18 ก.ค. เวลา 00:09 • หนังสือ

ชีวิตไม่ได้ยาวนานอย่างที่คิด กับ 10 วิธีใช้เวลา 4,000 สัปดาห์ให้คุ้มค่าจากเศรษฐีระดับโลก Peter Thiel

ชีวิตของเราแต่ละคนมีเวลาจำกัด โดยเฉลี่ยแล้วมนุษย์มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เพียงประมาณ 4,000 สัปดาห์เท่านั้น นี่คือข้อมูลที่น่าตกใจจากหนังสือ “Four Thousand Weeks – Time and How to Use It” โดย Oliver Burkeman ซึ่งทำให้เราต้องตระหนักถึงความสำคัญของการใช้เวลาในชีวิตอย่างมีคุณค่า
4
บทความนี้จะนำเสนอมุมมองและคำแนะนำจากผู้ประสบความสำเร็จอย่าง ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) ที่จะช่วยให้เราเข้าใจวิธีการใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและมีความหมายมากขึ้น
1
1. ความจริงของชีวิต: เวลาที่จำกัด
Oliver Burkeman ได้เปิดเผยความจริงที่น่าตกใจในหนังสือของเขา นั่นคือโดยเฉลี่ยแล้ว มนุษย์มีชีวิตอยู่บนโลกนี้เพียงประมาณ 4,000 สัปดาห์เท่านั้น คำนวณจากอายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์เราที่ประมาณ 80 ปี และหนึ่งปีมีประมาณ 50 สัปดาห์ เมื่อเราตระหนักถึงความจริงนี้ เราจะเริ่มเห็นคุณค่าของเวลาที่เรามีอยู่มากขึ้น
3
ข้อเท็จจริงนี้ทำให้เราต้องคิดทบทวนถึงวิธีการใช้ชีวิตของเรา เราอาจกำลังปล่อยให้เวลาอันมีค่าผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์โดยไม่รู้ตัว การตระหนักถึงความจำกัดของเวลาจะช่วยกระตุ้นให้เราใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและมีความหมายมากขึ้น
3
2. บทเรียนจากปีเตอร์ ธีล: อย่ารีรอ ลงมือทำทันที
ปีเตอร์ ธีล ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และนักลงทุนรายแรกของ Facebook ได้แบ่งปันประสบการณ์และคำแนะนำที่มีค่าสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการไม่รีรอและการลงมือทำทันที
2
ธีลกล่าวว่า “ถ้าคุณย้อนเวลากลับไปสัก 20 หรือ 25 ปี ผมจะบอกตัวเองว่าอย่ารีรอ” เขาเชื่อว่าหากเขาไม่เสียเวลาไปกับการรีรอ เขาอาจจะสามารถคิดการใหญ่และประสบความสำเร็จได้เร็วกว่านี้
1
ประสบการณ์ของธีลสอนให้เราเห็นว่า การศึกษาและการทำงานในสายอาชีพที่มั่นคงไม่จำเป็นต้องเป็นเส้นทางเดียวสู่ความสำเร็จ เขาเล่าว่า “ผมไปเรียนที่มหาวิทยาลัย ไปโรงเรียนด้านกฎหมาย ทำงานด้านกฎหมายและแวดวงธนาคาร แม้จะไม่นานนัก จนกระทั่งเริ่มธุรกิจ PayPal ก็ทำให้รู้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องรอเพื่อเริ่มต้นอะไรอีกต่อไปแล้ว”
3. การคิดใหญ่และการท้าทายตัวเอง
ธีลแนะนำให้เราท้าทายตัวเองด้วยการคิดใหญ่และพยายามทำให้สำเร็จในเวลาที่สั้นลง เขากล่าวว่า “คุณควรใช้แผนชีวิต 10 ปีของคุณแล้วถามว่าทำไมผมถึงทำไม่ได้ใน 6 เดือน” แม้ว่าบางครั้งเราอาจต้องใช้เวลาถึง 10 ปีเพื่อบรรลุเป้าหมายบางอย่าง แต่การตั้งคำถามนี้กับตัวเองจะช่วยกระตุ้นให้เราคิดนอกกรอบและหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการบรรลุเป้าหมาย
4
การคิดใหญ่เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ผู้ประสบความสำเร็จโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ การกล้าที่จะตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและพยายามทำให้สำเร็จในเวลาที่สั้นลงจะช่วยผลักดันให้เราเติบโตและพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว
4. การเลือกเส้นทางชีวิตอย่างชาญฉลาด
ธีลยังให้คำแนะนำที่สำคัญเกี่ยวกับการเลือกเส้นทางชีวิต เขากล่าวว่า “คำแนะนำที่ผมจะมอบให้ตัวเองตอนที่อายุยังน้อย คือก่อนจะชนะการแข่งขันที่จะกำหนดชีวิตส่วนใหญ่ของเราที่เหลือ ถามตัวเองว่าคุณต้องการรางวัลนี้รึเปล่า”
3
คำแนะนำนี้เตือนให้เราคิดอย่างรอบคอบก่อนที่จะทุ่มเทเวลาและพลังงานไปกับเป้าหมายใดๆ เราควรถามตัวเองว่าสิ่งที่เรากำลังไล่ตามนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องการจริงๆ หรือไม่ และมันจะนำพาชีวิตเราไปในทิศทางที่เราต้องการหรือเปล่า
4
5. การสร้างความแตกต่างแทนการแข่งขัน
ในหนังสือ “Zero to One” ของธีล เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความแตกต่างและการผูกขาดในธุรกิจ แทนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันที่รุนแรง เขาแนะนำให้ผู้ประกอบการมองหาวิธีที่จะสร้างธุรกิจที่มีเอกลักษณ์และอยู่เหนือการแข่งขัน
4
ธีลยกตัวอย่าง Google ซึ่งในช่วงแรกของการก่อตั้งไม่มีคู่แข่งที่แท้จริง ทำให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนานวัตกรรมและการดูแลพนักงานได้อย่างเต็มที่ แนวคิดนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาตนเองและการสร้างอาชีพได้เช่นกัน
3
6. การหลีกเลี่ยงกับดักของการแข่งขัน
ธีลเตือนว่าการมุ่งเน้นแต่การแข่งขันอาจเป็นกับดักที่ทำให้เราละเลยสิ่งสำคัญในชีวิต เขากล่าวว่า “ผมคิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ของการแข่งขัน คือมันทำให้มักจะมุ่งเน้นไปที่ผู้คนรอบตัว ในขณะที่เราเก่งขึ้นกับสิ่งที่แข่งขันอยู่ เราก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่สำคัญ ความยอดเยี่ยมหรือความหมายที่แท้จริงในโลกของเรา”
1
การใช้ชีวิตที่มุ่งเน้นแต่การเอาชนะผู้อื่นอาจทำให้เราหลงลืมเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิต และอาจนำไปสู่การมีอีโก้ที่สูงเกินไป แทนที่จะแข่งขันกับผู้อื่น เราควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตนเองและการสร้างคุณค่าให้กับสังคม
3
7. การเริ่มต้นเร็วและการเรียนรู้จากประสบการณ์
ประสบการณ์ของธีลสอนให้เราเห็นว่าการเริ่มต้นเร็วและการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงมีความสำคัญอย่างยิ่ง แทนที่จะใช้เวลาหลายปีในการเรียนรู้และเตรียมตัว เราควรกล้าที่จะลงมือทำและเรียนรู้ไปพร้อมกัน การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราได้รับประสบการณ์ที่มีค่าและพัฒนาทักษะที่จำเป็นได้เร็วกว่า
3
นอกจากนี้ การเริ่มต้นเร็วยังช่วยให้เรามีเวลามากขึ้นในการปรับปรุงและพัฒนาไอเดียของเรา หากเราล้มเหลว เราก็ยังมีเวลาเพียงพอที่จะเริ่มต้นใหม่หรือปรับเปลี่ยนแนวทาง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการเรียนรู้และการประสบความสำเร็จ
1
8. การสร้างสมดุลระหว่างการวางแผนและการลงมือทำ
แม้ว่าธีลจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการลงมือทำทันที แต่เราก็ไม่ควรละเลยการวางแผนอย่างรอบคอบ การสร้างสมดุลระหว่างการวางแผนและการลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ เราควรใช้เวลาในการวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนอย่างรอบคอบ แต่ไม่ควรปล่อยให้การวางแผนกลายเป็นข้ออ้างในการเลื่อนการลงมือทำออกไปเรื่อยๆ
1
การตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งกำหนดขั้นตอนที่ชัดเจนในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น จะช่วยให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิตและการทำงาน ในขณะเดียวกัน เราก็ควรพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแผนเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป
4
9. การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเราตระหนักว่าเวลาของเรามีจำกัด การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราควรมุ่งเน้นไปที่กิจกรรมที่สร้างคุณค่าและนำพาเราไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ การจัดลำดับความสำคัญของงานและการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้เราสามารถทำสิ่งที่สำคัญได้มากขึ้นในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด
1
นอกจากนี้ เราควรตระหนักถึงความสำคัญของการพักผ่อนและการดูแลสุขภาพ การทำงานหนักอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพออาจนำไปสู่ความเหนื่อยล้าและประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง การสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการพักผ่อนจะช่วยให้เรามีพลังและแรงบันดาลใจในการทำงานอย่างต่อเนื่อง
2
10. การสร้างคุณค่าและความหมายให้กับชีวิต
ในท้ายที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเท่านั้น แต่เป็นการสร้างชีวิตที่มีความหมายและมีคุณค่า เราควรถามตัวเองอยู่เสมอว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นั้นสอดคล้องกับค่านิยมและเป้าหมายระยะยาวของเราหรือไม่ การใช้เวลาและพลังงานไปกับสิ่งที่เรารักและเชื่อมั่นจะช่วยให้เรามีความสุขและความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น
2
นอกจากนี้ การช่วยเหลือผู้อื่นและการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมก็เป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความหมายให้กับชีวิต การใช้ความสามารถและทรัพยากรที่เรามีเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นไม่เพียงแต่จะช่วยให้เรารู้สึกมีคุณค่า แต่ยังเป็นการสร้างมรดกที่จะคงอยู่แม้หลังจากที่เราจากไปแล้ว
1
บทสรุป
ชีวิตของเรามีเวลาจำกัดเพียง 4,000 สัปดาห์โดยเฉลี่ย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราไม่สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ บทเรียนจากปีเตอร์ ธีล และผู้ประสบความสำเร็จคนอื่นๆ สอนให้เราเห็นถึงความสำคัญของการไม่รีรอ การกล้าคิดใหญ่ และการลงมือทำทันที
การตระหนักถึงความจำกัดของเวลาควรกระตุ้นให้เราใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายและมีความหมายมากขึ้น แทนที่จะมุ่งเน้นแต่การแข่งขันกับผู้อื่น เราควรพยายามสร้างความแตกต่างและคุณค่าให้กับตัวเองและสังคม
การเริ่มต้นเร็ว การเรียนรู้จากประสบการณ์ และการปรับตัวอย่างต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่ควรละเลยความสำคัญของการวางแผน การสร้างสมดุลในชีวิต และการดูแลสุขภาพของตนเอง
2
ท้ายที่สุด การใช้ชีวิตอย่างมีความหมายไม่ได้วัดจากความสำเร็จทางวัตถุเพียงอย่างเดียว แต่วัดจากผลกระทบเชิงบวกที่เรามีต่อผู้อื่นและสังคมด้วย การตระหนักถึงคุณค่าของเวลาและการใช้มันอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้เราสามารถสร้างชีวิตที่มีความสุข มีความหมาย และบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้ในที่สุด
5
References :
Burkeman, O. (2021). หนังสือ Four Thousand Weeks: Time Management for Mortals. Farrar, Straus and Giroux.
Ferriss, T. (2016). หนังสือ Tools of Titans: The Tactics, Routines, and Habits of Billionaires, Icons, and World-Class Performers. Houghton Mifflin Harcourt.
Thiel, P. (2014). หนังสือ Zero to One: Notes on Startups, or How to Build the Future. Crown Business.
The Intercollegiate Review. (n.d.). Peter Thiel’s Advice for Young People: “Find a Way to Escape Competition”.
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา