ลาวติดหนี้จีนมากกว่าครึ่งของหนี้ที่กู้จากต่างประเทศ
ลาวติดหนี้จีนมากกว่าครึ่งของหนี้ที่กู้จากต่างประเทศ
มูลค่า 10,500 ล้านดอลลาร์ จีนโต้ไม่ได้สร้างกับดักหนี้
เป็นความร่วมมือที่จีนได้ลาวก็ได้ แถมขอจ่ายล่าช้าก็ให้
อย่างที่ทราบกันว่า เงินกู้จํานวนมหาศาลที่ลาวกู้มาจากจีน เพื่อลงทุนในโครงการต่างๆ ทำให้ลาวซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของรัฐบาลปักกิ่งเข้าสู่วิกฤตหนี้ครั้งใหญ่ ทําให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่กำลังติดกับดักหนี้จีนถาวรไม่สามารถออกจากวังวนนี้ได้ตลอดกาล
หลังจากการเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลลาวโดยระบุว่า ภาระหนี้ผูกพันต่างประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าและความต้องการที่จะเลื่อนจ่ายคืนหนี้ล่าช้าออกไป ทำให้ลูกหนี้อย่างลาวเสี่ยงต่อการผิดนัดชําระสูงขึ้น
ทำให้เจ้าหนี้อย่างจีนกําลังช่วยเหลือลูกหนี้จากประเทศเพื่อนบ้านในการลดภาระหนี้จํานวนมหาศาล และถูกนานาชาติทั่วโลกโจมตีว่า จีนได้สร้างกับดักหนี้ให้กับลาว และประเทศด้อยพัฒนาอื่นๆ ที่กู้เงินจีนมามหาศาลเกินกำลังกว่าที่จะจ่ายคืนไหว ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาตอบโต้ข้อครหานี้ว่า การที่รัฐบาลปักกิ่งได้ปล่อยกู้ให้ประเทศเหล่านี้นับเป็นการมีส่วนร่วมใน "ความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน" กับประเทศกําลังพัฒนา เช่น ลาว ซึ่งให้การสนับสนุนอย่างมากสําหรับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ
โฆษกยังระบุด้วยว่า ในขณะเดียวกันก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ประเทศที่เกี่ยวข้องบรรเทาภาระหนี้ของพวกเขาเพื่อไม่ให้ภาระหนี้ก้อนมหึมานี้ทับตัวจนล้มละลาย
คําแถลงของจีนดูเหมือนจะเป็นความพยายามดับไฟหนี้ลุกลามที่ตัวเองสร้างขึ้นเท่านั้น ด้วยหนี้ต่างประเทศมากกว่าครึ่งหนึ่งของลาวที่ 10,500 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 3.9 แสนล้านบาทจีนจึงเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของลาว ทั้งที่ลาวมี GDP เพียงแค่ 15,470 ล้านดอลลาร์เท่านั้น โดยหนี้สาธารณะทั้งหมดของประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ ณ สิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 13,800 ล้านดอลลาร์ หรือมากถึง 108% ของ GDP
ทั้งนี้ลาวขอเลื่อนผัดผ่อนการชําระเงินต้นและดอกเบี้ยออกไปเป็น 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากภาระหนี้ต่างประเทศที่ทําไว้เมื่อปีที่แล้ว 950 ล้านดอลลาร์ ตามแถลงการณ์ก่อนหน้านี้จากธนาคารโลกระบุว่า การกระทําเหล่านี้ได้เสนอการผ่อนปรนเพื่อยื้อเวลาในสั้น ๆ เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากลาวไม่สามารถหาเงินมาจ่ายคืนได้ทัน จากทั้งปัญหาเศรฐกิจในประเทศที่ย่ำแย่
ค่าเงินกีบที่ร่วงลงอย่างหนัก และไร้การลงทุนมูลค่าสูงใหม่ๆ ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ จนกระทั้งรัฐบาลลาวมีการประกาศปลดผู้ว่าธนาคารแห่งชาติลาวในที่สุดจากการบริหารค่าเงินกีบที่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่สุดท้ายก็ต้องใช้หนี้ก้อนใหญ่คืนอยู่ดีบวกกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
สำหรับหนี้ของรัฐบาลส่วนใหญ่ของลาวมาจากข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานที่ทําภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของจีน และปัญหายังคงเพิ่มขึ้นสําหรับลาวเนื่องจากทุนสํารองต่างประเทศลดลงเนื่องจากการกู้ยืมเงินหลายพันล้านดออลาร์จากรัฐบาลของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เพื่อเป็นทุนสําหรับการก่อสร้างถนน รถไฟ และเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ําภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน
ทั้งนี้ลาวที่ปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์มีหนี้จากโครงการรถไฟลาว-จีน ที่ก่อสร้างด้วยเงินกู้จากจีนมูลค่าราว 6,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าหลายคนจะมองว่าการพัฒนานี้เป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่จะเชื่อมโยงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในทันที แต่ก็ทําให้เกิดวิกฤตหนี้เช่นกัน
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
