ประเทศที่นิยมลอบสังหารผู้นำ
โดย
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
5 พฤศจิกายน 2024 จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ค่อนข้างแน่ว่าจะเป็นการแข่งขันระหว่างไบเดนจากพรรคเด็มโมแครตและทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน
คนอเมริกันและคนทั้งโลกได้ดูคลิปของไบเดน ต่างวิจารณ์ว่าไม่น่าจะบริหารประเทศต่อไปไหว เพราะแกเริ่มหลงๆ ลืมๆ เงอะๆ เงิ่นๆ จะประคองการบริหารชาติบ้านเมืองให้ครบเทอมที่จะหมดวาระในเดือนมกราคม 2025 ก็แทบจะไปไม่ไหว แต่ทำไมยังมีคนเชียร์ว่าจะต้องเอาไบเดนไปแข่งขัน
สงสัยกันว่า การตัดสินใจในการบริหารสหรัฐที่แท้จริง ไม่น่าจะใช่ไบเดน แต่น่าจะเป็นคณะที่มองไม่เห็นซึ่งอยู่หลังฉากมากกว่า
ยิ่งไบเดนอ่อนล้าอ่อนแรงหลงๆ ลืมๆ ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ก็ยิ่งดี เพราะพวกมือที่มองไม่เห็นจะตัดสินใจแทนได้ทั้งหมด พวกมนุษย์ล่องหนที่อยู่เบื้องหลังไบเดน น่าจะเป็นพวกสายเหยี่ยวที่ต้องการสงครามใหญ่
สงครามความขัดแย้งตามภูมิภาคหลากหลายของโลกมีความจำเป็นสำหรับการดำรงสถานะมหาอำนาจของสหรัฐ มีสงครามก็ต้องการอาวุธ อุตสาหกรรมการผลิตและการค้าอาวุธของสหรัฐก็ยังดำเนินต่อไปได้
คณะอเมริกันเชื้อสายยิวที่ต้องการให้อิสราเอลรุกรานบ้านเรือนและแผ่นดินของพวกปาเลสไตน์ก็ยังใช้ไบเดนเป็นหุ่นสนับสนุนอิสราเอลได้ สายเหยี่ยวทั้งหลายที่ใช้อูเครนเป็นตัวแทนในการทำสงครามกับรัสเซียก็ยังทำได้ต่อไป
ยิ่งผู้นำสหรัฐปฏิบัติหน้าที่ด้วยตนเองไม่ได้ ยิ่งดีมีโอกาสมากสำหรับพวกสายเหยี่ยวผู้ปรารถนาสงครามที่จะนำมาซึ่งอำนาจและความมั่งคั่ง
ทรัมป์ประกาศชัดเจนว่าถ้าตัวเองได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกรอบ จะพิจารณาเรื่องสงครามอูเครนและรัสเซียเสียใหม่
ทรัมป์เป็นนักธุรกิจ ไม่สนใจสงครามความขัดแย้งเท่าการทำมาค้าขาย สงครามที่ทรัมป์เหี้ยนกระหือรือก็คือ สงครามการค้า ซึ่งทรัมป์ทำมาแล้วตอนที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐครั้งแรก
แม้ว่าจะอายุมาก แต่ทรัมป์ก็ยังแข็งแรงกระฉับกระเฉง ทรัมป์ตัดสินใจการบริหารชาติบ้านเมืองด้วยตนเอง ไม่ให้ใครแหย่ขาเข้ามายุ่ง
นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้คณะไอ้ปื๊ดที่จะสูญเสียประโยชน์ต้องป้องกันไม่ให้ทรัมป์เป็นผู้นำ
ในห้วงช่วงที่ผ่านมา มีความพยายามโยนข้อหาใส่และจะลากทรัมป์ให้มีปัญหาคดีความจนหมดคุณสมบัติในการสมัครประธานาธิบดี ทว่าบั้นปลายท้ายที่สุด ทรัมป์ก็ได้เอกสิทธิ์คุ้มครอง
คะแนนของทรัมป์ดีวันดีคืน ประชาชนคนทั่วไปเตรียมเลือกทรัมป์กลับเข้ามา โพลลับโพลเลอะทั้งหลายต่างก็ชี้ว่าถ้าสองคนนี้แข่งขันกัน ทรัมป์น่าจะชนะ
พวกที่จะหยุดทรัมป์ใช้ทุกวิธีการทุกอย่างแล้ว ก็ยังไม่สำเร็จ เหลือเพียงวิธีเดียวคือการทำให้ทรัมป์ตายกลายเป็นผี
และนี่อาจจะเป็นที่มาของการสั่งตายในวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2024 ที่มีการลอบสังหารที่เวทีปราศรัยหาเสียง เดชะบุญที่ทรัมป์ไม่ตายสมใจผู้ยิง
บางคนวิเคราะห์ว่าเป็นไปได้ที่ฝ่ายรีพับลิกันอาจจะห้ำหั่นกันเอง ผมว่าเป็นไปแทบไม่ได้เลยครับ เพราะคนของรีพับลิกันที่โผล่ขึ้นมาต่างถอนตัวก่อนที่จะเข้าสู่การเลือกตั้งขั้นต้นรัฐนิวแฮมป์เชียร์
ไม่ว่าจะเป็นรอน เดอซานติส, วิเวค รามาสวามี, อาสะ ฮัตซินตัน และคริสต์ คริสตี เหลือเพียงนิคกี เฮลีย์ อดีตเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติ
หลังจากการชนะขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมเชียร์และได้คะแนนถล่มทลายในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัสที่รัฐไอโอวา ทำให้ทรัมป์มีคะแนนเสียงมากพอที่จะเดินต่อเพื่อเป็นผู้แทนพรรครีพับลิกันไปลุยกับผู้แทนของพรรคเด็มโมแครต ซึ่งมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นไบเดน
และนี่เป็นที่มาของการลอบสังหารทรัมป์ในวันเสาร์ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา สหรัฐเป็นประเทศหนึ่งซึ่งมีการลอบสังหารผู้นำและตายไปแล้ว 4 คน คือ
ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่16 (1865), การ์ฟิลด์ ประธานาธิบดีคนที่ 20 (1881), แม็คคินลีย์ ประธานาธิบดีคนที่ 25 (1901) และเคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 (1963)
มีประธานาธิบดีอีกหลายคนที่ถูกลอบสังหารแต่ไม่เป็นไร คือ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ (1912), แฟรงคลิน ดี. รูสเวลต์ (1933), ทรูแมน (1950), ฟอร์ด (1975), เรแกน (1981) และบุช (2005)
ส่วนพวกผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงและถูกยิงตายมีโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี (1968) และวอลเลซ (1972)
นอกจากจะสั่งฆ่าผู้นำประเทศอื่นแล้ว ผู้นำสหรัฐยังโดนคนของตนเล่นถึงชีวิตอีกด้วย.
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
