บัตรเครดิต 4.88 แสนคดี
สรุป
มาตรการ ที่ธปท.ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและควบคุมการปล่อยสินเชื่อมีผลกระทบทั้งด้านบวกและลบ แม้ว่าจะช่วยลูกหนี้ให้ไม่ตกเหว แต่การปล่อยสินเชื่อในระบบกลับลดลง ทำให้เกิดปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้นในหลายสินเชื่อและยอดลูกหนี้ที่ถูกบังคับคดีก็พุ่งสูงขึ้นตามมา
สิ่งที่ควรทำคือขยายระยะเวลาสินเชื่อทั้งระบบเป็นการเร่งด่วน
#ฮอยรังสตูดิโอ
โฆษณา