17 ก.ค. เวลา 02:04 • คริปโทเคอร์เรนซี

10 อย่า ! ที่นักลงทุนชาวคริปโต ควรระลึกไว้เสมอว่า 'อย่าหาทำ' ถ้ายังไม่อยากหมดตัวล่ะก็นะ

หลายคนคงได้กำไรกันรัวๆ จนไม่รู้จะใช้กำไรที่ได้มาอย่างไรให้หมด เลยอาจอยากลองหมดตัวดูบ้าง วันนี้เราก็เลยเฟ้นหาวิธีที่จะทำให้ทุกท่านหมดตัวได้อย่างง่ายดายมาฝากกัน
แต่สำหรับนักลงทุนท่านไหนที่ไม่อยากหมดตัวก็ อย่าหาทำ 10 อย่างดังต่อไปนี้
#1 ใช้แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน (กระดานเทรด) ที่ไม่น่าเชื่อถือ
เราอาจจะเคยได้อ่านโพสต์คำถาม หรือ โพสต์เตือนใจในกลุ่มคริปโตต่างๆกันมาบ้างว่า ตนเองนั้นลงเงินเพื่อซื้อสินทรัพย์จำนวนมาก แต่ดันได้กำไรแต่ไม่รู้กรรมอันใดกลับถอนกำไรนั้นออกมาไม่ได้ หากจะถอนจะต้องโอนเงินจำนวนหนึ่งเข้าไปเพื่อถอนออกมา และสุดท้ายกำไรนั้นก็จะอยู่ในกระดานเทรดที่ไม่น่าเชื่อถือนั้นตลอดกาล พร้อมกับเงินของเราด้วย
#2 ไม่เปิดใช้งาน 2FA
เชื่อแอดเถอะ แอดก็เคยรู้สึกว่ามันเสียเวลาทำไมต้องมานั่งทำนู่นนี่นั่น เวลาถอนเงินก็ยากลำบาก วุ่นวายไปหมด แต่รู้หรือไม่ว่าการเสียเวลาไม่กี่นาทีนั้นอาจทำให้บัญชีสินทรัพย์ของเรามีความปลอดภัยจากการโดนขโมยเงินในกระเป๋าของเราได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นทำเถอะครับยังไงกันไว้ก็ดีกว่าแก้อย่างแน่นอน เพราะอะไรที่เสียไปแล้วอาจจะไม่ได้กลับมาก็ได้
#3 ทำ Private Key หาย
แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่หายได้ เราจดใส่กระดาษไว้วันดีคืนดีปลิวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ แต่แอดอยากจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสาย HODL ที่เก็บสินทรัพย์ของท่านเอาไว้ในระยะยาว เพราะหากท่านทั้งหลายทำหายนั่นคือ จบ. ทำ Private Key หายคนอื่นได้ไปนั่นคือสวรรค์ของเขา (ไม่ใช่ของเรา) เพราะฉะนั้นแอดก็จะพูดเหมือนหลายๆ โพสต์ที่เคยเจอมานั่นแหละ "เก็บรักษา Private Key ของคุณให้ดี"
#4 ส่งเงินไปยังที่อยู่ที่ผิด
เหมือนท่านทั้งหลายสั่งพัสดุมาส่ง แต่ดันให้บ้านเลขที่ผิดไปส่งข้างบ้านของก็หาย แต่อาจโชคดีตามมาจนได้คืน แต่ในตลาดคริปโตมันไม่อ่อนโยนแบบนั้น เพราะถ้ามันผิดไป หรือเป็นเลขที่อยู่ที่มันไม่มีอยู่จริง หรือโชคร้ายกว่านั้นเราอาจโดนมัลแวร์สักตัวเปลี่ยนที่อยู่ตอนเรา Copy และ Paste เงินที่เราตั้งใจว่าจะได้นั้นจะมลายหายไปทันที แต่แอดเข้าใจว่าเลขที่อยู่บัญชีคริปโตมันยาว แต่เช็กเถอะจะได้มีเสียใจที่หลัง
#5 กลัวตกรถ (FOMO)
ความโลภนั่นแหละที่เป็นตัวการของเรื่องนี้ ถ้าหากวันนึงเห็นเหรียญมีมน้องใหม่ทำกำไรได้ 10,000% เราอาจรู้สึกได้ถึงการพลาดโอกาสในการทำกำไรก้อนโตไป แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังสำหรับเหรียญที่พุ่งแรง คือการ Pump และ Dump ในอดีตที่ผ่านมามีโปรเจกคริปโตหลายอันที่ท่าดีทีเหลว ราคาพุ่งแรงมาก นักลงทุนแห่เข้าเพราะเห็นโอกาสการทำไร แต่ ... คำตอบสุดท้ายคือ Rug Pull มาดึงพรมกันไปง่ายๆ จากกำไร 1,000,000 บาทในวันนั้น อาจเหลือไม่ถึง 1 บาทในวันนี้
#6 การเทรด Futures
เอาละ แอดรู้ว่ามันมีคนที่รวยขึ้นจริงๆ จากการเทรด Futures แต่แอดไม่อยากให้ปล่อยประเด็นนี้ไปเพราะอะไร?
เพราะมีหลายคนที่ใจไว อยากได้กำไรเดี๋ยวนี้อัดใส่ไป x125 เงินด่วนเงินใจ กำไรเข้าไวออกไว เพราะสิ่งหนึ่งที่เราไว้ใจไม่ได้เลยคือตลาดแต่เราไม่ใช่ผู้ครองตลาดหรือไม่แม้แต่จะเป็นคนที่สามารถทำให้ตลาดสั่นสะเทือนได้ เราไม่รู้ว่าสุดท้ายฝั่งที่เราเลือกมันจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ไหม เพราะข่าวและปัจจัยเศรษฐกิจเองก็มีผลต่อตลาดคริปโตด้วยเช่นกัน
หลายคนอาจจะบอกว่า "กราฟมาก่อนข่าว" แต่หลายทีที่ "SMS ก็มาก่อนกำไร" ฝากไว้ให้คิด
แอดมิน Stop Loss
#7 อย่าลืมยื่นและจ่าย 'ภาษี'
ในประเทศไทยก็มียื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแล้วหากสามารถทำกำไรจากซื้อขายคริปโต (ไว้แอดทำบทความภาษีแบบละเอียดแยกไว้ให้นะครับ แต่ยังไม่รู้วันไหน) เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีหน้าที่ยื่นภาษี และต้องแบกภาระในการจ่ายด้วย ก็อย่าพยายามบิดเบือนหรือเลือกที่จะไม่จ่ายไป เพราะโดนที่หลังนี่จุกเอาเรื่องเหมือนกันนะ
#8 กระเป๋าคริปโตปลอม
ส่วนใหญ่หลายคนก็ใช้ MetaMask นั่นแหละ แต่มันก็คงมีพวกที่แอบอ้าง หรือสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบ (เช็ก URL อย่างถี่ถ้วน) เพราะบางครั้งเราอาจจะลืมดูไปจนไม่ทันได้ระมัดระวัง และก็ตามสเต็ปของปลอมไม่มีทางที่เราจะได้เงินของเรากลับมา
#9 ข้อความเชิญชวนที่มันดีเกินกว่าจะเป็นความจริง
ข้อนี้อาจจะต้องโยงไปถึง #1 เพราะนักลงทุนทั้งหลายอาจจะอยากเป็น 'บุคคลผู้โชคดี' อยากได้สินทรัพย์ฟรีแต่ไม่อยากเสียเงิน คำโฆษณาที่สวยหรู เช่น "สมัครวันนี้รับฟรี 1 BTC" มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วในทางปฏิบัติ เพราะใครจะมาแจก 1 BTC ให้คุณฟรีๆในยุคสมัยนี้ที่ราคา 1 BTC = 2 ล้านกว่าบาทน่ะนะ เป็นไปไม่ได้
#10 ถึงแก่กรรม
อย่างคนเถ้าคนแก่ได้บอกไว้นั่นแหละ 'ตายไปก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้' เพราะฉะนั้นถ้าคุณถึงแก่ชีวิตไม่ว่าจะสักกี่ BTC คุณก็เอาไปใช้ไม่ได้
สุดท้ายนี้ "Not your keys, not your coin" ดูแลสินทรัพย์ของท่านให้ดีเพราะแอดเชื่อว่าไม่มีใครอยากหมดตัวหรอกรวมถึงแอดด้วย เจอกันบทความต่อไปครับ
โฆษณา