19 ก.ค. เวลา 06:49 • ครอบครัว & เด็ก
เราเห็นด้วยค่ะ ว่าการนอกใจคือ choice ไม่ใช่ mistake แต่เราก็อดที่จะตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า คำว่านอกใจ เป็นนิยามที่แสดงอาการหรือพฤติกรรมนอกลู่นอกทาง ที่มีระดับแตกต่างตามความรู้สึกของแต่ละปัจเจก ใช่หรือไม่ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็ย่อมมีผลต่อระดับความไว้เนื้อเชื่อใจ บั่นทอน "Trีust" ระหว่างกัน
ยกตัวอย่างแบบนี้ค่ะ หากคุณไปพบว่าแฟนกดไลก์ให้กับภาพหญิงสาวแสนสวยนางหนึ่งที่โพสต์อวดอกอึ๋มแถมออเซาะว่า..."ต้องให้เปิดไฟเหมือนแท๊กซี่มั้ย พี่ถึงจะรู้ว่าว่าง" คุณก็คงรู้สึกถึงความผิดปกติ แต่หากแฟนคุณไม่เพียงกดไลก์ แต่ดันไปกดเลิฝ แทบจะทุกครั้งที่หญิงสาวนางนี้โพสต์ ระดับความรู้สึกของคุณจะรุนแรงขึ้น ทันใดนั้น คุณก็อาจตัดสินว่า "เขากำลังนอกใจ" ตรงนี้นี่เอง ที่มันบั่นทอน "Trust" ระหว่างกัน
หากการโกหกพิสูจน์ได้ว่าจริง มันก็จะมีเพียง 2 เหตุผลเท่านั้น คือหนึ่งเขาต้องการปกปิดเรื่องลับๆเกี่ยวกับตัวเขา และสองเขาจินตนาการว่าถ้าคุณรู้คุณอาจจะเตลิดเปิดเปิง คิดมากฟุ้งซ่าน" แต่สิ่งเหล่านี้อีกเช่นเดียวกัน ที่บั่นทอน "Trust" ระหว่างกัน
หากการนอกกายพิสูจน์ได้ว่าจริง มันก็จะมีเพียง 2 เหตุผลเท่านั้น คือหนึ่งเขาไม่รู้สึกว่าได้รับการเติมเต็มเรื่องบนเตียง และสองเขาแพ้ใจตัวเองให้กับมารยาหญิงสาวไม่ว่าจะคราวลูก หรือไก่แก่แม่ปลาช่อน แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใด มันก็หนีไม่พ้นที่จะบั่นทอน "Trust" ระหว่างกัน
ฝั่งเขา ได้ค่อยๆ ทำลาย "Trust" ที่คุณมีต่อเขา ส่วนฝั่งคุณ อาจทำได้เพียงหมกมุ่นฟุ้งซ่าน ในบางคนอาจเตลิดเปิดเปิง ด้วยการคิดแก้แค้นเอาคืนให้สาสม!
คุณอาจต้องถามตัวเองว่า คุณรู้สึกขยะแขยงหรือไม่ ที่จะนอนเคียงข้างเขา คุณคิดว่า "Trust" ที่เขาสร้าง กับร่างและใจที่เขาเป็นในตอนนี้ เป็นของใคร? ความจริงก็คือร่างกายของเขา มันเป็นของเขามาตั้งแต่เกิด! เขาย่อมมีสิทธิที่จะเลือกให้ร่างกายของเขาไปเสพสมกับใครก็ได้ ที่เขาพึงพอใจ ใช่หรือเปล่าคะ? โอกาสที่เขาจะทำอีก คงไม่มีใครตอบได้แน่ชัด เขาอาจทำอีก เพราะครั้งแรกมันยังผ่านมาได้ หรือเขาอาจจะไม่ทำอีก เพราะดันไปติดเชื้อ HIV ไม่มีใครเลยจะล่วงรู้อนาคตได้!
คุณเองก็เป็นเจ้าของร่างกายและจิตใจตัวเอง
มันเป็นคุณนั่นเองที่ต้องดูแลร่างกายตัวเอง
และมันก็เป็นคุณนั่นเองที่ต้องดูแลจิตใจตัวเอง
คุณเองก็มี choice คุณเลือกได้เสมอค่ะ
โฆษณา