17 ก.ค. เวลา 04:03 • กีฬา

ดราม่าเดือด อาร์เจนติน่า ร้องเพลงด่าฝรั่งเศส เรื่องราวเป็นอย่างไร เราจะไปสรุปแบบเข้าใจง่าย

เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ ร้องเพลงแซะทีมชาติฝรั่งเศส ทั้งเหยียดผิว เหยียดเพศ จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต เหตุการณ์เป็นอย่างไร เราจะลำดับไทม์ไลน์ตั้งแต่แรกนะครับ
ในโลกฟุตบอล ณ เวลานี้ 2 ชาติ ที่ถือเป็น "คู่ปรับยุคใหม่" คืออาร์เจนติน่า กับ ฝรั่งเศส ซึ่งก็แปลกดี เพราะพวกเขาอยู่กันคนละทวีป แต่ก็มีความคับแค้นต่อกันได้เฉยเลย
3
- จุดเริ่มต้นในความขัดแย้งของสองทีมนี้ เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 2018 ที่ฝรั่งเศสเขี่ยอาร์เจนติน่าร่วงในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แล้วก้าวไปเป็นแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่
- ในพิธีฉลองแชมป์โลกที่สต๊าด เดอ ฟรองซ์ นักเตะฝรั่งเศสร้องเพลงเชียร์ขึ้นมาว่า "เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เขาตัวเล็ก เขาใจดี เขาหยุดยั้งลีโอเนล เมสซี่" ประโยคนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีแฟนบอลบางคนคิดว่า ไม่ควรลากเอาเมสซี่มาเกี่ยวด้วยเลย แล้วฝั่งอาร์เจนติน่าก็มีแซะกลับไปว่า ถ้าอ้างอิงตามเชื้อชาติ ก็องเต้ควรเล่นอยู่กับทีมชาติมาลี ไม่ควรมีสิทธิ์มาเล่นให้ฝรั่งเศสแต่แรกแล้วด้วยซ้ำ
- พฤษภาคม 2022 สำนักข่าว TNT Sports Brasil ถามคีลียัน เอ็มบัปเป้ ว่าใครจะได้แชมป์ฟุตบอลโลกช่วงปลายปีที่กาตาร์ เอ็มบัปเป้ตอบว่า "บราซิลเป็นทีมที่ดี แต่ก็มีอีกหลายทีมจากยุโรปที่ดีเช่นกัน แต่ข้อได้เปรียบของทีมฝั่งยุโรปคือเราลงเล่นเกมที่มีคุณภาพสูงตลอดเวลา เพราะทีมชาติมีโปรแกรมอย่างเนชั่นส์ลีก ดังนั้นเมื่อเราไปเล่นฟุตบอลโลก ก็เหมือนว่าเราเตรียมตัวได้พร้อมอยู่แล้ว"
1
"อาร์เจนติน่ากับบราซิล ไม่ได้เจอการแข่งขันที่สูงมาก แต่พวกเขาก็ได้โควต้ามาเล่นฟุตบอลโลก เพราะคุณภาพของฟุตบอลอเมริกาใต้ยังไม่ก้าวหน้าเทียบเท่ากับในยุโรป นั่นคือเหตุผลที่ฟุตบอลโลกครั้งหลังๆ มีแต่ฝั่งยุโรปที่ชนะเสมอ"
- สิ่งที่เอ็มบัปเป้พูด ถ้าอิงจากข้อเท็จจริง ก็ดูจะไม่ผิดนัก เพราะนับจากปี 2006 เป็นต้นมา มีแต่ชาติยุโรปที่ได้แชมป์โลก (อิตาลี, สเปน, เยอรมัน, ฝรั่งเศส) แต่ประโยคนี้ทำให้ฝั่งอาร์เจนติน่าเดือดมาก เพราะเหมือนเป็นการดูหมิ่นฟุตบอลอเมริกาใต้
เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ด่าสวนว่า "ไปเยือนโบลิเวียคุณต้องเล่นที่ลา ปาซ ไปเยือนเอกวาดอร์ต้องเล่นในสนามอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ไปเยือนโคลอมเบียคุณต้องเล่นในสนามที่ ทำให้แทบหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ แต่ที่ยุโรปคุณเล่นฟุตบอลในสนามที่สวยงาม คุณนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าฟุตบอลอเมริกาใต้มันเป็นยังไง ลองนึกภาพตามนะ นักเตะอเมริกาใต้ทุกคนที่เล่นในยุโรป เวลาพักเบรกทีมชาติ เราต้องใช้เวลาบินไปบินกลับ หมดไปแล้ว 2 วัน แค่นี้คุณก็เหนื่อยสาหัส จนแทบซ้อมไม่ได้แล้ว"
2
- ฝรั่งเศส กับ อาร์เจนติน่า โคจรมาเจอกันอีกครั้ง ในรอบชิงชนะเลิศ ของฟุตบอลโลก 2022 คราวนี้ อาร์เจนติน่าเอาชนะไปได้จากจุดโทษ คว้าแชมป์ไปครอง แม้เอ็มบัปเป้จะทำแฮตทริกได้ก็ตาม
- พอได้แชมป์โลกแล้ว ในห้องแต่งตัวอาร์เจนติน่ามีการร้องรำทำเพลงกันสนุกสนาน และมีจังหวะหนึ่งที่ทั้งทีม จงใจหยุดร้องเพลงพร้อมกัน ราวๆ 2-3 วินาที แล้วก็ร้องเพลงต่อ โดยมาร์ติเนซตะโกนบอกว่า "นี่คือการสงบนิ่ง ไว้อาลัยให้เอ็มบัปเป้ที่ตายไปแล้ว"
- อาดิล รามี่ กองหลังแชมป์โลกของฝรั่งเศส โพสต์ในไอจีว่า "มาร์ติเนซคือคนที่หน้าตัวเมียที่สุดในโลกฟุตบอล นี่เป็นคนที่สมควรถูกเกลียดมากที่สุด"
1
- แฟนบอลอาร์เจนติน่า โมโหปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ปฏิบัติต่อลีโอเนล เมสซี่ไม่ดี ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ อดีตดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า บอกว่า "แฟนบอลฝรั่งเศสเจ็บปวดมากกับนัดชิงฟุตบอลโลก และพวกเขาไม่ยอมให้อภัยเมสซี่ แม้จะเป็นการส่งพลาดธรรมดาแค่ครั้งเดียว"
เราจะเห็นได้ว่า ฝรั่งเศส กับ อาร์เจนติน่า มีดราม่ากันมาตลอดในช่วง 6 ปีหลัง กลายเป็น Rivalry คู่ใหม่ในวงการฟุตบอล ทั้งๆ ที่ในประวัติศาสตร์ พวกเขาเคยเจอกันในเกมทางการ แค่ 4 นัดเท่านั้น (ฟุตบอลโลก 1930, ฟุตบอลโลก 1978, ฟุตบอลโลก 2018 และ ฟุตบอลโลก 2022)
สำหรับเหตุการณ์ล่าสุดนั้น เกิดขึ้นหลังจากอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โคปาอเมริกา 2024 กลายเป็นทีมที่คว้าแชมป์โคปา มากที่สุดตลอดกาล ด้วยจำนวน 16 สมัย
เมื่อชนะแล้ว นักเตะในทีมก็ฉลองชัยกันแบบสุดเหวี่ยง ร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ทีนี้ มีจังหวะหนึ่งที่ เอ็นโซ่ เฟอร์นันเดซ กองกลางของเชลซี ได้ทำการไลฟ์ในอินสตาแกรม ให้เห็นบรรยากาศภายในรถบัสของนักเตะอาร์เจนติน่า
ถ้าบรรยากาศสนุกสนานเฉยๆ ก็ไม่มีอะไร แต่ประเด็นคือ ระหว่างการไลฟ์ มีหนึ่งเพลงเชียร์ (Chant) ที่นักเตะร่วมกันร้อง แล้วเนื้อหา มันมีลักษณะการเหยียดอย่างชัดเจน โดยความหมายของมัน ถ้าแปลออกมาเป็นไทย คือ
2
"ฟังนะ แล้วบอกต่อไปด้วย
พวกมันเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส ทั้งๆ ที่ทุกคน มาจากแองโกล่า
3
สุดยอดไปเลยว่ะ มิน่าล่ะ พวกมันถึงวิ่งได้พล่านนัก
พวกมันชอบเอากับกะเทย เหมือนไอ้ห่าเอ็มบัปเป้
แม่ของพวกมันเป็นไนจีเรีย
2
พ่อของพวกมันเป็นแคเมอรูน
แต่ในพาสปอร์ต ดันบอกว่าเป็นฝรั่งเศส"
ถ้าดูจากเนื้อหาแล้ว นี่เป็นการเหยียดทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่เหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติ และ เหยียดรสนิยมทางเพศ เมื่อไลฟ์นี้หลุดออกไป จึงกลายเป็นประเด็นใหญ่มากทันที
ในความจริง เพลงนี้แฟนบอลอาร์เจนติน่า แต่งมาร้องแซะฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก 2022 แต่ก็ถูกร้องมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
1
คือแฟนบอลร้องมันก็ดูไม่ดี แต่ก็เข้าใจได้ว่า คุณจะไปหยุดยั้งคนหมู่มากได้อย่างไร แต่พอนักเตะเอาเพลงนี้มาร้องด้วย มันกลายเป็นคนละเรื่องกันเลย เพราะแสดงให้เห็นว่า ทัศนคติของนักเตะทีมชาติบางคนเป็นแบบนี้
2
ในเพลง มีส่วนที่แซวเรื่องเชื้อชาติ นี่คือการทำร้ายจิตใจนักเตะหลายคน เพราะทีมชาติฝรั่งเศสชุดยูโร 2024 มีนักเตะเชื้อสายแอฟริกัน เกินครึ่งทีม แต่คนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กองกลางจากเรอัล มาดริด ที่เป็นคนเดียวในทีมชุดนี้ ที่เกิดในประเทศแองโกล่า ในแคมป์ผู้อพยพที่เมืองคาบินด้า ก่อนจะหนีภัยสงครามย้ายมาอยู่ฝรั่งเศส ตอนเขาอายุ 2 ขวบ
1
ดังนั้นประโยคที่พาดพิงถึงแองโกล่า มันกระทบตัวคามาวิงก้าแบบเต็มๆ เลย
1
ขณะที่ประเด็นของเอ็มปัปเป้นั้น ในอดีตเขาเคยคบหากับ อีเนส ราอู ผู้หญิงข้ามเพศ ชาวฝรั่งเศส โดยอีเนส เป็นทรานส์เจนเดอร์คนแรกที่เป็นสาวสวยประจำเดือน (เพลย์เมต) ของนิตยสารเพลย์บอยอีกด้วย แต่ทั้งคู่เลิกรากันไปแล้ว ในปี 2023
เรื่องเอ็มบัปเป้ไปคบหาผู้หญิงข้ามเพศ ถูกลากมาแซวในเพลงดังกล่าวด้วย เรื่องนี้ก็เป็นประเด็นใหญ่เหมือนกัน ฝั่งฝรั่งเศสมองว่าคุณจะคบหากับใครก็ได้ เพศไหนก็ได้ มันเป็นเรื่องรสนิยม ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอามาแซะกัน แต่ใน Chant ของอาร์เจนติน่า ดูจะไม่คิดแบบนั้น
ถามว่านักเตะอาร์เจนติน่าทุกคน เป็นพวกเหยียดหรือไม่? คือก็คงไม่ เพราะผู้เล่นหลายคนก็ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ อย่าง ลีโอเนล เมสซี่, อเลฮันโดร การ์นาโช่ หรือ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ก็ไม่ปรากฎตัวอยู่ในคลิปด้วย ดังนั้นก้อนหินแห่งความโกรธแค้น จึงถูกโยนลงไปใส่ที่เอ็นโซ่เต็มๆ
การกระทำของเอ็นโซ่ครั้งนี้ ทำให้เวสลีย์ โฟฟาน่า เพื่อนร่วมทีมเชลซี ทวีตด่าทันทีว่า "ฟุตบอลในปี 2024 แต่การเหยียดเชื้อชาติแบบบ้าคลั่งก็ยังเกิดขึ้นอีก"
ในทีมเชลซี ณ เวลานี้ มีนักเตะชาวฝรั่งเศสผิวดำหลายคน นอกจากโฟฟาน่า ก็มีมาโล่ กุสโต้, คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู, เบอนัวต์ บาเดียชิลล์, เลสลีย์ อูโกชุควู และ อักเซล ดิซาซี่ โดยล่าสุด ผู้เล่นบางคนเช่น โฟฟาน่า, กุสโต้ และ ดิซาซี่ กดอันฟอลโลว์เอ็นโซ่ ในอินสตาแกรมไปเรียบร้อยแล้วด้วย
แน่นอนว่า เมื่อเอ็นโซ่กลับไปเชลซี บรรยากาศจะมาคุแน่ๆ อยู่ที่ว่าเขาจะเคลียร์ปัญหาใจกับทุกคนได้เร็วแค่ไหน
เรื่องเชื้อชาตินั้น ในมุมของฝั่งอาร์เจนติน่าอาจมีแนวคิดแบบหนึ่ง แต่ที่ฝรั่งเศสนั้น นี่คือประเทศที่มีความกลมกลืนทางวัฒนธรรม นอกจากคนผิวขาวแล้ว ฝรั่งเศสมีทั้งคนผิวดำ และ คนอาหรับ รวมถึงคนที่อยู่ในดินแดนโพ้นทะเล อย่างเรอูนิยง, มาร์ตินิค หรือ กวาเดลูป
1
ในขณะที่ทีมฟุตบอล ก็มีความหลากหลายมานานแล้วตั้งแต่ในอดีต ปาทริก วิเอร่า มีเชื้อสายเซเนกัล, มาร์กแซล เดอไซญี่ มีเชื้อสายกาน่า, ซีเนอดีน ซีดาน มีเชื้อสายแอลจีเรีย หรือ เธียร์รี่ อองรี ก็มีเชื้อสายคนดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในทะเลแคริบเบียน
ครั้งหนึ่งซีดาน เคยบอกไว้ว่า "มันไม่เกี่ยวกับศาสนา ไม่เกี่ยวกับสีผิว เราไม่เคยแคร์อะไรพวกนั้น เราแค่รวมกันเป็นหนึ่งเดียว และมีความสุขกับมันทุกวินาที"
จุดสำคัญของเรื่องนี้ เราต้องทำความเข้าใจว่า เชื้อชาติ กับ สัญชาติ มันมีความหมายไม่เหมือนกัน
เชื้อชาติ (Race) หมายถึง ชาติพันธุ์ เผ่าพันธุ์ คุณมีลักษณะทางกายภาพอย่างไร ผิวดำ ผิวขาว ผิวเหลือง
สัญชาติ (Nationality) หมายถึง ชาติที่คุณเลือกจะยึดถือ เป็นประเทศหลักในการใช้ชีวิต
1
ฝรั่งเศสไม่ได้สนใจว่าคุณจะมี Race อะไร แต่ขอแค่คุณมี Nationality เดียวกัน นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะเล่นให้ทีมชาติ ดังนั้นเมื่อโดนลากเรื่องเชื้อชาติมาด่า มาแซะ จึงทำให้คนฝรั่งเศสโมโหอย่างช่วยไม่ได้
สถานการณ์ ณ เวลานี้ เอ็นโซ่ ลงข้อความในไอจี โดยกล่าวว่า "ผมอยากจะขอโทษอย่างจริงใจเกี่ยวกับวีดีโอที่ผมโพสต์ในอินสตาแกรม ระหว่างช่วงเฉลิมฉลองของทีมชาติ ในเพลงนั้นมีถ้อยคำที่รุนแรง และผมไม่มีข้อแก้ตัวอะไรเลย"
"ผมต่อต้านเรื่องการเหยียดทุกกรณี ดังนั้นผมต้องขอโทษจริงๆ ที่ไหลไปกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองแชมป์โคปาอเมริกา แต่ในวีดีโอนั้น โมเมนต์นั้น คำพูดนั้น ไม่ได้สะท้อนถึงความเชื่อ และสะท้อนว่าผมเป็นคนอย่างไร ผมต้องขอโทษด้วยจากใจจริง"
1
เขากล่าวคำขอโทษแล้วก็จริง แต่เรื่องมันเกิดไปแล้ว แต่ ฟิลิปป์ ดิยัลโล่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส บอกว่าไม่จบง่ายๆ แน่ เพราะจะแจ้งเรื่องนี้ไปทางฟีฟ่า และอาจเอาเรื่องทางกฎหมายด้วย
นี่เป็นสถานการณ์ที่เอ็นโซ่ต้องเจ็บตัวแน่นอน อยู่ที่ว่าจะหนักแค่ไหน เพราะเมื่อภาพมันออกมาแบบนี้ เขาดูเอ็นจอยกับการร้องเพลงเหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ ก็ต้องมีบทลงโทษตามมาอยู่แล้ว
4
ขณะที่ต้นสังกัดเชลซี ก็ต้องคิดเยอะทีเดียว ว่าจะจัดการปัญหาภายในอย่างไร ถ้าเคลียร์ไม่ได้ บรรยากาศในทีมก่อนเริ่มฤดูกาลใหม่ จะตึงเครียดแบบสุดๆ แน่
บทสรุปของเรื่องนี้ ผมคิดว่า การลากเอาฝรั่งเศสมาแซะ ตอนตัวเองได้แชมป์โคปา อเมริกา ดูจะผิดที่ผิดทางมาก
ฝรั่งเศสก็ลงแข่งในยูโรของเขาไป ไม่ได้ยุ่งกับอาร์เจนติน่ามาเป็นปีแล้ว แล้วพออาร์เจนติน่าได้แชมป์อเมริกาใต้ดันลากเอาฝรั่งเศสมายำ มันไม่เห็นจะเกี่ยวกันตรงไหน
ส่วนเรื่องการแซว การแซะเกิดขึ้นได้ แต่มันก็ต้องมีลิมิตเหมือนกัน อย่างเรื่องเชื้อชาติ เป็นเส้นที่คุณข้ามไม่ได้อยู่แล้ว
ขณะที่ตัวนักเตะเองก็ต้องมีสติให้มาก ไม่ใช่อ้างแต่ว่า "บรรยากาศพาไป" เพราะเมื่อพูด หรือทำอะไร แล้วมันอยู่ในโลกออนไลน์แล้ว สิ่งนั้นก็จะคงอยู่ตลอดไป ภาพลักษณ์ของตัวเองที่อุตส่าห์สร้างสมมาดีๆ ก็อาจจะเสียหายไปตลอดกาลเลยก็เป็นได้
โฆษณา