16 ก.ค. เวลา 09:25 • คริปโทเคอร์เรนซี

นักลงทุนควรรับมืออย่างไรกับการเทขายของรัฐบาลเยอรมัน กับ การจ่ายเจ้าหนี้คือของ Mt.Gox

มหากาพย์การแจกจ่าย BTC คืนแก่เจ้าหนี้ของ Mt. Gox ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยเริ่มต้นเบาๆ ในการโอน BTC ไปยังที่อยู่กระเป๋าคริปโตที่ไม่รู้ไปราวๆ เกือบแสน BTC แล้ว ซึ่งงานนี้อาจเป็นฝ่ายนักลงทุนที่ต้องเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
3
อย่างไรก็ตามทาง Stop Loss ของเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราเตรียมวิธีรับมือกับการคืนเงินเจ้าหนี้ของ Mt. Gox มาให้แล้ว
ในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นบททดสอบที่ท้าทายกับนักลงทุนเหลือเกิน ราวกับอยู่บนรถไฟเหาะที่เราคาดเดาไม่ได้ว่าจะหมุนไปทางไหน ล่าสุดก็มีสองเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโทเคอเรนซี นั่นคือ การเทขายบิตคอยน์ของรัฐบาลเยอรมัน และการชำระหนี้ของ Mt. Gox
ซึ่งทั้งสองปัจจัยเป็นตัวกดดันให้ตลาดคริปโทเคอเรนซีปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้เราเห็นข่าวการลอบยิงผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากนั้นบิตคอยน์ปรับตัวขึ้น แล้วดึง Sentiment ตลาดขึ้นเขียวเกือบยกแผง
บทความนี้ Stop loss จะแนะนำวิธีที่นักลงทุนควรรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ทุกคนทราบกันไหมว่า ตั้งแต่รัฐบาลเยอรมันเริ่มเทขายบิตคอยน์มาตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน และ ปัจจัยการชำระหนี้ของ Mt.Gox บิตคอยน์ปรับตัวลงไปมากสุดถึง -20% จากจุด All Time High
แนวรับ 60,000 เหรียญ จากที่เคยเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ก็กลายเป็นแนวต้านสำคัญไปเสียแล้ว ณ ตอนนี้
เงินจากกองทุน ETFs ที่แม้จะมีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง 5 วันติดแล้ว แต่นั่นมิใช่ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลได้เลย
หรือแม้แต่ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่เราคาดการณ์ว่ากันยายนนี้ จะเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรก FED ก็เริ่มดึงบิตคอยน์กลับขึ้นมาได้ แต่หากดูกราฟตอนนี้ในลักษณะ Sideway Down ก็ทำให้นักลงทุนกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะหอบเงินไปลงทุน
ดังนั้นทางเรา Stop loss จึงมองว่ากลยุทธิ์สำหรับการลงทุนคริปโทเคอเรนซีในตอนนี้คือการรอจังหวะเข้าซื้อ การเทรดก็เหมือนชีวิต บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง หรือแสดงความเก่งตลอดเวลาให้คนอื่นเห็น
แต่เราต้องเก่งให้ถูกจังหวะ เก่งแบบมีชั้นเชิง เหมือนกับการลงทุนที่ค่อย ๆ ใจเย็น หาจังหวะในการเข้าซื้อและขาย มีแผนสำรองเสมอ และคิดให้แตกต่างจากคนอื่น จงมีแผนการเทรดเป็นของตัวเอง เพราะบางทีจังหวะที่คนอื่นกลัว อาจเป็นโอกาสทองสำหรับซื้อของเรา หรือจังหวะซื้อของเรา อาจเป็นจุดขายของคนอื่น ทุกอย่างย่อมเกิดขึ้นได้หมด
ดังนั้นตอนนี้นักลงทุนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่
#ติดตามข่าวสารอยู่ตลอด เราอาจต้องติดตามความคืบหน้าและเฝ้ากระบวนการชำระหนี้คืนของ Mt.Gox ที่อาจมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาบิตคอยน์ และเหรียญอื่น ๆ ใน Ecosystem
#รักษาวินัยในการทำแผน Money management เพื่อทยอยเก็บสะสม หรือมีเงินสดสำรองไว้เผื่อเก็บเป็นกระสุนในการทยอยสะสมเป็นระยะ
#ระมัดระวังการตัดสินใจเชิงอารมณ์ แน่นอนว่าบางทีเราแทงสวนตลาดหรือใช้ความรู้สึก หากทายถูกและรวยขึ้นพริบตาได้ แต่ต้องยอมรับว่าตลาดคริปโทนั้นมีผันผวนสูง หลีกได้ก็ควรหลีก เพราะการเทรดชนข่าวหรือเทรดสวนตลาดไม่ก่อให้เกิดผลดีในระยะยาว ดังนั้นเราจึงไม่ควรตัดสินใจซื้อหรือขายด้วยความตื่นตระหนก
นอกจากนี้สิ่งที่หลอกเราไม่ได้คือสถิติ ทุกครั้งที่เกิด Bitcoin Halving หลังจากนั้นเกือบปี จะเข้าสู่ตลาด Bull Run เต็มตัว ซึ่งส่วนมากจะเป็นไตรมาส 3 และ 4 ของทุกปี ซึ่งปีนี้อาจพิเศษหน่อยตรงที่ทำ All time high ก่อน Halving
แต่อย่าลืมว่าสถานการณ์โลกตอนนี้เริ่มเป็นใจให้ตลาดคริปโทเคอเรนซีแล้ว ทั้งปัจจัยเรื่องของโอกาสการลดดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นปลายปีนี้ และการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่หลายคนเริ่มเทใจให้ทรัมป์ ซึ่งหากทรัมปืขึ้นมา จะทำให้กฎเกณฑ์ของสถาบันทางการเงินในประเทศเริ่มลดลง ซึ่งจะทำให้เกิดเงินไหลเข้ามากขึ้นอย่างแน่นอน
ไม่รู้ว่าบังเอิญหรืออะไรอย่างไร แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ มันชี้ชัดเหลือเกินว่าปลายปีนี้จนถึงปีหน้า อาจเป็นช่วงขาขึ้นของตลาดคริปโทเคอเรนซีเสียแล้ว
โฆษณา