20 ก.ค. เวลา 09:16 • ธุรกิจ

‘สรุปเหตุการณ์ CrowdStrike’ วิกฤต IT ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ Y2K ชิดซ้าย

ผลกระทบ และการรับมือกับความไม่แน่นอนของความปลอดภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
เช้าวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2024 โลกได้เผชิญกับเหตุการณ์ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติ IT ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ผิดพลาดของบริษัท CrowdStrike ส่งผลให้ระบบคอมพิวเตอร์ Windows หลายเครื่องทั่วโลกล่มสลาย โดยเหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายและความวุ่นวายในวงกว้าง ตั้งแต่ระบบการบินทั่วโลกไปจนถึงการให้บริการทางการเงินและการแพทย์
แต่ก่อนจะกล่าวถึง CrowdStrike และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราต้องเข้าใจถึงความสำคัญของระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดของโลกกันก่อน
Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 70% บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั่วโลก และยังเป็นระบบหลักในองค์กรธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาลจำนวนมาก Windows OS จึงกลายเป็นมาตรฐาน สำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ทำให้ระบบนิเวศของ Windows มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ขยายบทบาทของ Windows เข้าสู่ระบบคลาวด์ผ่าน Azure ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ Windows ไม่ได้จำกัดอยู่แค่บนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอีกต่อไป แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับบริการดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่เว็บไซต์ไปจนถึงแอปพลิเคชันบนมือถือ
ด้วยเหตุนี้ ความผิดปกติใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อ Windows จึงมีศักยภาพที่จะสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วโลก
📌 [เหตุการณ์ CrowdStrike ยิ่งใหญ่แค่ไหนหากเทียบกับ Y2K]
หากเทียบกับวิกฤต Y2K ที่เคยสร้างความหวาดกลัวในช่วงปี 2000 เหตุการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ Y2K เป็นเพียงการคาดการณ์ถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบจริงมากนัก แต่เหตุการณ์ล่าสุดนี้ได้สร้างความเสียหายที่จับต้องได้และส่งผลกระทบต่อระบบสำคัญทั่วโลกอย่างกว้างขวาง
📌 [CrowdStrike - ผู้พิทักษ์ความปลอดภัยไซเบอร์ที่กลายเป็นภัยซะเอง]
CrowdStrike เป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งในปี 2011 โดยจอร์จ คุร์ตซ์, ดิมิทรี อัลเปโรวิช และเกรก มาร์ตัน บริษัทเป็นที่รู้จักจากซอฟต์แวร์ Falcon ซึ่งใช้เทคโนโลยี cloud-native และ AI เพื่อตรวจจับและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์
CrowdStrike มีบทบาทสำคัญในการรักษาความปลอดภัยให้กับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงบริษัทในกลุ่ม Fortune 500 ธนาคารระดับโลก และหน่วยงานภาครัฐ ความสำคัญของ CrowdStrike สะท้อนให้เห็นจากการที่บริษัทได้รับการว่าจ้างให้สืบสวนการโจมตีทางไซเบอร์ที่สำคัญหลายครั้ง เช่น การแฮ็กคอมพิวเตอร์ของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2016
โดยซอฟต์แวร์ของ CrowdStrike ต้องการสิทธิ์การเข้าถึงระดับลึกในระบบปฏิบัติการเพื่อตรวจจับภัยคุกคาม ซึ่งทำให้การอัปเดตที่ผิดพลาดส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก
📌 [ลำดับเหตุการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้น]
เหตุการณ์เริ่มต้น เมื่อ Microsoft รายงานปัญหาการให้บริการ Azure และ Microsoft 365 ในสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้สายการบิน Frontier Airlines ต้องหยุดเที่ยวบินเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ต่อมาในเช้าวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม เวลาประมาณ 01:00 น. ตามเวลานิวยอร์ก Microsoft ประกาศว่าได้แก้ไขปัญหาแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากนั้น เริ่มมีรายงานปัญหาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
โดยผลกระทบที่เกิดขึ้นมีดังนี้:
✈️ ระบบการบิน: สายการบินหลายแห่งทั่วโลก เช่น United Airlines, Delta Air Lines, American Airlines, Lufthansa, Air France-KLM และ Ryanair ต้องหยุดหรือเลื่อนเที่ยวบิน สนามบินหลายแห่งประสบปัญหาระบบเช็คอินล่ม ต้องใช้วิธีเช็คอินด้วยมือและออกบัตรโดยสารแบบเขียนมือ
🏦 ธนาคารและบริการทางการเงิน: พนักงานธนาคารหลายแห่ง เช่น JPMorgan Chase, Nomura Holdings และ Bank of America ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ บางธนาคารต้องใช้ระบบสำรอง ส่วนบริษัทหลักทรัพย์บางแห่ง เช่น Haitong Securities ต้องหยุดการซื้อขายชั่วคราว
💸 ตลาดหลักทรัพย์: ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSE) รายงานว่าไม่สามารถเผยแพร่ข่าวสารผ่านระบบ RNS ซึ่งเป็นช่องทางหลักสำหรับบริษัทจดทะเบียนในการประกาศข้อมูลสำคัญ
🩺 บริการทางการแพทย์: โรงพยาบาลหลายแห่งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป รวมถึง Memorial Sloan Kettering Cancer Center และ Mass General Brigham รายงานว่าการให้บริการผู้ป่วยได้รับผลกระทบ ระบบ NHS ของอังกฤษประสบปัญหาในการเข้าถึงประวัติผู้ป่วยและผลตรวจทางการแพทย์
🚓 บริการฉุกเฉิน: ระบบ 911 ในนิวยอร์กและนิวแฮมป์เชียร์ได้รับผลกระทบ โดยในนิวแฮมป์เชียร์ ผู้ปฏิบัติงานสามารถเห็นสายเรียกเข้าแต่ไม่สามารถรับสายได้
⚡ ระบบพลังงาน: บริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานหลายแห่งรายงานปัญหาในระบบบริการลูกค้าและการจ่ายไฟ
🚆 ระบบขนส่งสาธารณะ: ในนิวยอร์ก ระบบรถไฟใต้ดินไม่สามารถแสดงข้อมูลการมาถึงของขบวนรถได้ ส่วนในวอชิงตัน ดี.ซี. มีการเตือนให้ผู้โดยสารเตรียมพร้อมรับมือกับความล่าช้า
🛥️ ระบบท่าเรือ: ท่าเรือหลายแห่ง เช่น ท่าเรือฮูสตัน ซึ่งเป็นท่าเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของสหรัฐฯ ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
🏪 ธุรกิจค้าปลีก: ร้าน Starbucks ในหลายพื้นที่ประสบปัญหาระบบสั่งซื้อออนไลน์ล่ม ต้องรับคำสั่งซื้อด้วยมือ
📰 บริการสื่อ: Sky News ในสหราชอาณาจักรและออสเตรเลียไม่สามารถออกอากาศสดได้
📌 [การแก้ไขปัญหาและการฟื้นฟูระบบ]
CrowdStrike ได้ออกมาแถลงว่าปัญหาเกิดจากข้อบกพร่องในการอัปเดตเนื้อหาเพียงครั้งเดียวของซอฟต์แวร์บนระบบปฏิบัติการ Windows โดยบริษัทได้ระบุสาเหตุและดำเนินการแก้ไขแล้ว อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ได้รับผลกระทบด้วยตนเอง ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันในการดำเนินการทั่วโลก
ส่วนทางด้าน Microsoft ได้รับทราบถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบกับอุปกรณ์ Windows อยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีเหตุมาจากการอัปเดตแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการรายหนึ่ง และคาดว่าจะมีแนวทางการแก้ไขออกมาเร็วๆ นี้ โดยล่าสุด Microsoft Windows กลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว
📌 [ผลกระทบในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้น]
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้เปิดเผยให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการพึ่งพาผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่เพียงไม่กี่ราย โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยไซเบอร์และระบบคลาวด์ ซึ่งอาจกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีทั่วโลก
1. ความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้ให้บริการรายใหญ่ เหตุการณ์นี้เปิดเผยให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการพึ่งพาผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่เพียงไม่กี่ราย โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยไซเบอร์และระบบคลาวด์ ตามที่ Bloomberg Intelligence ระบุว่า Amazon, Microsoft และ Google ครองส่วนแบ่งตลาดคลาวด์ถึง 65% ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มการกำกับดูแลระบบ IT ของธนาคารมากขึ้น
2. ความจำเป็นในการมีระบบสำรอง: หลายองค์กร เช่น ธนาคาร ต้องหันไปใช้ระบบสำรองในระหว่างที่เกิดปัญหา แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีแผนสำรองที่มีประสิทธิภาพ
3. ผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ CrowdStrike: นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence คาดการณ์ว่าเหตุการณ์นี้อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของ CrowdStrike อย่างมาก ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Palo Alto Networks, Wiz และ SentinelOne
4. การเพิ่มความสนใจในโซลูชันแบบ Agentless: เหตุการณ์นี้อาจทำให้ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่พิจารณาใช้ผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยแบบ agentless มากขึ้น เนื่องจากปัญหาเกิดจาก agent ที่ติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ปลายทาง
5. ความสำคัญของการทดสอบและการอัปเดต: เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทดสอบการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างรอบคอบก่อนนำไปใช้งานจริง โดยเฉพาะสำหรับซอฟต์แวร์ที่มีสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงในระบบปฏิบัติการ
6. การเติบโตของตลาดประกันภัยไซเบอร์: Bloomberg ระบุว่าการประกันภัยไซเบอร์เป็นส่วนที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดประกันภัยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้อาจกระตุ้นให้องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยไซเบอร์มากขึ้น
7. ผลกระทบทางการเงิน: นอกจากผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจที่หยุดชะงัก ยังมีผลกระทบต่อตลาดหุ้น โดยราคาหุ้นของ CrowdStrike ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นในยุโรปด้วย
8. การปรับปรุงแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน: องค์กรต่างๆ อาจต้องทบทวนและปรับปรุงแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานแบบ manual เมื่อระบบดิจิทัลล่ม เช่น การที่สายการบินต้องออกบัตรโดยสารด้วยมือ
9. ความท้าทายในการแก้ไขปัญหาในวงกว้าง: การที่ต้องรีบูตเครื่องคอมพิวเตอร์ทีละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวงกว้าง ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต
📌 [แนวทางป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต จากคำแนะนำของ Future Trends]
แม้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก Future Trends แนะนำแนวทางดังนี้
Multi-vendor Strategy: ใช้บริการจากผู้ให้บริการหลายราย เพื่อกระจายความเสี่ยง
🟢 เพิ่มความเข้มงวดในการทดสอบการอัปเดตซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในส่วนที่มีผลกระทบสูง
🟢 ออกแบบระบบให้สามารถทำงานได้แม้บางส่วนจะล้มเหลว
🟢 Improved Rollback Mechanisms: พัฒนากลไกการถอยกลับ (rollback) ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
🟢 เพิ่มการตรวจสอบระบบแบบ real-time เพื่อตรวจจับปัญหาได้เร็วขึ้น
🟢 พัฒนาและทดสอบแผนรับมือภัยพิบัติอย่างสม่ำเสมอ
🟢 Zero Trust Architecture: นำแนวคิด Zero Trust มาใช้เพื่อลดผลกระทบจากการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต
🟢 Chaos Engineering: ทดสอบความทนทานของระบบโดยการจำลองเหตุการณ์ล้มเหลวอย่างมีแบบแผน
เหตุการณ์ IT ล่มทั่วโลกครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและองค์กรต่างๆ ทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เราพึ่งพาในชีวิตประจำวัน ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโอกาสในการพัฒนาระบบที่มีความยืดหยุ่นและทนทานมากขึ้น
และในท้ายที่สุด เหตุการณ์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีความทนทานและปลอดภัยมากขึ้น เพื่อรองรับโลกที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
#FutureTrends #FutureTrendsetter #CrowdStrike
โฆษณา