19 ก.ค. เวลา 07:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปเหตุการณ์สำคัญ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทย ของช่วงสัปดาห์นี้

เรียกได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่มีข่าวใหญ่มากมาย ตั้งแต่หุ้น EA ที่ราคาดิ่งลงต่อเนื่อง ไปจนถึง GULF ที่ประกาศควบรวมกับ INTUCH
ลงทุนแมน เลยอยากมาสรุปให้ฟังกันว่า มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง
- เช้าวันจันทร์ที่ 15 ก.ค.
ก่อนเปิดตลาดเช้าวันจันทร์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย H หุ้น EA ให้หยุดซื้อขายชั่วคราว
เพื่อให้บริษัทชี้แจงรายละเอียดที่ชัดเจน ในการชำระคืนภาระหนี้สิน โดยเฉพาะเงินกู้และหุ้นกู้ ที่จะครบกำหนดชำระภายในปี 2567
รวมไปถึงผลกระทบการบริหารจัดการกิจการของ EA ภายหลังนายสมโภชน์ อาหุนัย (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล (CFO) พ้นจากตำแหน่ง เพราะโดนกล่าวโทษทุจริต 3,000 ล้านบาท จาก ก.ล.ต.
ซึ่งพอเปิดตลาดมา บริษัทที่ไม่ขึ้นเครื่องหมาย ในเครือ EA ปรับตัวลดลงหนัก ทั้ง NEX -25% และ BYD -27%
ตัดภาพมาที่ตอนบ่าย
หุ้น EA ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหุ้นชั่วคราว เพราะยังไม่ชี้แจงข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
1
จนสุดท้ายในช่วงค่ำ EA ก็ออกมาชี้แจงข้อมูลกับตลาดว่า ยังเหลือหนี้สินเงินต้นเหลืออีกประมาณ 16,488 ล้านบาท ที่ครบกำหนดในปีนี้ โดยแบ่งเป็น
-เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินและตั๋วแลกเงินระยะสั้น 8,144 ล้านบาท
-เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี 2,852 ล้านบาท
-หุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี 5,492 ล้านบาท
1
ซึ่งถึงตอนนี้ บริษัทยังไม่มีการก่อหนี้เพิ่มเติม
หนี้สินตรงนี้ ตอนแรกบริษัทตั้งใจ Roll Over ในส่วนของเงินกู้ยืมระยะสั้น และมีแผนจะชำระเงินกู้และหุ้นกู้ระยะยาวที่จะครบกำหนดในปี 2567 อยู่แล้ว
โดยใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และวงเงินกู้จากสถาบันการเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท รวมไปถึงการออกหุ้นกู้เพิ่มเติมในปีนี้ ที่อยู่ในระหว่างเจรจากับผู้รับประกันการจัดจำหน่าย
แต่ EA โดนปรับลดความน่าเชื่อถือจาก BBB+ เป็น BB+ โดย TRIS Rating ที่อาจส่งผลต่อการออกหุ้นกู้ใหม่และวงเงินกู้จากสถาบันการเงิน
ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า ยังมีกระแสเงินสดจากธุรกิจโรงไฟฟ้า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน และกำลังหาพาร์ตเนอร์ เพื่อร่วมลงทุน จัดการหนี้และพัฒนาธุรกิจในระยะยาวได้
และ EA ก็ได้เปลี่ยนผู้บริหาร โดยแต่งตั้ง นายสมใจนึก เองตระกูล ดำรงตำแหน่ง “รักษาการ CEO” และ นายวสุ กลมเกลี้ยง ดำรงตำแหน่ง “รักษาการ CFO”
- เช้าวันอังคารที่ 16 ก.ค.
เปิดตลาดมา หุ้น EA ยังดิ่งลง -30% จนติดราคา FLOOR หลังจากปลดเครื่องหมาย SP เมื่อบริษัทชี้แจงข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
และผลก็เป็นโดมิโน กองทุนตราสารหนี้ที่มีหุ้นกู้ EA ก็เริ่มขยับตัว จนราคากองทุนปรับลดลง เพราะใช้มาตรการรับมือที่แตกต่างกันออกไป
หนึ่งในวิธีคือ Set Aside หรือ Side Pocket
ที่แยกส่วนการลงทุนในหุ้นกู้ EA ออกมา ซึ่งสามารถทำได้ 2 แบบ
1
1) ปิดกองทุนไปเลย แล้วรอค่อย ๆ ขายทรัพย์สินที่มีอยู่ เพื่อให้ราคาเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหน่วยลงทุน
การทำแบบนี้ ทำให้กองทุนไม่จำเป็นต้องเร่งขายทรัพย์สินที่มีอยู่ตามแรงขายของผู้ถือหน่วยลงทุน
และนักลงทุนก็รอว่าได้เงินคืนตอนไหนเท่านั้น
แต่มีข้อเสียอยู่บ้างก็คือ ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับเงินสดทันที จะต้องรอผู้จัดการกองทุนค่อย ๆ ขายสินทรัพย์จนหมดก่อน
1
หรือบางกองทุน ก็อาจจะรอการถือหุ้นกู้จนครบกำหนด เพื่อได้รับเงินต้นคืนจากผู้ออกหุ้นกู้ แทนที่จะเร่งขายในตลาดแล้วเสียราคา
2
2) ให้กองทุนซื้อขายได้ต่อไป โดยแยกส่วนลงทุนในหุ้นกู้ EA ออกมา
ซึ่งจะทำให้ราคาต่อหน่วยของกองทุนลดลง เพราะส่วนของหุ้นกู้ EA จะไม่นำมารวมคำนวณใน NAV ของกองทุน
แต่การลดลงตรงนี้ ไม่ได้แปลว่าคนถือกองทุน จะขาดทุนตามสัดส่วนที่กองทุนถือหุ้นกู้ EA เพราะในอนาคต กองทุนอาจขายหุ้นกู้ EA หรือได้เงินต้นครบกำหนดไถ่ถอนคืนจาก EA ก็ได้
1
และในช่วงค่ำ ก็มีข่าวว่ากองทุน ASP-DPLUS ขนาด 24,000 ล้านบาท ซึ่งถือหุ้นกู้ EA อยู่ 4.7% ประกาศปิดกองทุน หลังจากโดนผู้ถือกองทุนไถ่ถอนกว่า 2 ใน 3
แต่ข่าวใหญ่วันนี้ ก็ยังไม่หมด..
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็มีข่าวใหญ่โผล่เข้ามาอีก
โดย GULF ประกาศว่าจะควบรวมกับ INTUCH และเสนอซื้อหุ้น ADVANC และ THCOM ทั้งหมด
ซึ่งทั้ง 4 บริษัทนี้ มีความสัมพันธ์กันทั้งหมด โดย
- GULF ถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH สัดส่วน 47.37%
- INTUCH ถือหุ้นใหญ่ใน ADVANC สัดส่วน 40.44%
- GE หรือ บจ.กัลฟ์ เอดจ์ (บริษัทลูกของ GULF) ถือหุ้นใหญ่ใน THCOM สัดส่วน 41.14%
ถ้าสรุปความสัมพันธ์แบบเข้าใจง่าย ๆ
GULF มีลูกชื่อ INTUCH และมีหลาน 2 คนชื่อว่า ADVANC และ THCOM
แต่ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ GULF และ INTUCH จะควบรวมเข้าด้วยกัน เกิดเป็นบริษัทใหม่ ซึ่งจะถือหุ้นโดยตรงใน ADVANC และทางอ้อมใน THCOM
ความสัมพันธ์ใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทใหม่ มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดที่เหลือของ ADVANC และ THCOM
3
แต่เพื่อให้การควบรวมสำเร็จ GULF และ INTUCH จะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดแทนบริษัทใหม่ และคุณสารัชถ์ รัตนาวะดี ที่จะกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทใหม่ ก็จะร่วมทำคำเสนอซื้อด้วย
 
โดยเป็นการเสนอซื้อหุ้นทั้งหมด จากผู้ถือหุ้นเดิมแบบสมัครใจหรือ VTO ซึ่งให้ผู้ถือหุ้นเดิมตัดสินใจว่าจะขายไหม ตามราคาที่เสนอซื้อไป
แต่ราคาเสนอซื้อออกมา ดูเหมือนว่าจะต่ำกว่าราคาในตลาด ซึ่งต้องรอดูต่อไปว่า ดีลนี้จะจบลงอย่างไร
- เช้าวันพุธที่ 17 ก.ค.
ข่าว GULF ที่ออกมา ทำให้ราคาหุ้นของกลุ่ม GULF ก็มีการตอบสนองที่แตกต่างกันออกไป
- GULF +3%
- INTUCH -2%
- ADVANC +2%
- THCOM +7%
ส่วนฝั่ง EA ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนติด FLOOR 2 ที่ราคา 6.40 บาทต่อหุ้น
- เช้าวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.ค.
หุ้น EA ร่วงอีก -16% เหลือ 5.35 บาทต่อหุ้น ต่ำกว่าราคา IPO เมื่อ 11 ปีที่แล้ว ที่ราคา 5.50 บาทต่อหุ้น แต่ไม่ติด FLOOR อีกครั้ง
ซึ่งวันนั้น มีปริมาณการซื้อขายหุ้น EA ที่ Match สูงถึง 1,000 ล้านหุ้น..
- เช้าวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.
1
ราคาปิดตลาดช่วงเช้า หุ้น EA อยู่ที่ 5.10 บาท ปรับตัวลดลง 3.77%
และมีการ Match ไปแล้ว 145 ล้านหุ้น
สรุปเหตุการณ์ในสัปดาห์นี้ทั้งหมดอีกครั้ง เผื่อใครยังตามไม่ทัน
- วันจันทร์ หุ้น EA ถูกห้ามซื้อขายชั่วคราว เพราะรอให้ชี้แจงข้อมูลภาระการชำระหนี้คืน และผลกระทบจากการจัดการ หลัง ก.ล.ต. กล่าวโทษทุจริต ก่อนช่วงค่ำ EA จะออกมาชี้แจง
1
- วันอังคาร หุ้น EA ดิ่งหนัก บางกองทุนที่มีหุ้นกู้เริ่มเคลื่อนไหว และช่วงค่ำ มีข่าวใหญ่ 2 ข่าว คือ กองทุน ASP-DPLUS ขนาด 24,000 ล้านบาท ที่ถือหุ้นกู้ EA อยู่ 4.7% ประกาศปิดกองทุน
ตามมาด้วยข่าวใหญ่ GULF ควบรวมกับ INTUCH และเสนอซื้อหุ้น ADVANC และ THCOM ทั้งหมดที่เหลือ
- วันพุธ หุ้น EA ดิ่งต่อ ส่วนหุ้นในกลุ่ม GULF มีการเคลื่อนไหว หลังข่าวที่ออกมาเมื่อค่ำวันอังคาร
- วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ราคาหุ้น EA ต่ำสุดตั้งแต่ IPO หรือในรอบ 11 ปี..
โฆษณา