Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
S E N S E 1i
•
ติดตาม
16 ก.ค. เวลา 09:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ
หุ้น A ราคา 10$ , ถามว่าราคา ถูก ,แพง หรือ เหมาะสม?
นักลงทุน ก. ตีมูลค่าว่า แพง
นักลงทุน ข. ตีมูลค่า ว่า ถูก
นายหน้า ค. ตีมูลค่าว่า ราคาเหมาะสม
จาก 3 ตัวอย่างข้างต้น ... ทำให้เราทราบว่า หุ้น A จะถูก หรือ แพง หรือ เหมาะสม ขึ้นอยู่กับ ว่า “ใครตีมูลค่า”
1
... เมื่อแต่ละคนมีแนวความคิด ชุดความรู้ ความเชื่อ จากสภาพแวดล้อม สังคม ที่มาแตกต่างกันกัน
ดังนั้น มูลค่า ของแต่ละคน จึงไม่เท่ากัน
สิ่งนี้ เรียกว่า “ราคาตลาด“หรือ “market value" ซึ่งอาจจะถูก หรือ ผิด ก็ได้ ขึ้นอยู่กับคนส่วนใหญ่ในตลาด
.... แต่เราควรจะมี มูลค่า ของสิ่งนั้น จริงๆ มิใช่หรือ ที่ซึ่งทุกคนสามารถหามูลค่าได้เท่ากัน บนพื้นฐานของสิ่งที่ หุ้น A มีอยู่จริงๆ เช่น เงินสดปัจจุบัน กระแสเงินสดในอนาคต สินทรัพย์ อาคาร ที่ดิน หักลบด้วย หนี้สิน และค่าใช้จ่าย ... สิ่งนั้นเรียกว่า “ Intrinsic Value"
1
แล้วเราจะตีมูลค่าหุ้น A หา Intrinsic Value อย่างไรได้บ้าง?
... เรามิใช้คนแรกที่ตั้งคำถามเหล่านี้ เหล่าผู้รู้ กูรูในแวดวงการลงทุนในอดีต จนถึงปัจจุบัน ได้คิดค้น มาให้แล้ว
ดังนั้น เราผู้โชคดี ย่อมต้องสนใจเรียนรู้ เพื่อนำมาใช้ให้ก่อประโยชน์สูงสุด ต่อตนเองและสังคม
ทั้งนี้ เป็นการยกตัวอย่างง่ายๆ เพื่อประกอบการทำบทความ ในการทำความเข้าใจอย่างถ่อแท้ ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
• Peter Lynch's Ratio Valuation •
.... นักลงทุน ผู้เขียนหนังสือ One Up On Wallstreet ผู้ที่มีแนวทางการลงทุนในหุ้น เติบโต เป็นส่วนใหญ่
เขาจึงคำนึงถึงอัตราการเติบโตของหุ้น เป็นสำคัญ
สูตรคำนวน Intrinsic Value = Price*[(EPSgrowth+ Dividend)/(PE ratio)]
ยกตัวอย่าง หุ้น A มี การคาดการณ์ EPS growth ~ 13.36%, dividend yield 5.1%, PE ratio 19.56 ,EPS 0.91 ,Price 17.8 $
1
Intrinsic Value = 16.8$
• Dividend Discount Model Valuation •
การใช้เงินปันผลที่สามารถจ่ายได้จริงของหุ้น A ในอดีต มาคำนวนคาดการณ์ต่อไปในอนาคต 5-10 ปี แล้ว นำผลทั้งหมดมารวมกัน แล้วจึงทำการคิดลดกลับมาเป็นมูลค่าในปัจจุบัน ด้วยอัตราการคิดลดที่เหมาะสม(discount rate of WACC)
1
ยกตัวอย่าง หุ้น A มี historical Dividend recorded 10% , current dividend 0.9$/หุ้น , อัตราคิดลด(Discount rate) 7.32% , ROE 32.51%, Payout ratio 0.9, terminal growth rate 2.6% , sustainable Growth 3.35%
Intrinsic Value = 36.21$
1
• Graham's Valuation •
.... บิดาแห่งการลงทุนเน้นคุณค่า “Benjamin Graham" เป็นผู้วางรากฐาน แนวความคิด การลงทุนหุ้น โดยอ้างอิงจากมูลค่าพื้นฐาน เปรียบเทียบกับ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ
หากมูลค่าของหุ้น A ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น อย่างน้อย 50% หรือเรียกว่า มี Margin of Safety (ส่วนเผื่อความปลอดภัย) อย่างน้อย 50%
โดยเปรียบเทียบกับผลตอบแทนของ สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงสุด นั่นคือ พันธบัตรรัฐบาล หรือ พันธบัตร ระดับ AAA ระยะยาว
สูตรการคำนวน คือ EPS * [(PE ratio+(2g*Next 5yrs EPSgrowth))*Average AAA bond yield]/current AAA bond yield
สมมุติ หุ้น A
มี EPS 0.91 , PE ratio 8.5, EPS growth for the next 5 years 13.36% , 2g = 2, Average AAA bond yield = 4.4%, Current Yield of AAA Bond = 5.25%
1
เมื่อใส่ค่าในสมการ Intrinsic Value = 26.86$
คิดอัตราส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) ที่ 50% ดังนั้น มูลค่าที่ปลอดภัยคือ 13.43$
1
• Dicount Free Cash Flow Model Valuation •
... เป็นอีกหนึ่งวิธีในการคำนวนมูลค่าเหมาะสม ที่ถูกแนะนำโดยนักลงทุนระดับตำนานที่ยังมีชีวิตอยู่ของโลก คือปู่ ”Warren Buffet"
ปู่ เชื่อว่า มูลค่าที่เหมาะสมของกิจการ เกิดจาก กระแสเงินสดอิสระทั้งหมดของกิจการ เพราะว่า กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow : FCF) คือเงินที่ หุ้น A มีอยู่จริงและสามารถจ่ายออกมาเป็นเงินปันผล ให้กับผู้ถือหุ้นได้จริง “จับต้องได้จริง” รวมกับ เงินสดและทรัพย์สินที่เทียบเท่ากับเงินสด หักลบด้วยหนี้
1
.... การที่เราจะตีมูลค่าหุ้นในอนาคตได้โดยใช้ การคิดลดจากกระแสเงินสดอิสระ หุ้น A ต้องมีการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ และเติบโตขึ้นในอนาคต
ยกตัวอย่างหุ้น A
มี Historical recorded Free Cash Flow growth = 14.49% , initial FCF 200.58$ , discount rate = 7.32% , terminal growth rate = 2.6%, number of the years forecast = 10 year , Cash & Equivalent = 373.41$, Total debt = 26.24$
1
ดังนััน Intrinsic Value = 29.92$
1
.... จาก วิธีการคำนวนมูลค่าเหมาะสมของหุ้น A ด้วยวิธีที่แตกต่างกัน โดยมีเหตุผล รากฐานความคิด และสิ่งที่ถูกต้องเป็นพื้นฐาน
... แม้ว่าผลการคำนวนออกมาแตกต่างกัน แต่จะแตกการกันไม่มาก และ เป็นการแตกต่างอย่างมีหลักการและเหตุผลรองรับ
ถามว่า และวิธีใดดีที่สุด แม่นยำมากที่สุด
คำตอบคือ ”ไม่มี“ เนื่องจากแต่ละวิธี ก็เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ เหมาะสมกับแต่ละประเภทของ หุ้น
1
เช่น หุ้นเติบโต อาจจะใช้วิธีของ peter lynch , Discount Cash Flow Model(DCF)
หุ้นอิ่มตัว หุ้นปันผล อาจจะใช้วิธี DCF , Discount Dividend Model
เป็นต้น...
แต่ทุกวิธีการตีมูลค่านั้นล้วนย่อมต้องพิจารณาปัจจัยด้านคุณภาพของหุ้น(Quality Assessment) ควบคู่กันไปด้วยเสมอ เช่น Five Force Model , MOATs Analysis
1
และนักลงทุนต้องมีความเข้าใจในสภาพของตลาดอย่างถ่องแท้ จึงสามารถคาดการณ์ การเติบโตและทิศทางในอนาคตของหุ้นได้อย่างถูกต้องที่สุด
.... เพราะว่า การลงทุนด้วยวิธีที่ถูกต้องและมีเหตุผล ในมูลค่าที่เหมาะสม อย่างต่อเนื่องยาวนาน ทบต้น และสม่ำเสมอ นั้นทำให้เปลี่ยนฐานะ ย่อมเป็นไปได้
ดังคำกล่าวของ "Albert Einstein" ผลตอบแทนทบต้นถือเป็น สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของโลก
1
ถ้าคุณลงทุนอย่างถูกต้อง และนำผลตอบแทนกลับมาทบต้นลงทุนไปเรื่อย ผลที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับ การลงทุนแบบปกติ ช่างแตกต่างกันอย่างน่าอัศจรรย์
1
..... ดังนั้น แม้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงที่สูง เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น แต่การไม่ลงทุนอะไรเลย ย่อมเสี่ยงยิ่งกว่า นั่นคือเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ค่อยเพิ่มขึ้นในระยะยาว คอยกัดกิน ลดทอน มูลค่าเงิน ในกระเป๋าของเรา ทุกวัน ทุก ทุก วัน.....
1
References
•
https://images.app.goo.gl/BgQoQJeD4YicFJFv7
•
https://images.app.goo.gl/p4TpcHxmukXsoiBB9
•
https://www.investopedia.com/terms/b/bengraham.asp
•
https://youtu.be/3kHieMxPcaU?si=qOBumoV-PssMqJMz
•
https://www.oldschoolvalue.com/stock-valuation/benjamin-graham-formula/
•
https://valueinvesting.io/fair-value-calculator
หุ้น
การลงทุน
ธุรกิจ
1 บันทึก
2
6
1
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย