20 ก.ค. เวลา 01:00 • ยานยนต์

“Vinaxuki” รถยนต์แห่งชาติเวียดนามแบรนด์แรกผู้มาก่อนกาล “VinFast”

“Vinaxuki” รถยนต์แห่งชาติเวียดนามแบรนด์แรก
ผู้มาก่อนกาล “VinFast” ที่เปิดมา 3 ปีก็ขายได้มีกำไร
แต่คิดใหญ่ขยายโรงงานตัวจนเจ๊ง ปิดกิจการในปี 2013
ความทะเยอทะยานของเวียดนามในการมี “รถยนต์แห่งชาติ” ไม่ได้เพิ่งมาเกิดขึ้นในยุคที่ Vingroup เครือบริษัทยักษ์ใหญ่ที่สุดของประเทศที่มี ฝ่าม เญิ้ต เวือง(Pham Nhat Vuong) มหาเศรษฐีอันดับ 1 เป็นเจ้าของ และก่อตั้งบริษัทรถยนต์ที่ชื่อว่า “VinFast” ในปี 2017 เพื่อหวังจะเป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจเวียดนามไปสู่ประเทศผู้ผลิตนวัตกรรมขั้นสูงและอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งทำให้ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือแม้แต่ประเทศจีนก้าวขึ้นสู่หัวแถวของมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
แต่กระนั้น VinFast กลับไม่ใช่แบรนด์รถยนต์สัญชาติเวียดนามรายแรก เพราะถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เวียดนามมีแบรนด์รถยนต์แห่งชาติมาแล้ว อีกทั้งสามารถทำตลาดและสร้างผลกำไรได้อย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายกลับต้องยุติการผลิตลงในเวลาเพียงแค่ 10 ปี
Vinaxuki (วินาซูกิ) รถยนต์สัญชาติเวียดนามรายแรกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2004 ภายใต้บริษัท Xuan Kien Auto JSC ที่ผลิตและประกอบรถยนต์ และรถบรรทุกขนาดเล็ก โดยนับตั้งแต่ก่อตั้ง Vinaxuki ได้เปิดตัวรถบรรทุกถึง 38 รุ่น รถบรรทุกกึ่งพ่วง 2 รุ่น รถทัวริ่ง 2 รุ่น และรถโค้ช 2 รุ่น โดยเจ้าของคือ Nguyen Xuan Kien หนึ่งในมาเศรษฐีในยุคนั้นของเวียดนาม
นับตั้งแต่เปิดตัว บริษัทได้สร้างโรงงานในเขต Me Linh ด้วยกําลังการผลิต 20,000 คันต่อปี ในปี 2006 - 2008 Vinaxuki ผลิตรถบรรทุกมากกว่า 20 รุ่น โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศที่ 27% และรถยนต์นั่ง 3 รุ่น ที่มีดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศที่ 5% โดยราคารถยนต์ส่วนบุคคลอยู่ที่ราว 5 แสนบาทต่อคัน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการดําเนินงานของบริษัทมีผลกําไร โดยในช่วง 3 ปีแรก Vinaxuki ได้ชำระหนี้กู้คืนเงินทุนอย่างสมบูรณ์ให้กับธนาคาร
เมื่อเห็นว่า Vinaxuki น่าจะมีอนาคตเติบโต ก็ได้มีการเดินหน้าลงทุนเพิ่มด้วยความทะเยอทะยานในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดกับรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่เข้ามารุกตลาดอย่างหนัก พร้อมกับคุณภาพที่สูงกว่า
โดยมีการสร้างโรงงาน 3 แห่งในจังหวัด Thai Nguyen และ Thanh Hoa และเขต Me Linh ของกรุงฮานอย และเปิดสำนักงานใหญ่อย่างน้อย 3 แห่ง ทั้งในกรุงฮานอยหรือนครโฮจิมินห์ ซึ่งกำลังการผลิตสามารถผลิตรถยนต์เพิ่มได้เป็น 30,000 คันต่อปี สร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นมากกว่า 9,000 คน
อย่างไรก็ตามความฝันที่จะกลายเป็นรถยนต์แห่งชาติเวียดนาม เป็นอันต้องสะดุดลงจากสภาวะเศรษฐกิจของประเทศตกต่ำในปี 2010 ทําให้ตลาดรถยนต์ดิ่งลงอย่างรุนแรง รถยนต์ที่ประกอบเอาไว้หลายพันคัน แต่ไม่สามารถขายได้
Vinaxuki พยายามยื้ออยู่นานเพื่อให้รถที่ผลิตออกมาจำนวนมากสามารถปล่อยจากสต๊อกได้ โดยก่อนที่บริษัทจะล้มลง Bui Ngoc Huyen ประธานบริษัทได้ขอความช่วยเหลือจากนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อช่วยบริษัทให้รอดพ้น แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร อีกทั้งเขายังขายบ้านของตัวเองเพื่อชําระหนี้
สุดท้ายบริษัทไม่สามารถยื้อต่อไปได้อีก จนต้องมีการประกาศยุติกิจการลงในปี 2013 ปิดตำนานรถยนต์แห่งชาติรายแรกของเวียดนามลงในระยะเวลาเพียง 11 ปี
ทั้งนี้เมื่อปี 2020 ธนาคารเพื่อการลงทุนและการพัฒนาแห่งเวียดนาม (BIDV) ได้ประกาศแผนการที่จะนำสินทรัพย์ที่มีหลักประกันของ Xuan Kien Auto JSC ผู้ผลิตรถยนต์ Vinaxuki สำหรับการประมูลเพื่อกู้คืนสินเชื่อด้อยคุณภาพมูลค่า 1.26 ล้านล้านดอง หรือราว 2,005 ล้านบาท
1
หนี้ดังกล่าวมีหลักประกันสินทรัพย์ รวมถึงที่ดินขนาด 139 ตารางเมตร และโรงงานย่าน Tien Phong ของเขต Me Linh ชานกรุงฮานอย พร้อมเครื่องจักรและอุปกรณ์ของโรงงานก็เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ด้วย
นอกจากนี้ ทรัพย์สินที่ติดอยู่กับที่ดินของโรงงาน Vinaxuki อีกแห่งหนึ่งในจังหวัด Thai Nguyen ทางตอนเหนือ และสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์จากเหมืองแร่พลวง และสายคัดแยกแร่ในชุมชน Dak Drong ของจังหวัด Dak Nong รวมทั้งสำนักงานใหญ่ทั้ง 3 แห่งอยู่ที่กรุงฮานอยหรือนครโฮจิมินห์ ก็ได้รับการขายทอดตลาดเพื่อชำระหนี้ด้วยเช่นกัน
โฆษณา