21 ก.ค. เวลา 12:44 • ปรัชญา
เพราะจิต เรามาอาศัยอยู่ในสิ่งที่มีชีวิต สิ่งมีชีวิต จะอยู่ได้ต้องอาศัยอะไร ไม่ว่าต้นไม้ สัตว์ ก็มีเพศพ่อเพศแม่ ตัวผู้ตัวเมีย เกสรตัวผู้ตัวเมื่อ มาผสมกัน จึงจะผลิลูก ออกลูกออกหลาน ไปเติบโตในดินบ้าง เติบโตในในท้องแม่ ตกลูกออกมาเป็นไข่ เป็นตัวเป็นๆ เป็นสัตว์สองเท้า สี่เท้า ที่ไม่มีเท้า ก็งูเงี้ยว .
.เค้าว่า จิตที่จะไปอาศัย ในเรือนกาย เพศผู้เพศแม่ อยู่ร่วมกัน แล้วกิจกรรม สืบต่อดำรงเผ่าพันธุ์ ไปตามลักษณะของรูป ..หมูหมากาไก่ทั้งคน ..ก็ต้องอาศัยพ่อแม่ให้ ที่เค้าว่า ธาตุนะโม ..ก่อเกิด ..มีธาตุทั้งสี่ มาจาก ..จิตที่จะไปเกิด ไปเสริมปรุงแต่งให้ ..ให้กายนั้นมีอาการครบสามสิบสอง หรือไม่ครบ พอออกมาจากท้องแม่ ก็สัมผัส อากาศ สูดดมอากาศเข้าไป..เหมือนเครื่องยนต์ ดึงอากาศเข้าไปเผาไหม้ ..หากลมไม่เข้าไม่ออก เครื่องมันก็ดับ..แตกดับตาย สิ่งที่มาประสมอยู่ร่วมกัน ก็แยกย้ายออกไป ไม่รวมตัวเป็นรูปคน รูปสัตว์ได้
เมื่อชีวิตยังตั้งอยู่ มันกิดอะไรแล้วโต โตแล้วก็แก่ เฒ่าชรา ไปกินอาหารผิดเป็นผิด ก็เจ็บป่วยตาย มีตามหูจมูกลิ้นกายใจ ..เอาไปสัมผัส ไปดู ..ว่าสิ่งนี้สิ่งนั้น จะยึดเอามาเปรียบเทียบประโยชน์ ให้กายสุขสบาย แต่นั้นแหละ .มีกายเป็นมนุษย์ ..เค้าก็ให้ไปทำมาหากิน
....ไปเสาะแสวงหาปัจจัยมา . ทรัพย์สินเงินทอง ลาภยศ มันไม่ได้มีอยู่ในพื้นดินในอากาศ มันต้องใช้กายวาจาใจนี้ ..จิตนั่นอาศัยกาย สั่งกายให้ไปหามา ..ไปหาในเมือง ไปขายแรงงาน ..ทำงานให้ตามที่เค้าต้องการ ..จึงจะได้ปัจจัยนั้นมา หล่อเลี้ยงสังขาร และญาติมิตร ไม่ทำงานทำการ แล้วจะเอาที่ไหนมาใช้
4
ชิ่วิค แต่ละวัน จึงต้องมุ่งมั่นหาทองเงิน หามาเก็บ หรือ ไม่พอเก็บ .ชีวิตที่เกิดมามันจึงเสี่ยงทาย ว่า จะหากินอย่างไร .มัทั้งที่สุจริต ไม่สุจริต .เกขึ้น บ้างก็ไมหาตามต้นไม้ ขูดๆ เอาแป้งมาลผูบไล้ งวดที่จะถึงหวยจะออกอะไร มันเสี่ยงทาย ..ว่าหวนจะออกอะไร ชีวิตมันจึงมีความเสียง เสี่ยงว่าจะดีจะชั่ว .ก็เพราะตัวเราเอง
โฆษณา