21 ก.ค. 2024 เวลา 05:43 • ธุรกิจ

ทำไมวงการธุรกิจต้องรู้จักบัฟเฟตต์

ทำไมวงการธุรกิจต้องรู้จักบัฟเฟต์
หากจะพูดถึงนักธุรกิจหรือนักลงทุนระดับโลก คงไม่มีใครไม่รู้จัก วอร์เรน บัฟเฟตต์ แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่รู้ และคิดว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ คือใคร? จะเล่าให้ฟัง เขาคือ นักธุรกิจ และ นักลงทุน ชาวอเมริกัน ปัจจุบันอายุย่างเข้า 94 ปีแล้ว เป็นมหาเศรษฐี อันดับที่ 6 ของโลก และบัฟเฟตต์มีอะไรดี ทำไมนักธุรกิจและนักลงทุนทั่วโลกถึงต่างยอมรับเขา และนำเขาเป็นครูโดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
หากเราชื่นชอบอะไรซักอย่าง แน่นอนว่าต้องมีบุคคลที่เรียกว่าไอดอลเป็นแรงบันดาลใจ อย่างหากเราชื่นชอบในกีฬาฟุตบอล ไอดอลของเราก็อาจจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน โรนัลโด หากชื่นชอบในศิลปะก็คงมี ปิกัสโซ และ ลีโอนาร์โด ดาวินชี เพราะพวกเขาเหล่านี้ ล้วนเป็นสุดยอดคนที่เก่งเอามากๆ ที่ทำให้คนที่หลงไหลในสิ่งนั้นๆมีแรงบันดาลใจ แน่นอนวงการธุรกิจก็เช่นกัน
วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ปี 1930 ที่เมืองโอมาฮา รัฐเนแบรสกา ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยเป็นเพียงลูกชายคนเดียว จาก พี่สาวและน้องสาว โดยบัฟเฟตต์เป็นคนที่สองหรือคนกลาง
แต่บัฟเฟตต์นั้นไม่ได้เกิดมาในคนฐานะยากจน แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก โดยพ่อของเขานั้นทำอาชีพเป็นผู้แทนสภาและโบรกเกอร์ในตลาดหุ้น และมีแม่ เป็นแม่บ้าน ตอนบัฟเฟตต์อายุ 7 ขวบ เขาได้อ่านหนังสือ One Thousand Ways to Make $1000 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่เขาสนใจเรื่องธุรกิจการลงทุน
ที่น่าทึ่งกว่านี้คือ ตอนที่เขาอายุ 11 ขวบ เขาได้ซื้อหุ้นเป็นครั้งแรกโดยนำเงินเก็บจำนวน 120 ดอลลาร์ ซื้อหุ้น Cities Service ร่วมกับพี่สาว และตอนอายุ 13 ก็ทำงานเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ บัฟเฟตต์เรียนจบมหาวิทยาลัยเนแบรสกา ในสาขาบริหารธุรกิจ และจบปริญญาโทในมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สาขาเศรษฐศาสตร์ บัฟเฟตต์เป็นคนที่มีนิสัยชื่นชอบในการศึกษาอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เขานั้นชอบพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
จริงๆบางครั้งเราอาจมองว่าบัฟเฟตต์ชีวิตดูสวยหรูแต่ความจริงเส้นทางกลับไม่สวยหรูอย่างที่คิด กว่าจะสำเร็จบัฟเฟตต์ก็ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ อย่างเช่นตอนซื้อหุ้นตัวแรกกับพี่สาว คือหุ้น Cities Service ในราคาเพียง 38 ดอลลาร์ เพียงเพราะคิดว่าบริษัทนี้ลูกค้าเยอะ แต่ไม่นานหุ้นก็ตกไปที่ 27 ดอลลาร์ และขึ้นเป็น 40 ดอลลาร์ เขาจึงตัดสินใจขายหุ้นทิ้ง แต่หลังจากนั้นไม่นานหุ้นก็พุ่งไปถึง 200 ดอลลาร์ เขาเลยนึกเสียดาย แต่ก็ถือเป็นบทเรียน
หากมองในปัจจุบัน วอร์เรน บัฟเฟตต์ นั้นมีชีวิตที่เรียบง่าย ชอบอ่านหนังสือ ดื่มโค๊ก และกินแมคโดนัลด์ เป็นชีวิตจิตใจ และเป็นคนที่ทำอะไรคิดวิเคราะห์อะไร สิ่งนั้นกลับเป็นเรื่องจริงแทบทุกอย่าง จึงทำให้คนส่วนใหญ่ยึดหลักการลงทุนของบัฟเฟตต์ เป็นแบบอย่างทางความคิด
อย่างบิทคอยน์ ที่บัฟเฟตต์เคยบอกว่า “ผมไม่ลงทุนเด็ดขาด” พอมองบิทคอยน์จริงๆ มันก็เป็นจริงที่ว่าไม่ควรลงทุนเพราะความเสี่ยงสูงมาก และสไตล์การลงทุนของบัฟเฟตต์นั้น เข้าใจง่าย ไม่ค่อยซับซ้อน เหมือนคนอื่นๆ และปัจจุบันประสบความสำเร็จมากที่สุดอันดันต้นๆของโลก จึงทำให้คนสนใจการลงทุนธุรกิจนำเขามาเป็นครู คอยสอนตนเองและเตือนใจอยู่เสมอ
ก็เหมือนกับ นักฟุตบอล ที่ต้องรู้จัก เมสซี่ และ โรนัลโด ที่ถือว่าประสบความสำเร็จในวงการกีฬา ที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ ในความมั่นคงในฝีเท้า ที่ควรยึดเป็นแบบอย่าง ว่าเขาดูแลตัวเองยังไง เราจะได้ปรับใช้ มากกว่านักฟุตบอลที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ไม่มีวินัย หากเราเดินตามรอย เราอาจฟอร์มตกต่ำก็เป็นได้ ในวงการธุรกิจก็เช่นกัน ยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จและอยู่ได้นานมั่นคง คนเรายิ่งเชื่อมั่นที่จะยึดเป็นแบบอย่าง ซึ่งบัฟเฟตต์ก็เป็นหนึ่งในนั้น
โฆษณา