17 ก.ค. เวลา 07:20 • นิยาย เรื่องสั้น

เรื่องเล่าวันฝนตก #21

สายสืบบียิ้มให้กับความสำเร็จของตัวเอง เขาพึงพอใจกับฝีมือความแม่นยำในการยิงปืนลูกดอกอาบยาสลบ ที่มุ่งเป้าไปสู่เด็กชายตัวน้อย ด้วยความชำนาญในการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี บวกกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ที่ถูกพัฒนาให้ทันสมัย โดยอิงจากอาวุธดั้งเดิม ทำให้ปืนที่เขาถืออยู่ ทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี
ป่านนี้…เด็กชายตัวน้อย คงหลับไหลในเซฟเฮ้าท์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างปลอดภัยแล้ว…
สายสืบบีเพิ่งส่งเด็กชายให้ทีมสำรองของชุดสืบสวนนำตัวไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เอง
ก่อนหน้านั้น ตอนที่สายสืบบี เดินออกมาจากรถตู้สีดำเจ้าปัญหา เขาได้รับวิทยุโดยตรงจากหัวหน้าชุดปฎิบัติการให้ใช้ปืนลูกดอกอาบยาสลบมุ่งเป้าที่เด็กชาย เพื่อนำตัวออกมาให้อยู่ในที่เหมาะสม ลูกดอกที่ถูกใส่ยาให้สลบนานสามชั่วโมงถูกนำมาใช้ เด็กจะตื่นขึ้นมาพร้อมเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ จบลงแล้ว
นี่เป็นคำสั่งของหัวหน้าหน่วยมดตะนอยส่งหาสายสืบบีเพียงคนเดียว เพราะจากการประเมินสถาณการณ์ที่พัวพันยุ่งเหยิงกัน และไม่อาจคาดเดาปริมาณความรุ่นแรงที่จะเกิดขึ้นได้ การกันเด็กออกมาจากที่เกิดเหตุ น่าจะดีที่สุด
ส่วนชายคนนั้น คนที่อยู่กับเด็ก สายสืบบีจำเป็นต้องทำให้เขาสลบไปพร้อมๆกัน เพราะเขาเองดันเข้ามาอยู่ในอนาเขตปฎิบัติการครั้งนี้….และเพื่อลดความวุ่นวาย ตัดตอนเหตุการณ์ให้จบลงอย่างเรียบร้อย ลูกดอกยาสลบนาน สามสิบนาที จึงถูกยัดใส่แม็กกาซีนต่อจากลูกแรกที่เป้าหมายเป็นเด็กชาย หลังจากที่เขายิงลูกดอกเข้าหาเด็กชาย เป้าหมายถัดไป จึงเป็นชายคนนั้น เขาโดนลูกดอกพุ่งเข้าสู่ร่างกายในวินาทีที่ 40 และนาทีนี้ เขายังคงหลับไหลนอนนิ่งอยู่ที่ตรงนั้น ตรงมุมหนึ่งของตึกร้าง
ไม่นาน…เขาคงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความ งงงวยแน่ๆ
สายสืบบีใช้เวลาปฎิบัติการทั้งหมดรวม 62 วินาที
มิทชั่นคอมพลีท
ครืน…นนนนนนน เสียงฟ้าร้องคำราม เหนือตึกแห่งนี้ เหมือนย้ำเตือนให้เขาหันกลับเข้าสู่การครุ่นคิดแก้ปัญหาส่วนตัวที่เกิดขึ้น ….. สายสืบบีหลับตานิ่ง ผ่อนลมหายใจเพื่อจัดเรียงความคิดและลำดับความสำคัญของเหตุการณ์
“เอายังไงดีวะ” สายสืบบีถามตัวเองในใจ “จะทรยศหักหลังเพื่อนพ้อง ทำผิดต่องานที่รักและศรัทธา เพื่อความปลอดภัยของคนรักตัวเองงั้นหรือ… - มึงจะตัดช่องน้อยพอตัวหาความสุขเข้าตัว หรือจะปล่อยให้คนรักตกอยู่ในกำมือของพวกมัน เพื่อความปลอดภัยของคนส่วนมากและสังคมที่เขาใช้ชีวิตอยู่ - “เอายังไงดีวะ” สายสืบบีรำพึง ประโยคนี้ออกมาเป็นเสียง ครั้งที่สอง มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้
ยังไม่ทนที่เขาจะคิดตก สายสืบเอก็เดินเข้ามาสับทับในพื้นที่ตรงนี้แบบเงียบๆ แต่ด้วยความรู้สึกที่ว่องไวของสายสืบบี เขาหันมามองที่ต้นเหตุเกือบจะทันที แล้วสายตาทั้งคู่ก็ประสานกัน เหมือนทั้งสองส่งความในใจ และสื่อความหมายในสิ่งที่คิดผ่านแววตาและเสียงฝน เลยไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาจากทั้งสองฝั่ง
มีเสียงวิทยุดังขึ้นจากหน่วยบัญชาการ
แคร็ก…แคร็กๆๆ ….แจ้งมดตะนอยทุกตัว ตอนนี้ช้างใหญ่ ( หมายถึงกำนัน)หลุดจากพิกัด ตอนนี้เรายังค้นหาอยู่ มดเอ อยู่กับ มดบีใช่หรือไม่ แคร็ก…แคร็ก… แคร็ก.....
“ใช่ครับ” ทั้งสายสืบเอ และบี พูดเข้าไปในระบบวิทยุสื่อสารแทบจะพร้อมกัน
“ โอเค..ช่วยกันตามหาช้างใหญ่ ด่วน สัญญานจีพีเอสหลุดไป… น่าจะยังหลุดออกไปไม่ใกลจากที่ตรงนี้… ส่วนช้างน้อย ( หมายถึงป้าแกร็ปฟู้ด) พิกัดแจ้ง…อยู่ตรงกระท่อม มด เอ มดบี ตกลงกันเองว่าใครจะตามใคร" แคร็ก…แคร็ก… แคร็ก... เสียงวิทยุเงียบหายไปหลังจากหัวหน้าหน่วยสั่งการจบ
ครืน..นนนนนน… ครืน….. นนนน เสียงฟ้าคำรามออกมาอีกครั้ง แล้วนาทีต่อมา เสียงนี้ก็นำพาฝนห่าใหญ่ตกลงมาอีกรอบ….นำพาละอองน้ำปลิวมากับสายลมและเม็ดฝน…ส่งผลให้การตกลงปฏิบัติหน้าที่ของสองสายสืบหยุดชะงักลง
ทัังสองมองขึ้นไปบนฟ้า ตรงซอกตึก ช่องว่างที่ลมฝนพัดผ่านเข้ามา
“พักก่อน ฝนหยุดค่อยว่ากัน “ สายสืบเอ บอกคู่หู สายสืบบีพยักหน้าแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เมื่อไม่ต้องเร่งรีบ เขาจึงเปิดกระเป๋าชุดปืนลูกดอกออกมาเช็คความเรียบร้อยอีกครั้ง ทิ้งให้สายสืบเอ…ตรวจสอบพิกัดมดเล็กจากหน้าปัดนาฬิกาเพียงลำพัง
ระหว่างปัดนาฬิกา ใจของสายสืบเอก็ลอยไปสู่ภาพในรถตู้ และปืนกระบอกนั้น ตราสัญลักษณ์ที่สลักไว้บนด้ามปืนทำให้เขาสับสน มีคำถามผุดขึ้นมาในหัวมากมาย… ปืนกระบอกนั้น มันมาตกอยู่ที่พื้นรถได้ยังไง ใครเป็นคนเอามันมา ช้างใหญ่ ชายคนนั้นคนที่หนีไป ป้าแกร็ปฟู้ด ชายชุดดำสองคน ชายต่างด้าว ใครกันแน่ที่เป็นคนถือมา…
หรือว่าจะมีปืนมากกว่า หนึ่งกระบอก เพราะตลอดเวลาที่สอดแนมในการปฎิบัติภาระกิจนี้ เขารับรู้ได้ในระยะใกลจากสายตา ว่า….มีปืนหนึ่งกระบอกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาไม่เห็นปืนระยะใกล้ จึงไม่ทันรู้ว่า ปืนที่มีสัญลักษณ์ที่เขาจำได้มาข้องเกี่ยว
“เห็นตำแหน่งช้างน้อยมั้้ย” สายสืบบีถามขึ้น ทำให้สายสืบเอ หลุดจากความคิดเมื่อครู่ หันมาจ้องหน้าปัดนาฬิกา เขาเปิดโหมดแผนที่ค้างไว้ นานจนหน้าปัดดับลง เมื่อสัมผัสหน้าจออีกครั้งก็พบว่า….ตำแหน่งช้างน้อยเปลี่ยนไป…
และนั่นทำให้สายสืบเอ ต้องรีบปฎิบัติการแม้สายฝนยังคง ตกลงมาอย่างแรง
“ตำแหน่งช้างน้อยเปลี่ยนไป ดูเหมือนกำลังจะออกนอกพื้นที่ “ สายสืบเอ พูดขึ้น สายสืบบีพยักหน้า
“ แยกกันตรงนี้ นายไปดูช้างน้อยนะ “ สายสืบเอพูดขึ้น คล้ายสั่งการ สายสืบบีรีบเก็บชุดปืนลูกดอก ยัดลงกระเป๋า แล้วยกนาฬิกาข้อมือ ขึ้นมาดูพิกัด ช้างน้อย เขารับรุดไปยังกระท่อม
ด้านสายสืบเอ รีบพาตัวเองไปที่ ห้องคลังแสง เพราะเขาเองต้องไปจัดการกับ ชายใส่หมวกที่ยังถูกล้อกด้วยกุญแจมืออยู่ตรงแถวนั้น….
และเมื่อมองภาพกว้างออกมา ภาพเหตุการณ์ทั้งหมด ถูกบันทึกไว้จากกล้องที่ซ่อนไว้บนมุมสูงของตัวตึก ภาพนั้นส่งฉายขึ้นไปยังจอแอลอีดีขนาดใหญ่ มีสายตาคนกลุ่มหนึ่งกำลังดูเหตุการณ์ ทั้งหมดนี้ อยู่ที่ไหนสักแห่ง ที่ตรงนั้น สายฝนก็กำลังเทลงมาอย่างหนัก เช่นกัน
โปรดติดตามต่อไป ในรูปแบบ นิยายเล่ม เร็วๆนี้
โฆษณา