19 ก.ค. เวลา 22:09 • ไลฟ์สไตล์

หลังจากไม่สบายสองสัปดาห์ ฉันก็ตื่นขึ้นมาเริ่มฝึกเดิน เพราะรู้สึกขาไม่แข็งแรง

วันนี้ฉันตัดสินใจ เดินให้ได้อย่างน้อย สามสิบ นาที ฉันลงไปเดินก็ค่อนข้างดึกนะ สี่ทุ่มแล้ว สรุปว่าเดินไปสี่สิบนาที เหงื่อทะลักสุดๆ
ฉันอยู่อพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ที่เพิ่งซื้อไปเมื่อสองเดือนก่อน ข้างล่างมีห้องให้ออกกำลังกาย จึงลงไปเดินที่นั่น เพราะรู้สึกว่ายังไม่หายป่วยดี ไม่อยากไปโดนลมมาก
พอออกจากห้องออกกำลังกาย ฉันก็เห็นว่าห้องนั่งเล่นไฟเปิดอยุ่ จึงเดินอ้อมไปดู ฉันพบผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ อยู่คนเดียว ฉันยีนทักทายเธอสักพัก และเธอก็เดินมาทักทายฉัน
เธอแนะนำตัว "ฉันชื่อลินดา" พักอยู่บล็อคตรงกันข้าม อยู่มา 2 ปีแล้ว เธอว่าดีใจจังที่ได้เห็นผู้คนบ้าง ฉันก็แอบหัวเราะ เธอถามว่าฉันชื่ออะไร มาจากไหน ทำไมภาษานอร์เวย์ของฉันไม่เหมือนคนท้องถิ่นที่นี่ ฉันเลยบอกว่า ย้ายมาจากทางออสโล ได้สี่ปีแล้ว
ฉันบอกว่าฉันมาอยู่ได้ 2 เดือน ทำงานไม่ไกลจากที่นี่ ฉันเดินบ้าง ถ้าวันไหนขี้เกียจ ก็ไปรถไฟบ้าง
เธอเล่าว่า เธอก็ย้ายมาจากทางโน้นเหมือนกัน หลังจากที่แม่เสีย แล้วทิ้งบ้านหลังใหญ่ไว้ให้ เธอคิดว่าไม่น่าจะดูแลไหว จึงขายและย้ายกลับมาที่เมืองนี้ แม่เธอเสียอายุ 95 ปี
ลินดา เป็นผู้หญิงวัยเกษียนแล้ว และเธอป่วยเป็นมะเร็ง รักษาคีโม แต่เธอแข็งแรงมาก เธอเดินวันละ 10 000 ก้าว เพื่อให้ขาแข็งแรง และเธอไม่อยากอายุยืนแต่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จึงฝึกซ้อมให้กล้ามเนื้อกลับมา
ฉันชมว่าเธอเก่งมาก เดินได้แบบนี้ทุกวัน ดีกว่าฉันมากๆ
เธอเล่าเรื่องแม่ให้ฟัง อายุเยอะ และก็หลงลืม แต่แม่เธอก็ไม่ได้ไปอยู่บ้านพักคนชรา ยอมที่จะอยู่บ้าน ให้พยาบาลมาดูแล
เธอเล่าว่าวันหนึ่งพาแม่ไปโรงพยาบาล แม่ตื่นมามองเดียงของเธอ และเตียงของแม่เอง แม่เธอถามเธอว่า .... นี่ใครเป็นอะไรเหรอ ใครป่วย
เธอบอกแม่นั่นแหละ ที่ไม่สบาย ...​แม่เธอตอบว่า มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับตัวฉันเหรอ ..
ลินดา เป็นคนที่พูดไปยิ้มไป ฉันดูรูปร่างและโครงหน้าเธอ ตอนสาวๆ คงสวยมากๆ
คุยกันสักพัก ฉันก็ลากลับขึ้นห้องฉัน เพราะเหงื่อโชกมาก
ถือเป็นวันเริ่มต้นที่ดี วันหนึ่งของฉันเหมือนกันนะ
เมื่อฉันได้พบกับลินดา เธอนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เพียงลำพัง
โฆษณา