23 ก.ค. เวลา 05:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ผลการประชุมเศรษฐกิจครั้งสำคัญที่สุดของจีน - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

จีนเพิ่งจัดการประชุมใหญ่ Third Plenum ซึ่งเป็นการประชุมวางแผนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของจีนในรอบ 5 ปี
1
ใครที่เคยหวังว่าจีนจะประกาศนโยบาย Big Bang เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของเอกชนและธุรกิจ ภายใต้บรรยากาศเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา หรือเคยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนทิศทางนโยบายมาเน้นเศรษฐกิจ ธุรกิจ และภาคเอกชนอย่างชัดเจน ก็คงต้องผิดหวัง เพราะครั้งนี้ผลการประชุมไม่ได้มีอะไรใหญ่หรือใหม่อย่างชัดเจนให้เอาไปพาดหัวข่าว
5
แต่ใครที่กลัวว่าจีนจะกลับมาเน้นเรื่องความมั่นคงนำเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น หรือมาตอกย้ำสโลแกน Common Prosperity ของสีจิ้นผิง ในครั้งนี้ก็คงสบายใจว่ารัฐบาลจีนดูอ่อนลง ไม่มีคำว่า Common Prosperity ในคำแถลงผลการประชุม และย้ำเน้นว่าความมั่นคงและการพัฒนาต้องเดินไปควบคู่กัน
พูดอีกอย่างก็คือ รัฐบาลจีนมาทางสายกลาง ซึ่งอาจไม่ถูกใจตลาดเสียทีเดียว เพราะอย่างการประชุม Third Plenum เมื่อ 10 ปี ที่แล้ว รัฐบาลจีนเคยประกาศว่า “กลไกตลาดต้องมีบทบาทตัดสินการจัดสรรทรัพยากร” ซึ่งหลายคนมองเป็นรหัสว่าในยุคนั้นรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับภาคเอกชนเป็นอันดับ 1 ประโยคนี้ไม่ปรากฎในผลการประชุมรอบนี้ แต่อย่างที่บอก คำว่า Common Prosperity ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นรหัสว่ารัฐบาลจะจัดระเบียบธุรกิจ ก็ไม่ปรากฎในผลการประชุมเช่นเดียวกัน
1
จุดเน้นสำคัญของผลการประชุมคือ การขับเคลื่อนการพัฒนาด้านเทคโนโลยี รัฐบาลจีนมีสโลแกนใหม่ ได้แก่ ความทันสมัยแบบจีน (Chinese Modernization) พลังการผลิตใหม่ (New Productive Force) และการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง (High Quality Development) ทั้งหมดนี้เน้นว่าจีนกำลังจัดลำดับความสำคัญเป็นลำดับแรกให้แก่การทุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมใหม
3
อุตสาหกรรมใหม่ที่จีนให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ภาคพลังงานสะอาด ซึ่งจีนเรียกว่ามีของใหม่สามอย่าง (Three New) ได้แก่ รถยนต์ EV แบตเตอรี่ และโซล่าเซลล์ ซึ่งจะค่อยๆ เติบโตมาแทนภาคเศรษฐกิจเก่าคือภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตดั้งเดิม มีการประเมินว่า ภาคพลังงานสะอาดตอนนี้ขึ้นมามีสัดส่วนถึงร้อยละ 8 ของ GDP จีนแล้
หลายคนที่กังวลเรื่องเศรษฐกิจจีน แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้มีมาตรการใหญ่อะไรออกมาเพื่อเรียกหรือฟื้นความเชื่อมั่น แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่า การประชุม Third Plenum เป็นการประชุมเชิงยุทธศาสตร์แผนระยะยาว ไม่ใช่การประชุมที่จะมาประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นหรือมาตรการแก้ปัญหาเฉพาะหน้
1
ที่สำคัญ รัฐบาลจีนในคำแถลงได้กล่าวยอมรับชัดเจนถึงปัญหาความท้าทายของเศรษฐกิจขาลงในปัจจุบัน ซึ่งสะท้อนว่ารัฐบาลจีนเข้าใจสภาพความซบเซาของเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของภาคธุรกิจ นอกจากนั้น ในคำแถลงยังมีประโยคเรียกความเชื่อมั่นที่สำคัญว่า จีนจะยืนหยัดอย่างแน่วแน่ที่จะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและสังคมที่ตั้งไว้ในปีนี้ (หมายถึงอัตราการเติบโตที่ร้อยละ 5)
1
ไตรมาสที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของจีนทำได้ต่ำกว่าเป้า ทำให้หลายฝ่ายมองว่าหากรัฐบาลจีนยังยืนหยัดที่จะทำให้อัตราการเติบโตเฉลี่ยของปีนี้ออกมาที่ร้อยละ 5 ก็แปลว่ารัฐบาลจีนจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและพลังลมปราณภายในออกมาเสริมอีกอย่างแน่นอน
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจจากผลการประชุมในครั้งนี้ คือ รัฐบาลจีนได้กำหนดปีเป้าหมายเพิ่มเติมคือ ปี ค.ศ. 2029 โดยจะเป็นปีที่จีนผลักดันการปฏิรูปสำเร็จกว่า 300 เรื่อง ที่ได้ประกาศในการประชุมครั้งนี้
เป้าหมายนี้เพิ่มเติมขึ้นมาจากเป้าหมายปี ค.ศ. 2035 ที่จีนจะบรรลุความทันสมัยแบบจีน และเป้าหมายปี ค.ศ. 2050 ที่จีนจะบรรลุการฟื้นคืนความเจริญรุ่งเรืองของประชาชาติจีน ซึ่งประกาศมานานแล้วก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า การตั้งเป้าหมายเพิ่มคือปี ค.ศ. 2029 อาจสะท้อนว่าสีจิ้นผิงต้องการต่ออายุวาระที่ 4 เพื่อผลักดันการปฏิรูปตามแนวของเขาให้สำเร็จ (วาระที่ 3 ของเขาจะหมดลงในปี ค.ศ. 2027)
แผนการปฏิรูปที่ออกมามากกว่า 300 เรื่อง ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นหัวข้อ เรายังไม่เห็นรายละเอียดที่ชัดเจน มีตั้งแต่เรื่องการส่งเสริมภาคเอกชน และคำมั่นว่าจะเปิดภาคเศรษฐกิจเพื่อนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการปฏิรูปในเรื่องสังคม เช่น เรื่องการจ้างงาน เรื่องสวัสดิการสังคม เรื่องระบบทะเบียนครัวเรือน และการปฏิรูประบบราชการ เช่น การปฏิรูประบบภาษี ระบบงบประมาณของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น
หากดูแล้วเป็นการปฏิรูปที่มีขอบเขตกว้างขวางและมีมิติเน้นเรื่องคุณภาพชีวิตและสังคมมากขึ้นตามแนวของสีจิ้นผิง แตกต่างจากการปฏิรูปในยุคอดีตที่เน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจ (เปลี่ยนจากรัฐสู่เอกชนมากขึ้น) เป็นหลัก มาตอนนี้ดูเหมือนหลายเรื่องจะเป็นแนวที่รัฐเข้าไปกำกับควบคุมจัดระเบียบมากขึ้น
3
การประชุมรอบนี้ในทางสัญลักษณ์ทางการเมืองจึงชัดเจนว่าสีจิ้นผิงยังคุมอำนาจและนโยบายอยู่อย่างเบ็ดเสร็จ แม้เขาจะไม่ได้แรงขึ้นและได้ลดกระแสการจัดระเบียบภาคเอกชนลง แต่เขายังคงเดินหน้ายึดมั่นแนวทางการเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของจีนและย้ำเน้นให้ทุกคนอดทนในช่วงเปลี่ยนผ่านต่อไป
1
โฆษณา