17 ก.ค. เวลา 15:51 • ข่าวรอบโลก

รัสเซียกำลังใช้ “กระบวนการทางศาล” ตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก

การคว่ำบาตรรัสเซียจะไม่เซฟอีกต่อไปตราบใดที่รัสเซียมีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อศาลระหว่างประเทศ และการตัดสินของศาลภายในรัสเซียเองมีความเท่าเทียมกับคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ (ฝ่ายตะวันตก) นี่คือสาระสำคัญที่ได้รับจากนักวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศที่ชื่อ Maximilian Hess “เฮสส์” ใน Foreign Policy เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2024
2
เฮสส์บอกว่าฝ่ายตะวันตกยังสามารถบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียตอไปได้ และอาจเป็นไปได้ที่จะริบบางอย่างมาจากรัสเซียอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากมันเกิดขึ้นย่อมต้องมีต้นทุนและมีคนสูญเสีย นั่นคือการยึดสินทรัพย์ของรัสเซียอาจหมายถึงการสูญเสียเงินของนักลงทุนชาวอเมริกันและยุโรปที่ลงไปในสินทรัพย์ดังกล่าว แล้วใครหละจะวิ่งไปฟ้องศาลเพื่อขอเงินจำนวนมากนั้นคืนหรือเรียกร้องถึงการชดเชย
3
เฮสส์ยังยกตัวอย่างเช่น รัสเซียมีการเก็บเครื่องบินพลเรือน (เช่าจากตะวันตก) ไว้ในมือมากกว่า 400 ลำ เขาเตือนว่ามันจะเกิดผลทำให้บริษัทประกันภัยของตะวันตกถูกบังคับให้ชดใช้นักลงทุนสำหรับความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องบินเหล่านี้ได้
2
เครดิตภาพ: Pascal Rossignol / Reuters
ผู้เขียนบทความต้นเรื่องเตือนว่า สถานการณ์อาจซ้ำรอยเดิมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อทรัพย์สินของญี่ปุ่นในอเมริกาถูกยึดไว้ทั้งหมด แล้วปรากฏว่านักลงทุนและเจ้าหนี้ของทรัพย์สินที่ถูกยึดเป็นชาวอเมริกัน การพิจารณาคดีกินเวลานานหลายทศวรรษ โดยมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับเหยื่อของมาตรการดังกล่าว
อีกตัวอย่างที่มีการพูดถึงคือ เงินของรัสเซียที่ฝากไว้กับ Euroclear (บริษัทในบรัสเซลส์ที่ให้บริการทางการเงินและดูแลจัดการหลักทรัพย์และสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น) หากมีความพยายามจะนำมันออกมาใช้จริงๆ ความเป็นจริงนั้นจะทำไม่ได้เลย เพราะชื่อเสียงของ Euroclear จะพังทลายลงทันที และจะต้องจ่ายค่าเสียหายให้กับคนที่ฝากอีกด้วย (ฝ่ายตะวันตกจะกล้าเสี่ยงไหม) - อ้างอิง: [2]
1
เครดิตภาพ: Thierry Monasse / Getty Images
การเรียกร้องเคยเกิดขึ้นมาแล้ว มิคาอิล ฟรีดแมนสามารถฟ้องร้องได้ค่าเสียหายเกือบ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ อันเนื่องจาก “สนธิสัญญาโซเวียต-เบลเยียม-ลักเซมเบิร์ก” ว่าด้วยการคุ้มครองการลงทุนที่มีผลมายังปัจจุบัน ซึ่งรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งด้วยในฐานะผู้สืบทอดของสหภาพโซเวียต
การยกเลิกสนธิสัญญานี้คงจะเป็นการดี เฮสส์กล่าว แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะ ข้อสุดท้ายของสนธิสัญญา (มาตรา 13 ข้อ 2) ระบุว่า (การคุ้มครอง) จะมีผลครอบคลุมกับการลงทุนที่ทำภายใน 15 ปีก่อนที่จะมีการยกเลิกข้อสัญญาดังกล่าว - อ้างอิง: [3]
1
ในปัจจุบันรัสเซียยังคงได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์จากระบบกฎหมายของตะวันตกในภาวะของสงครามด้านเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ (การคว่ำบาตร) ทั้งรัสเซียและเบลารุสไม่สามารถถูกประกาศล้มละลายได้ Euroclear คำนึงถึงการขาดการจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนโดยมอสโกและมินสค์ โดยอธิบายถึงเหตุสุดวิสัยในการคว่ำบาตรต่อรัสเซียและเบลารุส
ด้วยเหตุนี้เฮสส์จึงแนะนำให้รวบรวมความกล้าหาญและยื่นคำร้องเรื่องการล้มละลายต่อรัสเซียให้บ่อยขึ้น เมื่อบริษัทของตนไม่จ่ายเงินให้คู่สัญญาในประเทศตะวันตกเนื่องจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับความจริงที่ว่า “คำสั่งศาลระหว่างประเทศอนุญาตให้รัสเซียใช้คำตัดสินเหล่านี้ต่อต้านฝ่ายตะวันตกเองในศาลของตน (ด้วยความเท่าเทียม)”
กล่าวอีกนัยหนึ่งมีการนำเสนอให้รัสเซียมีสถานะทางกฎหมายเป็นชั้นรอง เลือกปฏิบัติด้วยเงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียม แต่หากชาติตะวันตกทำเช่นนั้น มันย่อมทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น และทำให้เกิดการเร่งจัดตั้งศาลตัดสินที่อยู่ภายใต้กลุ่มอำนาจใหม่อย่าง BRICS ขึ้น
บทความต้นเรื่องอ้างอิงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
17th July 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: (พื้นหลัง) - Eduardo Morciano / The New Yorker (ในกรอบสี่เหลี่ยม) - GLOBSEC>
โฆษณา