Captain America 4 ก็ไม่เลว..แต่Cap4 เปลี่ยนชื่อเป็น Captain America ภาค Brave New World ไปแล้วนะครับ
ฮีโร่รุ่นมุกเก๋าๆส่วนใหญ่ในอดีตแม้ไม่ได้กลับมา และในทางกลับกัน ฟอลคอน(Falcon) ซึ่งเป็นฮีโร่สมทบกลับได้รับอนุญาตให้ขึ้นนำเป็นตัวเอก และเข้ารับในตำแหน่งกัปตันอเมริกา
"Captain America 4" ดูเหมือนจะเป็นภาครีเมค แต่ก็ไม่สามารถหนีจากอันดับหนังทำเงินได้ และน่าเบื่อยิ่งกว่า "The Falcon and the Winter Soldier" ด้วยซ้ำ
หากเป็นเช่นนี้ฮีโร่ระดับสองเช่น ฮัลค์(Hulk) ซ่างชี่(Shang-Chi) และ อัศวินแสงจันทร์ (Moon Knight) ผมว่ามันน่าจะมีมุกรีเมคใหม่ใน Avengers ภาคต่อๆไปแล้วล่ะสิ
เอาล่ะมาที่ "Captain America 4" กันดีกว่านะครับ ฮีโร่เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นตัวละครในละครโทรทัศน์ของอเมริกา
ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว ในความถูกต้องทางการเมือง พวกเขากลับดูว่าไม่(น่าจะ)ได้รับความนิยมเลย
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ "Captain America 4" จะเป็นภาครีเมค เนื่องจาก "Big Five" ของ Avengers เกษียณอายุไปกันเกือบหมดล่ะ
ส่วนฮีโร่ใหม่ ๆ ที่สร้างมา ก็ไม่ได้รับความนิยมซึ่งทำให้ Marvel เสื่อมถอยลง
จำได้ว่าในตอนท้ายของ "Avengers 4" หลังจากที่สตีฟ(Steve )ส่งอัญมณีทั้งหมดกลับมาแล้ว
เขาก็อยู่ในปี 1945 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองและไปเต้นรำกับเพ็กกี้ อย่างมีความสุข
ต่อมา เขามีชีวิตอยู่เกือบๆ 100 ปี
กลายเป็นชายชราผมหงอก มาที่ฐานทัพอเวนเจอร์สอีกครั้ง มอบโล่ให้ฟัลคอน และปล่อยให้ฟัลคอนสืบทอดเสื้อรัดรูปของเขาและกลายเป็นกัปตันอเมริกาคนใหม่
ในความเป็นจริง มีผู้สมัครสองคนสำหรับที่จะสืบทอดเสื้อรัดรูปของเขาเพื่อที่จะเป็น Captain America รุ่นใหม่ ที่ไม่ใช่ แฮร์ริส กับ ทรัมป์ ...นั่นได้แก่ Winter Soldier และ Falcon
อย่างไรก็ตาม วินเทอร์โซลเยอร์ เคยเข้าร่วมองค์กรไฮดร้าในอดีตและได้สังหารพ่อแม่ของไอรอนแมนและคนบริสุทธิ์คนอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถถูกล้างบาปได้
ส่วนชายผิวดำที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เขาจึงต้องเป็นฮีโร่ที่ "ถูกต้อง" อย่างยิ่ง และได้รับเลือกให้เป็นกัปตันอเมริกาไปโดยปริยาย
แม้ว่าเงื่อนไขทั้งหมดจะสมบูรณ์แบบ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่สวยงามนัก เนื่องจากฟอลคอนถูกวางตำแหน่งเป็นตัวประกอบตั้งแต่ต้น
และ ฮีโร่ตัวนี้ค่อนข้างธรรมดา ไม่มีภูมิหลังลึกลับ ไม่มีเสน่ห์ส่วนตัว และลักษณะเฉพาะก็ไม่โดดเด่น
ดังนั้นภาพยนตร์ในรูปแบบอิสระของเขาจึงค่อนข้างน่าเบื่อ
ก่อนอื่นมาวิเคราะห์คลื่นของพวกนักวิจารณ์กันก่อน ฉากแรกของหนังสั้นคือฟอลคอนหยิบโล่ขึ้นมาเข้าร่วมการโจมตีของผู้ก่อการร้าย
ในเวลานั้น ประธานาธิบดีรอสส์กำลังเผชิญกับวิกฤติของการที่จะไม่ได้รับเลือกใหม่ เพื่อที่จะรักษาคะแนนเสียง เขาขอพบฟัลคอนเป็นการพิเศษและต้องการส่งกัปตันอเมริกากลับคืนสู่ตำแหน่งทางการทหาร
แต่จริงๆ แล้วเป็นแผนเด็กๆที่ต้องการใช้ความนิยมของกัปตันอเมริกา เพื่อยกและตรวจตราคะแนนเสียงให้กับตัวเอง ไม่เช่นนั้นเขาคงตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก
นอกจากนี้ เขาต้องการใช้ DNA ของ Steve และเซรั่มของ Hulk เพื่อสร้างเซรั่มรุ่นใหม่ล่าสุด
เพื่อที่เขาจะได้ฝึกฝนสุดยอดทหารจำนวนมาก และสร้างกองทัพขนาดยักษ์ที่ทรงพลัง
เขาได้สกัด DNA ของสตีฟออกมาจากโล่ของกัปตันอเมริกา จากนั้นก็ขอพบดร.แบนเนอร์
โดยขอให้ดร.แบนเนอร์จัดหาซีรั่มและลำดับดีเอ็นเอให้เขา อย่างไรก็ตาม ดร.แบนเนอร์รู้สึกรังเกียจเล็กน้อยและไม่ต้องการช่วยเขา
ดังนั้นเขาจึงขอพบกับเจนนิเฟอร์น้องสาวของดร. แบนเนอร์แทน และต้องการให้ยักษ์ตัวเมียส่งตัวอย่างเลือดให้เขา
หลังจากที่เจนนิเฟอร์รู้ว่าแบนเนอร์ปฏิเสธรอส เธอก็ตัดสินใจช่วยรอสทำแผนฟิวชั่นเซรุ่มให้สำเร็จ
โดยหลักการแล้วในใจและจริตของยักษ์ตัวนี้ที่ชอบท้าทายแบบกบฏอยู่แล้ว แม้ว่าเธอจะช่วยเหลือรอสส์ แต่ก็เป็นการไม่เชื่อฟังดร. แบนเนอร์
และประธานาธิบดีรอสส์ ก็รู้ในจุด(อ่อน)นี่ดี....
เมื่อซุปเปอร์เซรั่มได้รับการพัฒนา รอสส์จึงใช้รีเอเจนต์ทดสอบกับตัวเอง เนื่องจากเซรั่มยังอยู่ในขั้นตอนการทดลอง
ผลลัพธ์จึงส่งผลกระทบร้ายแรงต่อร่างกายของเขา
ร่างกายของรอสส์มีขนาดโตขึ้น ผิวหนังของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และหลอดเลือดของเขาโป่งพอง และในที่สุดเขาก็กลายเป็นเรดฮัลค์ ซึ่งต่อมารู้จักกันในชื่อยักษ์แดง
เจนนิเฟอร์คิดว่าเขากลายเป็นสัตว์ประหลาดและพยายามที่จะเอาชนะเขา ท้ายที่สุด เจนนิเฟอร์เป็นเพียงมนุษย์กลายพันธุ์ธรรมด๊าธรรมดา
และไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
ตอนนี้ อย่าว่าแต่เจนนิเฟอร์ แม้แต่ดร. แบนเนอร์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
เพราะเขาครอบครองพลังวิเศษของทั้งสตีฟและดร.แบนเนอร์ แม้แต่ฟัลคอนและดร.แบนเนอร์จะรวมพลังกันก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ด้วยเข่นเดียวกัน
ในที่สุดฟอลคอนในฐานะกัปตันอเมริกาก็เริ่มอัญเชิญฮีโร่จากอดีตเพื่อพยายามสร้างอเวนเจอร์สขึ้นมาใหม่ ฮาาาา
อย่างไรก็ตาม โดยพื้นฐานแล้วเขาล้มเหลวในการหาฮีโร่ตัวเก่า แต่เขากลับพบกลุ่มฮีโร่หน้าใหม่จากกัปตันมาร์เวลแทน
ซึ่งนั่น รวมถึงซ่างจี้และอัศวินแสงจันทร์ ซาบร้า
ซาบราเป็นซูเปอร์ฮีโร่โดยกำเนิดชาวอิสราเอล ซึ่งเกิดที่คิบบุตซ์ในกรุงเยรูซาเลม และกลายเป็นตำรวจหญิงหลังจากแสดงพลังของเธอให้โลกเห็น
พลังพิเศษของเธอส่วนใหญ่คือความแข็งแกร่งและความอดทน
ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วคล้ายกับฉากของ Captain Marvel และ Superman อย่างไรก็ตาม นี่เป็นฮีโร่ที่ผมไม่เคยรู้จัก ฮาาาา
เนื่องจากเป็นการอัญเชิญที่ฉับพลันเกินไป จึงเป็นการยากที่จะทิ้งความประทับใจไว้ให้กับการพบเห็น เพราะนอกเหนือจาก Shang-Chi แล้ว
ยังมีตัวละครตัวประกอบอีกหนึ่งตัวที่นำมาแบบไม่น่าจะรู้จักมาจัดการกับยักษ์แดงอีกคนนึง
นั่นคือ หัวหน้าใหญ่ที่เคยปรากฏในกลุ่มตัวร้ายด้วย เขาเป็นศัตรูตลอดชีวิตของฮัลค์และเป็นคู่ต่อสู้ที่ฉลาดที่สุด
ครั้งหนึ่งเขาเคยปรากฏตัวใน "The Incredible Hulk" ในชื่อ ดร. สเติร์น หรือที่รู้จักในชื่อ มิสเตอร์บลู ซึ่งเคยติดต่อกับแบนเนอร์
ชายคนนี้ร้ายกาจมากจนเปลี่ยน Blonsky ให้กลายเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจได้
และให้เขาต่อสู้กับ Hulk แต่เขาถูก Blonsky ผลักลงมาและมีรอยฟกช้ำที่ศีรษะ และเลือดของ Hulk ก็หยดลงบนบาดแผลของเขา
ทำให้เขากลายเป็นหัวหน้าใหญ่ในที่สุด
โดยในตอนแรกเขาเป็นคนที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมปลายและมีกริยาที่เชื่องช้ามาก
หลังจากการกลายพันธุ์ของเขา กระโหลกศีรษะเขาเติบโตขึ้น สติปัญญาของเขาเพิ่มขึ้นเป็นพันเท่าเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เขามีความกระหายความรู้ กระแสจิต
และพลังจิตตานุภาพอย่างไม่รู้จักพอ
นอกจากนี้ยังมีแขกรับเชิญจาก Winter Soldier อีกด้วย กล่าวโดยย่อคือมีฮีโร่มากมายปรากฏตัวในครั้งนี้
แต่เป็นความผิดผมเองที่ไม่รู้จัก เฮ้ย! แต่ไม่มีฮีโร่คนไหนที่ได้รับความนิยมมากนัก ซึ่งเรียกง่ายๆว่า
เอาล่ะ...แทนที่จะเรียกมันว่า "Captain America 4 " เมื่อดูๆไป ชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้อาจถูกเรียกว่า "The Incredible Hulk 2" จะดีกว่า ฮาาาาา
โดยพื้นฐานแล้วมันกลับกลายเป็นเรื่องราวของ Hulk น้องสาวของเขา และ Falcon ที่ต้องต่อสู้กับยักษ์แดงและเจ้านาย(หัวโต)ใหญ่ซะมากกว่า
จึงนับได้ว่า ...ตั้งแต่ "Avengers 4"
ภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่มีความน่าสนใจน้อยลงเรื่อยๆ และกลายเป็นผลผลิตของกิจวัตรประจำวันของ Marvel ซะนี่กะไร...
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสาวผมทอง "Captain Marvel 2" ที่เธอเอาแต่ทำเพื่อประโยชน์ของสิ่งที่เรียกว่าความถูกต้อง และ ผลลัพธ์คือการเสียสละขั้นพื้นฐาน ทำให้การสร้างภาพยนตร์ในแนวทางนี้....เริ่มน่าเบื่อขึ้นจริงๆ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
