16 ก.ค. เวลา 10:45 • สิ่งแวดล้อม
น้องหมอคางดำ ได้รับอนุญาติจากกรมประมงให้นำเข้ามาเพื่อผลมพันธุ์ ครั้งแรกในปี 2553 ผู้อนุมัติคือธิบดีกรมประมง ชื่อ "......" ซึ่งอธิบดีกรมประมงอาจอ้างการอนุมัติ ภายใต้มติเห็นชอบคณะกรรมการด้านความหลากหลายและความปลอดภัยทางชีวภาพของกรมประมง และผู้ขออนุญาตนำเข้าก็คือ บริษัทเอกชนรายใหญ่ชื่อ "ซีพีเอฟ" แต่ซีพีเอฟ ก็เถียงคอเป็นเอ็นว่า ที่เอามาน่ะมันตายเรียบทั้ง 2,000 ตัว เอาไปฝังกลบหมดแล้วอย่างถูกต้อง! แล้วมันโผล่มาจากไหน (วะ)!?
2
แต่เมื่อสิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ ส่วนที่ต้องหาคนรับผิดชอบก็ต้องหาไป (ตามสูตรสำเร็จ) ส่วนที่ต้องแก้ปัญหานั้น แน่นอน!
1
นายกฯเศรษฐา ได้สั่งการ (โยน!) ให้ร้อยเอกธรรมนัสฯ อดีตศิษย์เก่า แคลิฟอเนียร์ ยูนิเวอรฺ์ซิตี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา รมต.เจ้ากระทรวงเกษตรฯ ที่มีหน้าที่โดยตรงไปแก้ไข โดยร้อยเอกธรรมนัสฯ ได้ประกาศให้กรมประมงเพิ่มราคารับซื้อปลาหมอคางดำ จากราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 8 บาท เป็น 15 บาท รวมทั้งจะประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ซื้อแล้วฝังกลบ ไม่ก็ส่งต่อไปยังโรงงานปลาป่น
4
ดิฉันเห็นด้วยกับท่านธรรมนัสฯ ที่ควรจะประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ท่านควรจะใช้สมองคิดให้มากกว่านี้ โดยควรต้องประสานเจ้ากระทรวงสร้างกระแส ซึ่งก็คือกระทรวงวัฒนธรรม ที่เป็นกระทรวงขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power ให้รีบอัดแคมเปญ "Blackchin Tilapia Hunting Festival 2024" ขึ้นมาอย่างเร่งด่วน เพื่อชิงเงินรางวัล โดยการถ่ายทอดไปทั่วโลก เพราะฝรั่งตาน้ำข้าวนั้น ชื่นชอบ fish hunting เป็นชีวิตจิตใจ
3
และนอกจากนี้ ควรมีการจัดประกวด "FineDine With Blackchin Tilapia Festival 2024 " โดยเชิญเชฟชื่อดัง มาจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อร่วมกันคิดเมนูให้กระหึ่มโลก
1
นักวิชาการบอกว่า
มันปรับตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
มีความอึดถึก หิวบ่อย กินดุไม่เลือก
ซ้ำยังเก่งกาจในการผลิตทายาททุกๆ 22 วัน
โอกาสรอดชีวิตของลูกๆพวกมันคือ 99%!
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจกับปรากฎการณ์
invasion บุกกรุงฯของพวกมัน
3
โฆษณา