การให้สัมภาษณ์ของนางแบบ ที่อาจถือว่าดีที่สุดครั้งหนึ่งของเมืองไทย EP.3 ที่เป็น EP.สุดท้าย

ใน EP.นี้ก็คงจะเป็น EP. ลำดับสุดท้าย ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวความคิดที่ดีมากของนางแบบสาวสวย มารยาทดี และมีเสน่ห์
สนทนาเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นเนื้อหาดีดี บางตอนอาจถือว่าเข้มข้นและหนักทีเดียว แต่กลับฟังได้แบบเบาๆสบายๆ
น้อยครั้งนักที่เราจะได้ยินเนื้อหาทำนองนี้ จากปากของนางแบบหรือนางงาม
ในการสัมภาษณ์ ที่มีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ได้มาถึงตอนที่มิเรียมเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา จากความคิดที่อยากช่วยเหลือผู้คน แต่ไม่อยากเป็นแพทย์หรือพยาบาล
จึงหันมาสนใจทางด้านจิตวิทยาเรียน Music Therapy และ Post-traumatic Therapy ซึ่งช่วยเยียวยาคนติดยาเสพติด ช่วยทหารผ่านศึกให้ปรับชีวิตกลับมาเป็นคนปกติได้
เป็นโค้ชชีวิต หรือ Life Coach , Positive Solution Coach เพราะเห็นว่าเป็นหนทางที่ช่วยเหลือผู้คนให้ช่วยเหลือตัวเองได้ เราเป็นเพียงผู้ทราบและรู้จักเครื่องมือ จึงแนะนำให้ผู้ที่มารับคำปรึกษาได้นำเครื่องมือนั้นไปใช้
เธอกล่าวว่า เป็นเรื่องดีมากๆที่เพียงแค่นั่งคุยกัน แนะนำอย่างเป็นระบบ ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตเขาได้
เห็นความสุขที่เขาเกิดขึ้นเมื่อผู้มารับคำปรึกษา เข้าใจและรักตนเอง ก็จะไม่ต้องย้อนกลับมาพึ่งเราอีก แม้ในอนาคตเกิดปัญหาขึ้น ก็เอาเครื่องมือที่เราแนะนำนั้น เอาไปใช้เอง ซึ่งแตกต่างกับการไปพบจิตแพทย์ ที่อาจจะต้องย้อนกลับมาพบอยู่เป็นประจำ
หลังจากนั้นก็ชวนคุยกันเกี่ยวเรื่องแก่นแท้ของความจริง เช่น คำว่าอนิจจัง พอถึงจุดนี้ก็เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอ พร้อมกับคำพูดน่ารักว่า สนุกเลย ที่จะคุยกันเรื่องนี้
เธอเล่าว่า เธอมีความเข้าใจเรื่องอนิจจังของศาสนาพุทธพอสมควร เพราะคุณพ่อเคยบวชเป็นพระ ต่อมาก็มาเชื่อในพระเจ้า ก็เลยสอนลูกให้เข้าใจเนื้อหาของศาสนาพุทธพร้อมกับศาสนาคริสต์
เธอคิดว่า ศาสนาเป็นภาษาภาษาหนึ่ง ที่พยายามจะอธิบายเรื่องราวต่างๆให้มนุษย์เข้าใจได้ เข้าถึงได้ เป็นช่องทาง เพราะไม่มีช่องทางอื่นที่จะอธิบายได้แล้ว อาจจะถือว่าเป็นจิ๊กซอว์ที่มาเติมเต็ม
ส่วนเรื่องวิปัสสนา ถามว่าคุณเป็นคริสต์มาเกี่ยวกับวิปัสสนาถือว่าข้ามเส้นหรือไม่
เธอตอบว่าไม่ข้ามเส้นหรอก เพราะตนเองไม่ใช่คริสต์ที่เข้มอะไรมากมาย
การมีสมาธิ ทำให้เราอยู่กับปัจจุบันและสงบ แต่ความสงบนั้น ก็อาจจถหายไป แล้วกลับมาใหม่ ที่เรียกว่าอนิจจัง
แต่วิปัสสนานั้น จะทำให้เห็นความจริง และความจริงนั้นเป็นสากล เป็นธรรมชาติ ศาสนาใดที่เข้าใจก็สามารถเข้าถึงได้ทั้งสิ้น
คุณแม่มีส่วนช่วยอย่างมาก เพราะให้อิสระในการคิด ไม่ได้ห้าม แต่มักจะแนะนำอยู่เสมอ เธอเติบโตทางความคิดไปด้วยกันกับคุณพ่อคุณแม่ ทำให้เป็นคนที่มีพลังชีวิต
การศรัทธาในพระเจ้า ทำให้สามารถผ่านเรื่องต่างๆมาได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องมืดมืด ท่อน้ำที่ริมคลอง โดนแกล้งอยู่ในบ้านร้าง
และอย่างที่กล่าวแล้ว มิเรียมไม่ได้มองพระเจ้าในแง่ของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ แต่เป็นเรื่องของหลักธรรมชาติ หลักความเข้าใจ ที่ทำให้ตนเองมีความมั่นใจ
ของเดิมไม่อยากมีชื่อเสียง ไม่อยากโด่งดัง ไม่อยากร่ำรวยหรูหรา
แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนความคิดไปจากเดิมมากพอสมควร เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะทำสิ่งดีดีให้เกิดผลในวงกว้างที่สุด
จึงทำให้อยากได้รับรางวัล อยากมีชื่อเสียง เพื่อที่จะทำให้คนหรือสังคมหันมาฟังเราบ้าง
ในเรื่องสุขภาพจิตถือว่าสำคัญมาก ผู้นำของประเทศควรจะทำให้ประชาชนมีสุขภาพดีทั้งกายและจิต
คุณพ่อคุณแม่เคยบอกว่า ไม่ได้บังเอิญนะลูก ที่เกิดมาแบบนี้ มีรูปร่างแบบนี้
ควรใช้ชื่อเสียง ทำสิ่งที่ดีให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ
ดังนั้นจึงกำหนดเป้าหมายใหม่ว่า
ยอมที่จะดัง ยอมที่จะมีชื่อเสียงหรือเป็นคนเก่ง ทั้งนี้ก็เพื่อให้สังคมรับฟังสิ่งที่เธอพูด แล้วจะสามารถช่วยผู้คนได้เป็นจำนวนมาก
คิดว่าการซ่อนความเก่งและพรสวรรค์เอาไว้ ไม่ได้ช่วยใคร อาจถือว่าเป็นการเห็นแก่ตัวด้วยซ้ำ และคิดว่าที่ผ่านมา ก็เห็นแก่ตัวมานาน
ในตอนท้ายเธอได้ฝากหนังสือสองเล่ม เพลง เว็บไซต์ ตลอดจึงมี Courseให้คำปรึกษาด้วย
เป็นบทสรุปการสัมภาษณ์ของนางแบบ ที่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะดีที่สุดบทหนึ่งของประเทศไทยเลยทีเดียว
การได้ถ่ายทอดการสัมภาษณ์ครั้งนี้น่าจะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านบ้างไม่มากก็น้อย
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามชมคลิปเต็มได้ที่แปะไว้ข้างท้ายครับ
โฆษณา