27 ก.ค. เวลา 04:00 • สุขภาพ

มาว่ากันด้วยเรื่องสายตาเด็ก

หลังจากพาลูกๆไปตรวจตาประจำปี ผมรู้สึกหดหู่มากเมื่อรับทราบจากหมอตาเด็กว่ามีเด็กเล็กหลายเคสที่มีค่าสายตาผิดปกติสูงมาก แถมยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นมากเป็นลำดับ และหลายเคสก็ถึงขั้นตาบอดทั้งที่อายุยังน้อย
ฟังแล้วรู้สึกแย่แต่ทำอะไรไม่ได้ รู้สึกแบบบรรยายไม่ถูกจริงๆ
อายุแค่นี้เองต้องกลายมาเป็นแบบนี้
โคตรเห็นใจเด็กจริงๆ
สมัยยังละอ่อนน้อยผมเห็นคนใส่แว่นไม่มากนัก เห็นแต่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่จะใส่เพราะสายตายาว
พอโตขึ้นจึงรับรู้ว่าอายุน้อยก็ใส่แว่นได้เพราะสายตาสั้น แต่จำนวนคนที่ใส่แว่นก็ไม่มาก
ปัจจุบันมองคนรุ่นเดียวกันบางคนก็ยังไม่ได้ใส่แว่นสายตาแบบเป็นกิจจะลักษณะ มีแต่เวลาอ่านหนังสือหรือดูมือถือค่อยคว้าแว่นขึ้นมาเป็นระวิง
และถ้ามองย้อนไปถึงผู้สูงวัยหลายท่านก็ทำแบบนี้เหมือนกัน
ผิดกันกับเมื่อมองกลับไปหาผู้อาวุโสน้อยกับเด็กๆก็ให้เห็นว่าสวมแว่นสายตากันมาก ไม่งั้นถามไปถามมาก็ได้ความว่าใส่คอนแท็คเลนส์
ไหนใครว่าเด็กรุ่นใหม่สุขภาพดีขึ้นไง เอาแค่เรื่องสายตาก็พอมองอะไรได้ลางๆ
กลับมาว่ากันต่อที่ปัญหาสายตาเด็กครับ
เท่าที่ค้นเจอ ปัญหาสายตาผิดปกติในเด็กมีอยู่หลายอย่างตั้งแต่สายตาสั้น สายตายาว สายตาเข หนังตาตก สายตาขี้เกียจ จนไปถึงมะเร็งที่ตา
ส่วนสาเหตุก็เป็นเรื่องทางกรรมพันธุ์ การคลอดก่อนกำหนด หรือการใช้สายตาผิดปกติ
วิธีพิจารณาว่าเด็กๆมีอาการผิดปกติทางสายตาหรือไม่ต้องอาศัยการสังเกตเป็นหลักเพราะเด็กอาจตอบพ่อแม่ไม่ได้
การสังเกตก็เช่นเด็กหยีตาบ่อยๆหรือเปล่า ต้องเข้าไปจ้องดูอะไรใกล้ๆเกินกว่าปกติหรือไม่ มีอาการปวดหัวปวดตาด้วยหรือเปล่า หรือว่าเด็กซุ่มซ่ามวิ่งชนอะไรจนเกินปกติหรือไม่
อาการเหล่านี้ถ้าพ่อแม่สังเกตพบว่าเจอบ่อยๆให้สงสัยไว้ก่อนครับว่าสายตาอาจมีปัญหา ควรรีบไปพบหมอได้แล้ว
อย่างลูกๆผม เราไม่ได้สังเกตตลอดเวลาแต่บางทีมองแล้ว เอ๊ะ ทำไมถึงมีพฤติกรรมแบบนั้นล่ะ เช่นกระพริบตาบ่อยเกิน ขยี้ตาบ่อย หยีตาเวลาจ้องทีวี
บลา บลา บลา
สังเกตแล้วก็รีบพาหาหมอแต่เนิ่นๆครับ
หมอมักจะบอกว่าควรมาตรวจสม่ำเสมอก่อน8ขวบเพื่อที่ถ้ามีสิ่งผิดปกติจะได้แก้ไขได้ ส่วนเด็กโตและอายุ18ปีขึ้นไปสายตาจะคงที่แล้ว แก้ไขยาก
ส่วนสาเหตุอีกอย่างที่ผมเองอยากฟันธงหนักๆน่าจะเรื่องการดูเลี้ยงลูกด้วยจอมือถือหรือแท็บเล็ทนี่ล่ะครับ พาเอาสายตาผิดปกติกันมาเยอะ
เท่าอ่านเจอมีการระบุไว้ว่าปัจจุบันเด็กที่มีอายุน้อยกว่า15ปีมีปัญหาสายตาสั้นมากขึ้น และนับวันก็จะมีแต่อายุน้อยลงไปและสั้นเร็วขึ้นกว่าเดิม สาเหตุที่พบมักจะมาจากการปล่อยให้เด็กใช้เวลาดูหน้าจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ทนานกว่า30นาทีหรือ1ชม.บ่อยๆ
นักทัศนมาตรท่านหนึ่งให้ความเห็นว่าปัญหาเรื่องสายตาในเด็กตอนนี้เป็นกันทั่วโลก ปัจจัยคือการดูพวกมือถือ แท็บเล็ท หรือจอคอมพ์ติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่มีการควบคุม ทำให้สายตาเกิดการกระตุ้นมากเกินไปจนเป็นปัญหาอีกทั้งปัจจุบันนี้ปัญหาเกิดเร็วและมากขึ้นกว่าเดิมตามอัตราการเจริญเติบโตของเด็ก
เหตุผลที่เป็นอย่างนั้นเพราะตาและระบบการมองเห็นของเด็กแต่ละคนอ่อนไหวและยังเปลี่ยนแปลงได้อยู่จึงไม่ควรมองแสงที่สว่างเกินไป แสงสีฟ้าจากจอสามารถทำลายจอประสาทตาเด็กและนำไปสู่โรคทางสายตาอื่นๆและจอประสาทตาเสื่อมได้
นอกจากนี้เคยได้อ่านพบว่ามีความเห็นจากนักวิชาการหลายท่านบอกว่าเด็กเล็กอายุต่ำกว่า3ปีไม่ควรดูจอสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ทครับ นอกจากจะทำให้เกิดอาการทางสายตาแล้วยังพบว่าทำให้พฤติกรรมของเด็กผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นออติสติกเทียมหรือก้าวร้าวกว่าปกติอีกด้วย
อะจิงดิ?
จริงครับ
อันนี้ประสบการณ์จริงจากญาติแฟน เขาบอกว่าจริงแท้
เขาเลี้ยงลูกไปพร้อมให้มือถือไปเล่นเพราะต้องทำงานและต้องการให้เด็กอยู่นิ่งนานหน่อยแต่ไปดันทำให้เด็กมีปัญหาก้าวร้าวและมีความผิดปกติทางการพูดจนต้องพึ่งหมอเพื่อรักษา การรักษากินเวลามากและต้องมีความอดทนสูงแก้ไขยากด้วย แต่ยังดีที่พอแก้ไขได้ทันด้วยการงดจอแล้วให้ไปทำกิจกรรมต่างๆแทน อาการจึงดีขึ้นเป็นลำดับ
เขาสำทับมาด้วยว่าอย่าเลี้ยงเด็กด้วยจอเป็นอันขาด ห้ามขาดเลย
ผมเพิ่งเริ่มมาใช้สมาร์ทโฟนเต็มที่น่าจะราว10กว่าปีนี้เองเพราะต้องส่งรูปสินค้าให้ลูกค้าดู ติดต่อธุระมากกว่าจะใช้เพื่อความสนุกเหมือนตอนนี้
เริ่มใช้สมาร์ทโฟนได้ไม่นานผมก็รู้สึกว่าสายตาไม่เหมือนเดิม พอไปหาหมอก็พบว่าสายตายาวตามวัยไม่ได้ผิดปกติเลยไปตัดแว่น
ถึงจะตัดแว่นไม่บ่อยแต่พอรู้ได้ว่าค่าสายตาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะไปวัดค่าสายตาที่ร้านแว่นและอีกอย่างคือเปรียบเทียบกับพี่น้องผมเอง
เจ๊เขาใช้มือถือน้อยกว่าผมทั้งอายุก็มากกว่ายังไม่สวมแว่นสายตาอะไรเลย อย่างเก่งก็แว่นที่เขาว่าเป็นแว่นบลูบล็อคก็เท่านั้น
สายตามึงยังดี กูนี่ใส่แว่นมาตั้งนานแล้ว
กูก็ไม่ได้ดีมาก แค่ยังไหวอยู่
เจ๊ไม่ได้ใส่แว่นในขณะที่หลานๆใส่แว่นสายตากันแทบทุกคน
เด็กรุ่นใหม่...
หลานกูก็ใส่แว่น หมอจับใส่บอกว่าช่วยเรื่องไม่ให้ค่าสายตาเปลี่ยนเร็วเกิน เพื่อนผมบอกมา
ผมเข้าใจครับว่าการใส่แว่นสายตามันก็มีประโยชน์ไม่น้อย เพียงแต่ว่าทำไมถึงต้องใส่กันล่ะ
ผมคิดว่าค่าสายตาที่ผิดปกติไปนี่ล่ะที่เป็นเหตุหลักทำให้ต้องใส่แว่น
แล้วสาเหตุที่ทำให้ค่าสายตาเปลี่ยนล่ะ
กรรมพันธุ์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ก็เกิดความผิดปกติของแต่ละบุคคล
แต่ผมขออคติลำเอียงครับว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตคือหลักใหญ่ที่สุด
และไอ้ที่ว่ามาคือการดูจอสมาร์ทโฟนกับแท็บเล็ทนี่ล่ะที่เป็นสาเหตุหลัก
ไม่น่าเชื่อจริงๆ
ร่ายกันมาถึงตรงนี้หลายคนคงไม่ค่อยเห็นด้วยกับผมสักเท่าไหร่
ใช้สมาร์ทโฟนมาตั้งนานก็ไม่เป็นไร เด็กๆดูก็นิ่งดี สายตาก็ปกติ
ครับ คุณคือผู้ที่อยู่ในกลุ่มโชคดีแคล้วคลาดจากปัญหาต่างๆไปได้อย่างปลอดภัย ดีใจด้วยจริงๆ
แต่อีกหลายคนเขาไม่ได้โชคดีเหมือนคุณ
ในฐานะมนุษย์แว่นเหมือนกัน ผมมีปัญหาสายตายาวตามวัย มีปัญหาจอประสาทตาที่ตามประคองอาการอยู่ ทุกวันนี้พยายามลดละมือถือลงไปบ้าง หันมาอ่านหนังสือแทน ป้องกันสายตาเท่าที่จะทำได้
กลัวปัญหาสายตามันจะรุนแรงไปกว่านี้
ในฐานะพ่อคน ผมไม่อยากให้มีปัญหาทั้งทางด้านสายตาและปัญหาเรื่องพฤติกรรมที่ผิดปกติกับเด็กๆ เขายังอายุยังน้อย ยังต้องอยู่ไปอีกนาน สายตากับจิตใจที่มีปัญหามันจะอยู่ไปกับเขาตลอดชีวิต
ชีวิตของเขาเอง ไม่ใช่ชีวิตของพ่อแม่
เราไม่ได้อยู่ค้ำฟ้าครับ
แม้ว่าปัจจุบันเราสามารถแก้ไขปัญหาด้านพฤติกรรมผิดปกติต่างๆจากการใช้มือถือได้ในระดับหนึ่ง อีกทั้งยังพยายามหาทางทำให้คนที่ตาบอดกลับมามองเห็นได้อีกครั้งโดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ แต่มันยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเตาะแตะ กว่าจะได้ผลคงอีกนาน
หวังทางนี้ใช้เวลานานเกิน
สู้มาปรับการใช้ชีวิตกับการดูจอน่าจะดีกว่ากระมัง
เพื่ออนาคตที่ดีของพวกเด็กๆ
เพื่อตัวเขา
ไม่ใช่เพื่อตัวเราเองครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา