อนิเมะประจำฤดูร้อน 2024
ฤดูร้อนปี 2024 มีอนิเมะมากมายที่น่าสนใจ และมีอนิเมะที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอมาอย่างยาวนานเช่นกัน ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคืออนิเมะประจำฤดูร้อนนี้เบาใจมากกว่าฤดูกาลอื่น ๆ กล่าวคือ ไม่ได้มีเรื่องที่มีโอกาสบั่นทอนจิตใจผู้ชมมากเท่าไหร่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายเลย บางทีเราก็ต้องการช่วงเวลาที่มันอุ่นใจบ้าง อุ่นเหมือนฤดูกาลนี้ (ที่ไทยน่าจะเป็นหน้าฝนแล้ว แต่ทางตะวันตกถือว่าเป็นฤดูร้อนครับ)
แน่นอนว่าเมื่อฤดูกาลใหม่เริ่ม ผมก็ต้องมาเขียนอะไรสักอย่างเกี่ยวกับอนิเมะที่ผมเลือกดูประจำฤดูกาลนี้ เริ่มที่เรื่องแรกเลยครับ
Alya sometimes hides her feelings in Russian
Alya Sometimes Hides Her Feelings in Russian
หนึ่งในอนิเมะที่มีคนตั้งหน้าตั้งตาดูมาที่สุดเรื่องหนึ่งคือ Alya Sometimes Hides Her Feelings in Russian ซึ่งดัดแปลงมาจาก Light Novel เป็นอนิเมะรอม-คอมเรื่องหนึ่งที่ผมเองก็ตื่นเต้นที่จะได้ดู ยอมรับตรง ๆ ว่าเลือกที่จะดูเรื่องนี้เพราะคุณอาเรียสวยและน่ารักมากครับ
อนิเมะเล่าเรื่องราวของคุเซะ พระเอกของเรื่องที่นั่งข้างสาวสวยที่บางครั้งบางทีจะพูดกับเขาเป็นภาษารัสเซีย ซึ่งคำเหล่านั้นไม่ต่างจากคำสารภาพรักจากคุณอาเรีย โดยที่คุณอาเรียไม่รู้เลยว่า คุเซะฟังภาษารัสเซียได้ โดยที่เรื่องราวมีความเป็นปริศนาเล็กน้อยโดยที่พระเอกมีเพื่อนวัยเด็กที่ทำให้เขาเรียนรู้ภาษารัสเซีย ผมได้กลิ่นอายความเป็นเจ้าสาวแฝดห้าหน่อย ๆ จากเรื่องนี้ครับ
Pseudo-Harem
Pseudo-Harem
Pseudo-Harem เป็นอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะ ซึ่งเป็นมังงะที่อยู่ในรายการอ่านของผมมานานแล้ว เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้จะได้รับอนิเมะ ผมก็รอดูแต่ตัวอนิเมะอย่างเดียว อนิเมะเล่าเรื่องของพระเอกนางเอกคู่หนึ่ง ซึ่งพระเอกเอ่ยลอย ๆ ว่าตัวเองอยากมีฮาเร็ม นางเอกรุ่นน้องเลยจัดให้ด้วยความสามารถในการแสดง เล่นเป็นสาว ๆ ในฮาเร็มของพระเอกที่มีบุคลิกและนิสัยที่แตกต่างกันออกไป
อย่างหนึ่งเลยที่ผมชอบเรื่องนี้ คือความเป็นธรรมชาติในความไม่ธรรมดาของเรื่อง การแสดงออกระหว่างคู่พระเอกนางเอกไม่ได้โอเวอร์เกินไป ที่ผมชอบมากคือความที่นางเอกชอบพระเอกรุ่นพี่อย่างเป็นธรรมชาติ ผมชอบเห็นเธอหัวเราะอย่างจริงในให้แก่มุกของพระเอกที่ไม่ได้เรื่องเท่าไหร่ มันน่ารักดีครับ
ช่วงหลังมานี้ เราเห็นการปฏิวัติวงการฮาเร็ม ไม่นานมานี้ เราได้พบกับสุดยอดพระเอกฮาเร็มที่ไม่มีใครเทียบเท่าอย่างเร็นทาโร่ใน 100 Girlfriends และในตอนนี้ เราได้เห็นจุดยอดนางเอกฮาเร็มอย่าง นานาคุระ ริน ใน Pseudo-Harem ครับ
Shoshimin: How to become Ordinary
Shoshimin: How to become Ordinary
เรื่องนี้มีพื้นที่พิเศษในใจของผม เพราะ Shoshimin Series เขียนโดยผู้เขียน Hyouka หนึ่งในอนิเมะ Top 5 ตลอดกาลของผม ฟีลลิ่งที่ได้จากเรื่องนี้เทียบเคียงกับ Hyouka ก่อนหน้านี้ อาจจะกล่าวได้ว่า Shoshimin Series คือ Hyouka ภาคสองที่เราไม่คาดคิด แม้ว่า Shoshimin จะไม่ได้สตูดิโอในตำนานอย่าง Kyoto Animation มาสร้าง แต่ค่าย Lapin Track ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมครับ
เรื่องดำเนินโดยคู่ชายหญิงที่เป็นเพื่อนกัน (หรือเปล่า มาตอนนี้ผมเองก็ยังไม่แน่ใจเท่าไหร่) กับความต้องการของพวกเขาที่จะเป็นคนธรรมดา ประเด็นเรื่องความธรรมดาเป็นหนึ่งในหัวใจของเรื่อง Hyouka เช่นเดียวกัน ซึ่งผมเองก็อยากจะรู้ว่าคุณ โยเนซาว่า โฮโนบุจะแสดงออกในประเด็นนี้เพิ่มเติมอย่างไร
อย่างหนึ่งที่ผมต้องพูดก็คือ ตอนจบของตอนที่หนึ่งทำผมปวดใจมากครับ ทำเอาปากค้าง หายใจไม่เป็นจังหวะ และรู้สึกเศร้า ๆ อย่างไรก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า อนิเมะเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ผมจะเขียนโพสแยกเพื่อแนะนำอย่างเป็นกิจลักษณะต่อไปครับ
Elusive Samurai
Elusive Samurai
อีกหนึ่งอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะภายใต้ Jump ยิ่งทำให้เรื่องนี้น่าสนใจมากขึ้น Elusive Samurai เล่าเรื่องของบุคคลในประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 14 แต่ไม่ใช่เรื่องราวของซามูไรที่กล้าหาญหรือแข็งแกร่งอย่างยาชิทากะ ทาคะอุจิ แต่เป็นซามูไรที่มีทักษะในการหลบหลีกหนีตายอย่าง โฮโจ โทคิยุคิ
อนิเมะเปิดเรื่องได้อย่างอลังการ อนิเมชั่นโดยค่าย Cloverworks ทำออกมาได้อย่างลื่นไหลประหนึ่งว่าใช้งบทำภาพยนต์อนิเมชั่นมาใช้ทำอนิเมะรายสัปดาห์ พูดง่าย ๆ เลยก็คือ อนิเมะเรื่องนี้สวยมากครับ แม้ว่าเริ่มเรื่องมาแล้วจะดูสงบ แต่เมื่อเนื้อเรื่องเดิน ผมถูกดึงกลับเข้าสู่ความเป็นจริงว่าสงครามมันโหดร้ายเพียงใด ความตายเป็นเรื่องน่าหดหู่ และความเป็นมนุษย์มีความเดรัจฉานอยู่
ต้องยอมรับว่า ทั้งอนิเมชั่น จังหวะการเล่าเรื่อง การออกแบบตัวละคร เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ที่เราจะโดนสปอยได้ง่าย ๆ จากการอ่านหน้า Wikipedia ทำให้ผมตื่นเต้นที่จะติดตามเรื่องนี้ต่อไปครับ และเป็นอนิเมะที่ผมแนะนำให้ดูอย่างยิ่งในฤดูกาลนี้
Oshi no Ko ss2
Oshi no Ko season 2
อนิเมะเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องแนะนำอะไรอีกแล้ว ซีซั่นหนึ่งทำผมให้ผมขนลุกรายสัปดาห์ และผมพร้อมที่จะได้รับประสบการณ์เหล่านั้นอีกในซีซั่นสองนี้ เราเข้าถึงภาคละครเวทีแล้ว ผมตั้งหน้าตั้งตารอชมความตื่นเต้นของอนิเมะเรื่องนี้ครับ แม้ว่าตอนแรกผมคิดว่าจะไปอ่านมังงะต่อจากซีซั่นหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ไปอ่าน ดังนั้นผมจะรับชมอนิเมะด้วยใจที่เปิด
มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ความสำเร็จของซีซั่นหนึ่งทำให้คุณภาพของซีซั่นสองพุ่งมาก อย่างเช่นฉากที่อาคาเนะเดินมานั่งข้าง ๆ อควา ซึ่งมันไม่จำเป็นจะต้องลื่นไหลขนาดนั้น แต่มันเป็นการโชว์พาวเวอร์อย่างหนึ่งครับ ว่าซีซั่นนี้เราจะได้เห็นคุณภาพอนิเมะงบเยอะ ๆ ในอนิเมะที่มีคนติดตามและตั้งหน้าตั้งตารอชมมาเป็นอันดับต้น ๆ ของปี และข้อถกเถียงที่จะดำเนินต่อ ระหว่างว่าใครเป็นนางเอก อาคาเนะ หรือ คานะ (ผมมีความคิดส่วนตัวของผมอยู่แหละ)
My Deer Friend Nokotan
My Deer Friend Nokotan
ผมว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำแนะนำอะไรเลย เพราะเพลง Shikanoko Nokonoko Koshitantan จะน่าเผาไหม้อยู่ในสมองของผู้ชมมากมายไปแล้ว และผมก็เผลอหลุดร้องตอนลุกเดินไปเข้าห้องน้ำไม่ได้อยู่เป็นวัน และหากจะให้บรรยายว่าอนิเมะเรื่องนี้เป็นอย่างไร ผมว่าคำว่า Brain-rot น่าจะเหมาะสมที่สุด ถามว่ามีเนื้อเรื่องไหม ผมก็คงพูดได้ไม่เต็มปากว่ามี และคงจะพูดตรง ๆ ว่าผมไม่คิดว่ามันมีเนื้อเรื่อง
คิดซะว่าเรื่องนี้เหมือนเป็นลูกของอนิเมะสมองตายในตำนานอย่าง Nishijou ก็แล้วกันครับ My Deer Friend Nokotan เป็นอนิเมะที่จะเอาฮาอย่างเดียว และผมเต็มใจรับความสมองเหลวที่อนิเมะเรื่องนี้จะมอบให้ ผมมักจะรับชมสื่อ อนิเมะ ซีรีส์ ภาพยนตร์ ดนตรีภาพมุมมองที่ซีเรียสหน่อยหนึ่งจนเป็นธรรมดาไปแล้ว แต่ผมพบว่า ยิ่งถามคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปในอนิเมะเรื่องนี้ ผมยิ่งปวดหัว
ดังนั้น อย่าตั้งคำถามกับอนิเมะกวางเรื่องนี้เลยครับ ดู ๆ ไปเถอะ คำถามเดียวที่ยังเหลืออยู่ในใจของผมก็คือ ใครจะชนะ ระหว่างผอ.ใน Nishijou กับเจ้ากวางสาวที่มีเขาแบบตัวผู้ใน Shikanoko Nokonoko Koshitantan อนิเมะเรื่องนี้ได้คุณฮัน เมกุมิ นักพากษ์เสียงอริมะ คานะมาพากษ์เสียงโนโกะตัน และได้เจ้าของ Sample เสียงฮัตสึเนะ มิคุ Vocaloid ในตำนานอย่างคุณฟูจิตะ ซากิโกะมาให้เสียงโคชิตันด้วย
Makeine: Too Many Losing Heroines!
Makeine: Too Many Losing Heroines!
อีกหนึ่งอนิเมะที่ดัดแปลงมาจาก LN และเพิ่งเริ่มฉายไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมที่เกิดสนใจแปลก ๆ เลยลองดู ปรากฏว่าเป็นหนึ่งในอนิเมะคุณภาพประจำฤดูกาลนี้ครับ อนิเมะเรื่องนี้เกี่ยวกับพระเอกธรรมดา ๆ สไตล์ LN ที่ชีวิตต้องมาพัวพันกับนางรองในเรื่องราวความรักของคนอื่น ๆ ผมเข้าไปดูเรื่องนี้แบบไม่รู้อะไรมาก่อน แต่พบว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอาจจะใช้โควต้าแนะนำประจำฤดูกาลด้วยเช่นเดียวกัน (ดูว่าเรื่องไหนได้รับความนิยมมากกว่ากันก่อน แล้วเลือกอีกเรื่องครับ)
คุณภาพอนิเมชั้นจากค่าย A-1 Pictures แต่กระนั้น ผมคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าอนิเมชั่นที่ยอดเยี่ยมแล้วคือคุณภาพในรายละเอียดของภาพ สภาพแวดล้อมอย่างโรงเรียนดุสมจริง กล่าวคือ เห็นแล้วรู้ว่ามันไม่เพียงแต่เก่า แต่เป็นสถานที่ที่ผ่านผู้คนและเหตุการณ์ตามกาลเวลามามากแล้ว
นอกจากความสวยงามของอนิเมะแล้ว สิ่งที่น่าประทบใจคือจังหวะการเล่าเรื่องที่มีความสดใส แต่ไม่เจิดจ้าจนเกินไป และความตลกแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติ ผมตกใจเล็กน้อยเพราะเปิดเรื่องมาคิดว่าจะซีเรียส แต่เห็นนางเอก (นางรอง) ในเรื่องแล้วอดขำไม่ได้ และผมคิดว่า อนิเมะเรื่องนี้เล่นกับแนวตัวละครเพื่อนสาววัยเด็กที่มีผมสีฟ้าแต่ต้องพ่ายแพ้ในเรื่องของความรักได้อย่างน่าสนใจครับ เป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่ผมตั้งใจจะติดตามต่อจากนี้ และแนะนำมาก ๆ ครับ
- ยิบย่อย -
นอกจากอนิเมะเรื่องที่ผมกล่าวถึงแล้ว ผมมีอนิเมะอีกสองเรื่องที่ผมแวะเข้าไปดูแบบไม่คิดอะไร หนึ่งคือ Senpai is an Otokonoko ที่เล่าเรื่องหนุ่มวัยเรียนที่แต่งเป็นผู้หญิงกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับรุ่นน้องสาวที่มาหลงรักและเพื่อนชายตั้งแต่เด็กที่แอบชอบ ผมว่ามันน่าสนใจดีครับ
Vtuber Legen: How I Went Viral after Forgetting to Turn Off My Stream
อีกเรื่องคือ Vtuber Legend: How I Went Viral after Forgetting to Turn Off My Stream ดัดแปลงมาจาก Light Novel ที่เล่าเรื่อง Vtuber สาวที่โด่งดังจากการลืมปิดสตรีมของเธอ อารมณ์ของอนิเมะเรื่องนี้คล้าย ๆ กับความรู้สึกที่ผมได้จากการนั่งดูคลิป Vtuber ที่เหมาะจะเป็นตลกมากกว่าเป็นไอดอล และแน่นอนว่ามันฮีลใจผมหลังจากจบวันหนัก ๆ มา จังหวะการเล่นมุกในเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนดูอนิเมชั่นที่แฟนคลับทำให้ตามสตรีม
ที่ผมชอบที่สุดในตอนที่หนึ่งคือจังหวะที่อนิเมะล้อโรดัลโด้กับโค้ก ถือว่าอนิเนะทำออกมาได้อย่างดี เพราะมันให้อารมณ์เหมือนกับว่าเราดู Vtuber ในเวอร์ชั่นอนิเมะอยู่ครับ ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาตัวเอกอย่างโคโคโระเนะ ยังได้มาร่วมงานกับ Senchou Marine และยังมี cover เพลง Stellar Stellar ของ Hoshimachi Suisei ด้วย เป็นการตลาดที่น่าสนใจครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมตั้งใจจะดู แต่กลับขี้เกียจก็คือ Suicide Squad Isekai เพราะเมื่อวันอาทิตย์มาถึง ผมเปิดลิสต์อนิเมะตัวเอง และจะเปิดดู Suicide Squad Isekai พบว่ามีมาแล้ว 4 ตอน ผมดูเวลา คิดว่ามันจะกินเวลาเกินไป เลยว่าจะกลับมาดูทีหลัง มาตอนนี้ก็ยังไม่ได้ดูครับ และจริง ๆ อาจจะไม่ได้ดูด้วย อนิเมะเรื่องนี้ได้ Mori Calliope มาร้องเพลงเปิดด้วย
Monogatari Series: Off & Monster Seasons
และแน่นอน อนิเมะที่ขนาดไม่ได้เลยอย่างเด็ดขาด ก็คือ Monogatari Series: Off & Monster Seasons อนิเมะที่ผมตั้งหน้าตั้งตาชมมาที่สุดของปีนี้ เนื่องจากผมเป็นแฟนคลับซีรีส์นี้อย่างมาก ขนาดที่ว่าผมสร้าง Blockdit มาเพื่อเขียนเกี่ยวกัน Monogatari เลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม ผมคงจะทำเหมือนที่ผมทำกับ Hibike! Euphonium โดยการรอให้อนิเมะฉายจบไปก่อน แล้วนั่งดูรวดเดียว หรืออาจจะค่อย ๆ แบ่งดูทีละเรื่องถ้าซีรีส์นี้ยังแบ่งเป็นเรื่อง ๆ อยู่
และนี่คือรายการอนิเมะที่ผมเลือกดูในฤดูร้อนปี 2024 นี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
