21 ก.ค. เวลา 00:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ

อิตาลี vs ไทย : บทเรียนการเติบโตแบบ Old Economy ในยุค Digital Disruption

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำไปอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจสงสัยว่าประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอดหรือไม่ เราต้องมี unicorn เยอะ ๆ จริงหรือ? แล้วประเทศพัฒนาแล้วประเทศอื่นล่ะ พวกเขาจำเป็นต้องมีบริษัททางด้านเทคโนโลยีเพื่อผลักดันประเทศให้กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วจริงหรือไม่
6
ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หลายคนอาจคิดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจต้องพึ่งพาธุรกิจเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว มีหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จโดยไม่จำเป็นต้องมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อิตาลีเป็นตัวอย่างที่ดีของประเทศที่เติบโตด้วยจุดแข็งดั้งเดิมของตน
3
ภูมิหลัง: อิตาลี – แบบอย่างของการเติบโตแบบ Old Economy
ดร.วิทย์ สิทธิเวคิน จาก 8 Minute History มีการเทียบไทยกับอิตาลีในแง่วัฒนธรรมและลักษณะนิสัยของผู้คนได้อย่างน่าสนใจ ทั้งสองประเทศมีวิถีชีวิตที่มีความ “ชิลล์” คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้อิตาลีจะไม่มีบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก แต่กลับสามารถเติบโตจนมี GDP เป็นอันดับ 9 ของโลก และถือเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้ต่อหัวสูง
2
เมื่อพิจารณาบริษัทที่มีมูลค่าตลาด (Market Cap) สูงสุดในอิตาลี เราจะเห็นภาพที่น่าสนใจ:
  • 1.
    Ferrari – ผู้ผลิตรถยนต์หรู
  • 2.
    Enel – บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่
  • 3.
    Intesa Sanpaolo – สถาบันการเงินชั้นนำ
  • 4.
    UniCredit – ธนาคาร
  • 5.
    ENI – บริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
  • 6.
    Generali – บริษัทประกันภัย
2
จะเห็นได้ว่า บริษัทชั้นนำของอิตาลีล้วนเป็นธุรกิจแบบดั้งเดิมหรือ Old Economy ทั้งสิ้น ไม่มีบริษัทเทคโนโลยีปรากฏในอันดับต้น ๆ เลย
3
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย เราจะเห็นภาพที่คล้ายคลึงกัน:
  • 1.
    Delta Electronics – ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบจัดการพลังงาน
  • 2.
    PTT – บริษัทพลังงานแห่งชาติ
  • 3.
    AOT – ผู้บริหารสนามบินหลักของประเทศ
  • 4.
    AIS – ผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำ
  • 5.
    PTTEP – บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
  • 6.
    Gulf – ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่
  • 7.
    CP All – ผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีก
3
แม้ว่า Delta Electronics จะเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี แต่ก็ไม่ได้เป็นบริษัทเทคโนโลยีล้วน ๆ เหมือนกับ Google หรือ Facebook แต่เป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และระบบจัดการพลังงาน ซึ่งก็ยังคงมีลักษณะของธุรกิจการผลิตแบบดั้งเดิมอยู่มาก
1
เมื่อเทียบจำนวนบริษัท Unicorn ข้อมูลจาก tracxn พบว่า Italy มี 4 บริษัท ส่วนไทยมี 5 บริษัท ซึ่งถือว่ามีจำนวนค่อนข้างสูสีกับเลยทีเดียว
4
บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินเสียงเชียร์ให้ประเทศไทยพัฒนาไปสู่การเป็น “Silicon Valley แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” หรือผลักดันให้เกิด “Unicorn” (บริษัท Startup ที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เยอะ ๆ ซึ่งในมุมกลับกันเราก็ควรที่จะตั้งคำถามได้เช่นกันว่า เส้นทางเหล่านี้เป็นเส้นทางที่เหมาะสมกับประเทศไทยจริงหรือ?
1
การมุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยีอย่างเดียวอาจทำให้เราละเลยศักยภาพที่แท้จริงของประเทศ เราควรพิจารณาว่าอะไรคือจุดแข็งของไทย และควรส่งเสริมอุตสาหกรรมใดที่สอดคล้องกับทรัพยากรและทักษะของคนไทย
1
บทสรุป: เส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย
แทนที่จะพยายามเป็นสิ่งที่เราไม่ได้ถนัด ประเทศไทยควรมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เรามีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เช่น:
  • 1.
    การท่องเที่ยวและการบริการ: ไทยมีชื่อเสียงด้านการต้อนรับและวัฒนธรรมที่เป็นมิตร
  • 2.
    อุตสาหกรรมอาหาร: เรามีความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารคุณภาพสูง
  • 3.
    การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ: ไทยมีความได้เปรียบด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
  • 4.
    อุตสาหกรรมยานยนต์: เรามีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและเครือข่าย supply chain ที่ครบวงจร และพร้อมที่จะมุ่งไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคตอย่างรถไฟฟ้า ที่เริ่มมีหลายแบรนด์เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตกันแล้ว
4
การผลักดันธุรกิจเหล่านี้ให้เติบโตและขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น การเข้าไปลงทุนในเวียดนามของบริษัทยักษ์ใหญ่หลาย ๆ บริษัทในประเทศไทย อาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
1
ท้ายที่สุด เราควรตระหนักว่าประเทศไทยมีจุดแข็งและเอกลักษณ์เฉพาะตัว การพัฒนาประเทศไม่จำเป็นต้องเดินตามรอยใคร แต่ควรเป็นเส้นทางที่สอดคล้องกับศักยภาพและวัฒนธรรมของเรา การผสมผสานระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมดั้งเดิมและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาดอาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในระยะยาวของประเทศไทย
5
การมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีและพัฒนาต่อยอดจากจุดแข็งเหล่านั้น อาจเป็นเส้นทางที่ยั่งยืนกว่าการพยายามเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเพื่อไล่ตามกระแสโลก เราควรภูมิใจในรากเหง้าและวัฒนธรรมของเรา พร้อมกับเปิดรับนวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับสิ่งที่เรามีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น
ในท้ายที่สุด การพัฒนาประเทศไม่ใช่การแข่งขันว่าใครจะมีบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด แต่เป็นการสร้างความเจริญที่ยั่งยืนและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ประเทศไทยมีศักยภาพมากมายที่รอการพัฒนาและต่อยอด เราเพียงแต่ต้องมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามี และใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
8
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา