16 ก.ค. เวลา 15:37 • กีฬา
โอลิมปิค สเตเดียม มิวนิค

4 เหตุผลที่ทำให้สเปนคว้าแชมป์อย่างงดงาม

4 เหตุผลที่ทำให้ "สเปน"
คว้าแชมป์ยูโรได้อย่างสมศักดิ์ศรี
ด้วยสถิติชนะรวด 7 นัด
และชนะใจคนดูอย่างงดงาม
.
.
.
1. ระบบและสไตล์การเล่นที่แน่นอน
- แม้ชื่อชั้นนักเตะหลายคนปีนี้ จะยังห่างไกลจากยุคทองที่ได้ทั้งแชมป์ยูโร 2008/12 กับบอลโลก 2010 ซึ่งเข้าขั้นเกรด A แทบทุกขุมกำลัง
แต่สิ่งที่พวกเขานำกลับมาจากตอนนั้นคือ "ระบบ" และ "สไตล์" แบบฉบับเฉพาะตัวที่เน้นการครองบอล ไว้ให้มากที่สุด ยิ่งเสียบอลยาก ก็ยิ่งลดโอกาสเสียประตูไปด้วย นอกนั้นดีทั้งการต่อบอลจากเท้าสู่เท้าที่สอดรับกันอย่างลงตัว ทั้งการเคลื่อนที่ยามมีและไม่มีบอล คนหนึ่งได้ ที่เหลือจะวิ่งทำทางมาพร้อมรับ ซ้าย ขวา กลาง ทุกอย่างเปิดกว้าง เวลาเข้าทำก็ค่อยๆ เคาะคลึง ขึงเกมไปเรื่อยๆ จนเกิดพื้นที่อันตรายและหาทางจบให้ได้
2. เหล่า "Golden Boys"
- โดยเฉพาะ "N.Williams - L.Yamal" สองปีกพระกาฬที่มีความเร็วจัดจ้าน ไปกับบอลได้ดี กล้าเลี้ยงกล้าลุย สลับพื้นที่กันเข้าโจมตีได้ดี อย่างในเกมนัดชิงกับอังกฤษ ช่วงครึ่งแรกที่เจาะไม่ได้ ก็มีการขยับเข้ากลาง วิ่งมาทำเกมด้านในกันมากขึ้น และอาศัยความคล่อง ต่อบอลจังหวะเดียวเข้าไปวัดผล
กลายเป็นแข้งผู้ดีต้องปวดหัวกับทั้งคู่มากขึ้น หรือจังหวะขึ้นนำ 1-0 ก็มาจากความเข้าขารู้ใจ แม้จะกลับมาเล่นคนละฝั่ง พอเจ้าหนู L.Yamal ได้บอล สายตาก็มองหาพี่และจ่ายทันที เด็กลามาเซีย ของเขาดีจริงๆ ตอนเราอายุ 16-17 ปี ยังเตะบอลเล่นใน รร. กะเล่นวินนิ่งกันอยู่เลย
หรือการเสีย "P.Gonzalez" ไปจากอาการบาดเจ็บ ก็กลายเป็นการแจ้งเกิดของ "D.Olmo" ที่รุกสะเด่า เข้าใจเกมดีและพาบอลไปข้างหน้าได้ดีมาก ถึงเวลาจบสกอร์ก็ทำได้ สมราคา 1 ใน 6 ดาวซัลโวแห่งทัวร์นาเมนต์
3. คู่กลางที่แข็งแกร่ง
- ทั้ง "F.Ruiz - Rodri" ที่ต้องว่าเป็นกองกลางเบอร์ 1 ของโลก ทำงานกันอย่างเข้าขาทั้งรุกและรับ ช่วยกันเล่นช่วยกันไล่ ปัดกวาดเกมรุกคู่แข่ง และคอยขับเคลื่อนจังหวะได้ดีมากๆ
4. สปิริตในทีมที่แน่นปึ้ก
- ทั้งกุนซือ "หลุยส์ เดอลา ฟวนเต้" ที่ทำงานกับชุดเยาวชนทีมชาติมานานตั้งแต่ชุดเยาวชน เข้าใจตัวตนความเป็นกระทิงดุมาอย่างดี ต่อยอดการเล่นจากยุคทองที่เน้นความเรียบง่ายแต่ได้มาก ยากจะแย่งบอลและต่อกรด้วย ทั้ง 11 ตัวจริงที่ชัดเจน ขณะเดียวกันก็พร้อมยืดหยุ่นผู้เล่นตลอดเวลาให้เข้ากับสถานการณ์ เปลี่ยนตัวได้เปลี่ยน ปรับได้ปรับ ไม่คิดเยอะ ไม่ทำช้า พร้อมให้โอกาสนักเตะ ไม่เกี่ยวชื่อชั้นและอายุ ขอเพียงมีของและมั่นใจพอ
รวมถึงสปิริตที่กลมเกลียวทั้งในและนอกสนาม ทุกคนพร้อมตะโกนให้เสียง กระตุ้น ให้กำลังใจกันเสมอ แม้แต่ "Gavi" ที่เจ็บยาวไม่ติดทีมชาติ ก็ยังเดินทางมาเป็นผู้เล่นคนที่ 27 ให้กำลังใจทุกคน
กัปตันอย่าง "A.Morata" ที่ยิงน้อยแค่ 1 ประตู/ 7 นัดที่เล่น แต่รายละเอียดที่เห็นคือเขาทำงานหนักมาก คอยวิ่งทำทาง เชื่อมเกม ไล่บอล สกรีน ดึงตัวประกบให้น้องๆ เสมือนเป็น False9 หรือกองหน้ายุคใหม่ที่ให้มากกว่าการทำประตู ล่าตาข่าย
หรือกองหลังอย่าง "E.Laporte" ที่เหนียวแน่น ทำให้เห็นว่าการไปเล่นในลีกซาอุฯ ไม่ใช่อุปสรรคใดๆ ยังเล่นในระดับสูงได้สบาย (N.Kante ของฝรั่งเศสก็เช่นกัน เล่นได้ใจมากครับ วิ่งไม่มีหมด 8 ปอด สุดตรีนนน)
อีกคนที่ต้องชมคือ "M.Cucurella" เพราะเวลาเล่นทีมชาตินี่ร่างทองสุดๆ ผ่านยาก เติมเกมมันเร้าใจ เล่นได้ดุดันมาก (ส่วนเกมกับเยอรมนีก็ต้องบอกว่าแฮนด์บอลจริงๆ)
ส่วนแฟนๆ อังกฤษไม่ต้องช้ำใจ เพราะมาไกลเกินคาดมากแล้วครับ อย่างที่เห็นรูปแบบการเล่นที่ชวนหลับสุดๆ ใครมีปัญหาการนอนหลับ แนะนำได้ผลอยู่หมัด เพิ่งจะมากระเตื้องขึ้นใน 1-2 นัดหลัง โดยเฉพาะนัดชิงที่อื้มม เล่นดีเลยนิ พอตั้งใจเล่นก็ทำได้ รับแน่น มีหืออือกลับไป กดดันสเปนได้พอตัว ยิ่งพอตีเสมอได้จาก "C.Palmer" ก็คิดว่าเอาแล้ว มาแน่ โมเมนตั้มคงเปลี่ยน ว่าที่ท่านเซ่อ "เซาต์เกธ" มือทองว่ะเฮ้ย เปลี่ยนตัวดีกับเขาก็ทำได้
มองแบบเป็นกลางผลงานที่จับต้องได้ของพวกเขาก็มาจากการมีขุมกำลังนักเตะเกรด A ระดับเวิลด์คลาสที่พร้อมจะเปลี่ยนเกมได้ทุกเมื่ออย่าง "H.Kane-J.Bellingham-B.Saka" (รายหลังขอชมว่าพัฒนาขึ้นมาก โค้ชให้เล่นตรงไหนก็เล่น เป็นแบ็คซ้ายก็คอยใช้ความเร็ววิ่งไล่จี้ เวลาเล่นปีกขวาที่ถนัด ก็ดีทั้งรุกและรับ ลงมาช่วยทีมบ่อยๆ) และการเล่นโดยรวมที่ดีขึ้นจริงๆ เหมือนได้บัฟมาจากการเข้าชิง 2 สมัยติด
แต่ก็ยังเป็นที่เซาธ์เกตที่พอแก้เกมได้แล้วไม่ทำต่อมันก็ไม่รุ่ง ยังคงเป็น "Thinker Man" ที่คิดเยอะ คิดช้าทำช้า กว่าจะเน้นอีกที กลายเป็นปล่อยให้สเปนกลับคืนสู่เกม เล่นตามจังหวะไปเรื่อยๆ จนนำ 2-1 จาก "M.Oyarzabal"
ตรงนี้ต้องชมความยอดเยี่ยมของทัพกระทิงดุด้วยที่สภาพจิตใจยังนิ่ง มีสมาธิ ลุยต่อไปตามเกมของตัวเอง กลับมาคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง หลังความผิดหวังในบอลโลก 2022 ก็ผงาดเป็นแชมป์ยุโรปได้อย่างภาคภูมิและดูท่าจะมีลุ้นทรงดียาวๆ จากขุมกำลังที่อุดมไปด้วยดาวรุ่งวัยคะนอง เก่งเกินวัย ใช้งานได้ยาวๆ
เรื่องราวครั้งนี้ทำให้เห็นว่ากระทิงกลับมาดุ ทรงพลัง เฉกเช่นวันวานแล้วจริงๆ ยินดีด้วยนะครับ 🇪🇸🇪🇸👏🏽👏🏽
สรุปภาพรวมยูโร (จากผมคนเดียว)
ทีมยอดเยี่ยม
- สเปน
โค้ชยอดเยี่ยม
- หลุยส์ เดอลา ฟวนเต้
ผู้เล่นและลูกยิงยอดเยี่ยม
- L.Yamal / ลูกตีเสมอฝรั่งเศส
ดาวรุ่งยอดเยี่ยม
- L.Yamal
โกลยอดเยี่ยม
- D.Costa
ม้ามืดแห่งทัวร์นาเม้นต์
- ตุรกี
ทีมและโค้ชยอดแย่
- อิตาลี / สปัลเล็ตติ
ผู้เล่นยอดแย่
- G.Di Lorenzo
เกมแห่งทัวร์นาเม้นต์
- สเปน 2-1 เยอรมนี
ไว้พบกันใหม่ในบอลโลก 2026 นะครับ,,,
โฆษณา