19 ก.ค. เวลา 12:06 • ธุรกิจ

รู้จัก CrowdStrike บริษัทเบื้องหลัง ที่ทำ Windows จอฟ้าทั่วโลก

เมื่อบ่ายของวัน เกิดเหตุการณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows ขึ้นจอฟ้า (BSOD) จนใช้การไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเหตุวุ่นวายไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน American Airlines, Delta ที่หยุดให้บริการชั่วคราว
สนามบินหลายแห่งอย่าง Berlin, Sydney ที่ไม่สามารถเช็กอินได้
1
รวมถึงบริษัทหลายแห่งในไทย ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
โดยต้นตอของปัญหานี้ มาจากโปรแกรม CrowdStrike Sensor ของบริษัท CrowdStrike Holdings, Inc. ที่ทำธุรกิจด้าน Cybersecurity
2
วันนี้ลงทุนแมน จะมาเล่าเกี่ยวกับบริษัทแห่งนี้ให้ฟัง
CrowdStrike เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2011 โดยคุณ George Kurtz
ก่อนหน้านี้ คุณ George Kurtz เคยทำงานที่บริษัท McAfee ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของโปรแกรม Antivirus ที่เรารู้จักกัน
3
แต่เนื่องจากเขารู้สึกอึดอัด กับการที่ AntiVirus ในตอนนั้น ไม่สามารถอัปเดตการป้องกัน การโจมตีรูปแบบใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทันเวลา
1
จุดนี้เองที่ทำให้เขาจึงตัดสินใจออกมาก่อตั้งบริษัท CrowdStrike ในเวลาต่อมา
5
เพื่อให้เห็นภาพธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น ลงทุนแมนจะอธิบายภาพรวมของอุตสาหกรรม Cybersecurity สั้น ๆ ให้ฟังกันก่อน
โดยทั่วไปแล้ว เป้าหมายหลัก ๆ ของบริษัทที่ทำธุรกิจ Cybersecurity คือ การป้องกัน ตรวจจับ Cyber Attack หรือการโจมตีทางไซเบอร์ทุกรูปแบบ ซึ่ง Cyber Attack ก็จะมีหลายรูปแบบด้วยกันไป เช่น
5
-Malicious Software หรือ Malware
คือโปรแกรม หรืออะไรก็ตาม ที่สร้างขึ้นเพื่อสร้างความเสียหายต่อคอมพิวเตอร์ เครือข่าย หรือเซิร์ฟเวอร์ เช่น เข้ามาลบข้อมูล ล็อกการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งก็จะมีประเภทย่อย ๆ ของมันลงไปอีก เช่น Ransomware หรือ Trojan
1
-Denial-of-Service (DoS) Attacks และ Distributed Denial of Service (DDos)
เป็นการทำให้ระบบ หรือเว็บไซต์เป็นอัมพาต จนไม่สามารถให้บริการได้ชั่วขณะ
1
ในทางเดียวกัน แต่ละบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ ก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น
- Palo Alto ที่เป็นผู้นำในด้าน Network Security
- Cloudflare ที่มีชื่อเสียงในด้านป้องกันเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันจาก DDOS
สำหรับ CrowdStrike ก็จะเป็นผู้นำในด้าน Endpoint Security ซึ่งเป็นการป้องกันที่อุปกรณ์ปลายทาง
1
ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, Laptop, สมาร์ตโฟน หรือแม้แต่อุปกรณ์เล็ก ๆ อย่างหูฟัง ที่มีซอฟต์แวร์ ก็นับเป็นอุปกรณ์ปลายทางทั้งหมด
1
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะมีคำถามว่าแล้ว CrowdStrike ต่างจากโปรแกรม AntiVirus อย่างไร ?
คำตอบคือ ความ Realtime
2
เนื่องจากการทำงานของ CrowdStrike เป็นการใช้ AI ร่วมกับระบบ Cloud ที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก ซึ่งระบบการทำงานจะแตกต่างจากโปรแกรม AntiVirus ทั่วไป
1
สำหรับโปรแกรม AntiVirus ที่เราคุ้นเคยกัน หลังจากที่เราติดตั้งบนคอมพิวเตอร์แล้ว
เพื่อป้องกันการแฮ็กในรูปแบบใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เราจำเป็นต้องอัปเดตโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชันใหม่อยู่เป็นประจำ
แต่แม้เราจะอัปเดตอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความคาดเคลื่อนของเวลาอยู่เล็กน้อย
แต่สำหรับการทำงานของ CrowdStrike ที่ทำงานบน Cloud จะมีความเรียลไทม์กว่า ยกตัวอย่างเช่น
1
หากเกิดการแฮ็กข้อมูลรูปแบบใหม่ขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนั้น 10 นาทีต่อมา เกิดการแฮ็กในลักษณะเดียวกันที่ประเทศไทย ตัว Falcon ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ของ CrowdStirke จะสามารถป้องกันการแฮ็กนั้นได้ทันที
1
จุดนี้เองที่ ทำให้ CrowdStrike แตกต่างจากโปรแกรม AntiVirus ทั่วไป ที่ต้องรอการอัปเดต ซึ่งบางครั้งอาจต้องรอนานหลายวันเลยทีเดียว
โดยจุดเด่นทางธุรกิจตรงนี้ เองทำให้ CrowdStrike เติบโตอย่างรวดเร็ว
(รอบงบการเงินของบริษัท เริ่มนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมกราคม)
ปี 2022
-รายได้ 52,300 ล้านบาท
-ขาดทุน 8,500 ล้านบาท
1
ปี 2023
-รายได้ 81,200 ล้านบาท
-ขาดทุน 6,600 ล้านบาท
ปี 2024
-รายได้ 110,700 ล้านบาท
-กำไร 3,200 ล้านบาท
1
รายได้เติบโตเฉลี่ย 45% ต่อปี
และบริษัทเพิ่งสามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรก เมื่อปีที่ผ่านมา
1
หลังจากปิดตลาดไปเมื่อวาน มูลค่าบริษัทอยู่ที่ 3,000,000 ล้านบาท
สำหรับเหตุการณ์ที่ล่าสุด ที่ทำให้ระบบปฎิบัติการ Windows จอฟ้า ไปนั้น เกิดจาก Crowdstrike Sensor ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบการป้องกันของ CrowdStrike เกิดการขัดข้อง
หากใครทำการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติของเครื่อง จนเข้าใช้งาน Windows ไม่ได้
1
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมมีแต่คอมพิวเตอร์ในระดับองค์กรเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ ?
3
เป็นเพราะว่า ปัจจุบันลูกค้าหลัก ๆ ของ CrowdStrike ก็คือกลุ่มองค์กรเท่านั้น บริษัทยังไม่มีการเปิดให้คนทั่วไปได้ใช้
2
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทั้งบริษัท CrowdStrike และทาง Microsoft ได้ทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อยู่
1
ผลกระทบจากปัญหาจอฟ้า ที่ทำให้ระบบและธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม หยุดชะงักไปทั่วโลก ทั้งธนาคาร สื่อ สายการบิน หรือโทรคมนาคม
ก็ไม่รู้ว่า สร้างความเสียหายมากแค่ไหน
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือ ราคาหุ้นของ CrowdStrike ร่วงไปแล้วกว่า -11% ในช่วง Pre-market
คิดเป็นมูลค่าที่หายไป 330,000 ล้านบาท ภายในไม่กี่นาที..
โฆษณา