17 ก.ค. 2024 เวลา 08:05 • สิ่งแวดล้อม

หลายวันนี้ผมได้ยินเหตุผลที่คนต่อต้านการปิดป่าทับลานยกมา

นั่นคือ "ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน" และ "ป่ามันเสื่อมแล้ว"
และชี้นิ้วคนที่ต้องการปกป้องป่าว่า "โลกสวย" และ "เขียวตกขอบ"
นี่ทำให้นึกถึงหลักวิชาการคิดที่เน้นเรื่องหนึ่งคือตรรกะวิบัติ (fallacy) จับเรื่องหนึ่งไปโยงอีกเรื่องหนึ่ง แล้วสรุปคำตอบ
หลักคิดที่ถูกคือต้องไร้ preconceived idea (ความคิดปรุงแต่งล่วงหน้า) คิดรอบๆ คิดกว้างๆ คิดไกลๆ มองทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่ต้องขบคิด
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าผมบอกว่า ปัญหาป่าทับลานเกี่ยวกับปัญหาสาธารณสุข หรือการไอของลูกคุณ หลายคนก็บอกว่าไม่เห็นเกี่ยวกันตรงไหน
ยกอุปมาให้เข้าใจดีกว่า
ทุกวันตามถนนสายต่างๆ ที่มีคนพลุกพล่าน มีพ่อค้าแม่ค้าเข็นรถขายอาหารไปตั้งบนทางเท้า บ่อยครั้งก็กีดขวางทางจราจร แต่เราก็อยู่กันมาแบบอะลุ่มอล่วย เพราะเห็นใจกัน ทุกคนต้องทำมาหากิน
แต่สมมุติว่าจำนวนรถเข็นเพิ่มขึ้นจนล้นทางเท้า พ่อค้าแม่ค้ารวมตัวกันขอให้รัฐเปลี่ยนถนนหนึ่งเลนเป็นทางเท้าขายของ น่าเห็นใจ "เพราะพวกเขาเดือดร้อน"
มิเพียงเท่านั้นหากมันทำได้ ไม่ช้านานถนนสายอื่นๆ ก็ต้องสละทางให้คนขายของ
ดังนั้น "เพราะพวกเขาเดือดร้อน" จึงเป็นตรรกะวิบัติ ใช้เป็นเหตุผลที่จะทุบถนนไม่ได้ เพราะหากเราแก้ปัญหาโดยเปลี่ยนพื้นถนนเป็นทางเท้า คนใช้ถนนก็เดือดร้อน หากชาวบ้านที่อาศัยในสลัมขอไปเจียดพื้นที่บ้านนายกฯมาหน่อย นายกฯก็เดือดร้อน
ป่าทับลานและป่าอื่นๆ ก็เช่นกัน จะเปลี่ยนมันเป็นพื้นที่ทำกินเพราะชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้ เพราะจะมีคนทั้งประเทศที่เดือดร้อนจากการทำลายป่า ก็คือเราทุกคน
มองให้ทะลุปัญหา สิ่งที่เรียกว่าปัญหาทับลานไม่ใช่ปัญหาชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน แต่เป็นปัญหาการปกป้องป่าทั้งประเทศ
ป่าเป็นต้นกำเนิดชีวิต อาหาร อากาศ เป็นเครื่องปรับอากาศให้ทั้งประเทศ การทำลายป่าแม้ตารางนิ้วเดียว ณ เวลานี้ไม่พึงกระทำ
เราทุกคนร้องเพลงชาติไทย รู้ไหมว่าประโยค "เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่" นี้รวมป่าด้วย
สมัยผมเป็นเด็ก ประเทศมีป่าไม้ราวสามในสี่ของพื้นที่ประเทศ แต่ด้วยตรรกะวิบัติที่เรียกว่า 'ความเจริญ' เราทำลายบ้านตัวเอง จนตอนนี้สภาพอากาศแปรปรวน อุทกภัย คนป่วย (ทีนี้เข้าใจแล้วยังว่า ป่าทับลานเกี่ยวกับปัญหาสาธารณสุขอย่างไร)
รู้ไหมว่าถ้าป่าหาย สัตว์หาย แมลงหาย น้ำผึ้งก็หายไปด้วย
เอาละ ก็มาถึงข้ออ้างที่ถูกนำมาใช้ "ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน" เราจะไม่สนใจชาวบ้านที่เดือดร้อนหรือ?
แน่นอน เราต้องสนใจและต้องแก้ปัญหา แต่การแก้ปัญหาที่ทำกินของชาวบ้าน ไม่ได้มีทางเลือกเดียวคือตัดป่า ก็คิดเอาสิ
ถ้าคิดได้แค่ตัดป่า วันหนึ่งราคาที่เราคนไทยทั้งประเทศจ่าย จะสูงกว่าพื้นที่ป่าที่เราคิดเฉือนทิ้งในวันนี้ล้านล้านล้านเท่า เฉพาะค่ายารักษาโรคทางเดินหายใจที่ตามมาหลังป่าหมด คูณจำนวนปีของอายุประเทศไทยที่เหลือ ก็คิดเป็นตัวเลขไม่พอใส่แผ่นกระดาษ
มันก็คือตรรกะเดียวกับเมื่อเด็กไทยอ่านไม่ออก คิดไม่เป็น เราก็แจกแท็บเล็ต
สำหรับข้ออ้าง "ป่ามันเสื่อมแล้ว" แปลว่าอะไรที่เสื่อมก็ยกให้คนอื่นงั้นหรือ? มันปลูกใหม่ไม่ได้เพราะมันมีสารกัมมันตภาพรังสี? หรือมีพิษ? หรือมีผีสิง? หรือพ่อมดมันตรัยสาปไว้? หรืออะไร?
ทางแก้ปัญหามีมากมาย ถ้าใช้สมองคิด และข้อห้ามแรกของการคิดแก้ปัญหาคือ การมีคำตอบเรียบร้อยก่อนแล้ว
ใครกันแน่ที่โลกสวย?
วินทร์ เลียววาริณ
11-7-24
#saveทับลาน
โฆษณา