19 ก.ค. เวลา 12:57 • หุ้น & เศรษฐกิจ

โลกของเรา กำลังมี เศรษฐกิจคู่ขนาน ที่ขาดกันไม่ได้

ในวันที่ Microsoft ขึ้นหน้าจอสีฟ้า ใช้งานไม่ได้
ในวันที่ CrowdStrike ระบบ Cybersecurity มีปัญหา
ในวันที่ธุรกิจทั่วโลก เช่น สายการบิน สนามบิน โรงพยาบาล โรงงาน ได้รับผลกระทบตามไปด้วย
3
สามเหตุการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน
2
นี้คืออีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญของโลก เพราะธุรกิจในโลกเสมือน ที่ไม่เคยเห็นหน้าตาของสินค้าเหล่านั้น จับต้องทางกายภาพไม่ได้
กลับมาสร้างความเสียหายในให้ธุรกิจโลกจริง มหาศาล
1
นั่นเท่ากับว่า โลกของเรากำลังมีระบบเศรษฐกิจ
คู่ขนาน ที่กำลังเกี่ยวข้องอย่างแยกกันไม่ขาด โดยที่เราเองอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ
1
โลกของเรา เริ่มมีเศรษฐกิจคู่ขนานตอนไหน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
3,500 ปีที่แล้ว มนุษย์เริ่มต้นสร้างหมู่บ้าน
มีการแบ่งงานกันทำ และลงมือปลูกพืช ผัก เลี้ยงหมู ไก่ เป็ด เอาไว้เป็นอาหารในชุมชน
ระบบเศรษฐกิจตอนนั้นเรียบง่าย ใครปลูกอะไร ใครผลิตอะไร ก็แลกเปลี่ยนระหว่างกัน ตามสัดส่วนแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้
หมู 1 ตัว แลกกับเสื้อผ้า 5 ตัว
ไก่ 3 ตัว แลกกับถ่านไม้
แต่เมื่อจำนวนคนมากขึ้น อาชีพที่หลากหลายขึ้น
การมาเทียบว่า อะไรเท่าไรถึงจะแลกเปลี่ยนได้เท่าเทียม ก็เริ่มทำได้ยากขึ้น
มนุษย์ก็แก้ปัญหาตรงนี้ ด้วยนวัตกรรมที่เรียกว่า
“เงินตรา” เริ่มตั้งแต่เปลือกหอย พดด้วง จนมาถึงเงินเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร และเงินรูปดิจิทัลในปัจจุบัน
พอมีระบบเงินตรา ระบบเศรษฐกิจก็เริ่มพัฒนาซับซ้อนมากขึ้น จากที่เคยค้าขายแค่ในชุมชนและหมู่บ้านใกล้เคียง ก็เริ่มแสวงหาทางไปไกล ๆ แทน
4
จากยุคสำรวจทางทะเลในศตวรรษที่ 15 บรรดานักเดินเรือจากสเปนและโปรตุเกส ก็ได้บุกเบิกให้การค้า เชื่อมต่อกันระหว่างส่วนต่าง ๆ ของโลกมากขึ้น
แต่แม้เศรษฐกิจโลกจะซับซ้อนมากแค่ไหน ระบบเศรษฐกิจโลกก็ยังมีแค่ระบบเดียว นั่นคือ ซื้อขายสินค้าและบริการที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น
เราซื้ออาหาร ตามที่เราอยากกิน
เราซื้อเสื้อผ้า ตามที่เราอยากใส่
เราซื้อบริการ ตามที่ตัวเองอยากได้รับ
ซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองเห็นด้วยตาเปล่า จนตัดสินใจควักเงินตัวเองออกมา และจ่ายให้เจ้าของธุรกิจเหล่านั้น
อย่างไรก็ตาม การมาของโลกอินเทอร์เน็ตในปี 1980 จากนักวิทยาศาสตร์อเมริกัน 2 คน โดย Robert Kahn และ Vinton Cerf ได้เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล
1
เพราะหลังจากอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้น ก็ได้ให้กำเนิดธุรกิจที่เกี่ยวข้องมากมาย ตัวอย่างเช่น
- Google ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1994
- Amazon ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1994
- Facebook ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2004
2
จากธุรกิจเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ สร้างพื้นที่บนโลกออนไลน์ของตัวเอง ก็ค่อย ๆ กลายเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ ที่กุมอำนาจและยึดครองดินแดงใหม่แห่งนี้
และไม่ใช่การสร้างพื้นที่ธุรกิจของตัวเองเท่านั้น แต่ยังสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ใหม่ ให้กลายเป็นระบบเศรษฐกิจคู่ขนานของโลกนี้
1
ปัจจุบัน Alphabet บริษัทแม่ของ Google กลายเป็นผู้นำในระบบเสิร์ชเอนจิน, เจ้าของ YouTube, Android และ Gemini
1
ซึ่งมีรายได้ในปีที่ผ่านมากว่า 11 ล้านล้านบาท
โดยในจำนวนนี้ เป็นเม็ดเงินจากรายได้ค่าโฆษณา มากถึง 77% เลยทีเดียว
นอกจาก Alphabet แล้ว บรรดาบริษัทเทคฯ ก็มีรายได้หลักล้านล้านเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Microsoft ที่มีรายได้ในปีที่ผ่านมา 7.6 ล้านล้านบาท
META เจ้าของ Facebook, Instagram, WhatsApp มีรายได้ปีที่ผ่านมา 4.8 ล้านล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้ค่าโฆษณามากถึง 98%
3
พอเป็นแบบนี้ ทำให้โลกเสมือนจริงที่เกิดขึ้นใหม่ อาจมีเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าหลาย ๆ ประเทศเสียอีก
และเศรษฐกิจระบบใหม่นี้ ก็ได้คัดลอกหน้าตาของเศรษฐกิจในโลกจริงไปด้วยเช่นกัน แต่เปลี่ยนให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเอกชนแค่อย่างเดียว โดยที่รัฐมีบทบาทน้อยลง..
ตัวอย่างเช่น
- ระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่อาจเป็นทหาร ตำรวจ ก็แทนที่ด้วยบริษัทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัย เช่น CrowdStrike หรือ McAfee แทน
1
- ระบบการจัดเก็บและจัดการข้อมูลออนไลน์ ก็มีบริษัทให้บริการ เช่น AWS ของ Amazon, Microsoft Azure, Google Cloud
ซึ่งหลายครั้ง ก็ไปซ้อนทับกับธุรกิจในโลกจริง
เพราะบริการเหล่านี้ ก็ถูกใช้กับธุรกิจสนามบิน สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร และอะไรต่าง ๆ อีกมากมาย
หรือเป็นระบบที่เม็ดเงินไหลผ่านเศรษฐกิจเสมือนจริง ก่อนกลับไปหาเศรษฐกิจในโลกจริงอีกครั้ง โดยเฉพาะธุรกิจตัวกลางหรือแพลตฟอร์ม
ตัวอย่างเช่น VISA และ Mastercard บริการตัวกลางรับชำระเงิน ที่ร้านค้าและธนาคารใช้กันทั่วโลก
1
Airbnb แพลตฟอร์มหาที่พักท้องถิ่น ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างเจ้าของที่พัก กับคนที่ต้องการหาห้องพัก
2
สุดท้ายแล้ว เศรษฐกิจคู่ขนาน ก็เป็นเรื่องที่ดี
เพราะทำให้เศรษฐกิจโลก เติบโตขึ้น ขยายใหญ่ขึ้น แถมช่วยให้เศรษฐกิจโลกจริง ทำลายข้อจำกัดการโตแบบเดิม ๆ
2
แต่การซ้อนทับของโลก 2 ใบที่เกิดขึ้น ในวันใดที่ระบบเศรษฐกิจฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีปัญหา ก็อาจทำร้ายและทำให้เกิดความเสียหายแบบคาดไม่ถึง
1
เหมือนในวันนี้ ที่เราเห็นหน้าจอสีฟ้าของ Microsoft ไปทั่วโลก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เห็นได้ยากพอสมควร..
โฆษณา