KKP Q2/67 เป็นยังไงบ้าง มาอ่านกัน
KKP มีปล่อยสินเชื่อ ส่วนใหญ่เป็นพวกเช่าซื้อรถยนต์ และมีธุรกิจ บลจ. และ บล.
ภาวะเศรษฐกิจ ตลาดเงิน และตลาดทุน
การเบิกจ่ายภาครัฐ การส่งออก การท่องเที่ยวฟื้นตัว แต่การบริโภคอ่อนแอโดยเฉพาะการบริโภคสินค้าคงทนคาดว่าจะมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากรายได้แรงงานที่ฟื้นนตัวได้ช้า หนี้ครัวเรือนที่สูง อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทาง KKP คาดวา กนง. จะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 68 เมื่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีแนวโน้มอ่อนตัวลงชัดเจนขึ้น
ภาวะตลาดรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 67 หดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากแนวโน้มรายได้และกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง
ตลาดทุน SET index ลดลงต่อเนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ช้า ศักยภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มลดลง และนโยบายเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
KKP กำไรสุทธิ 769 ลบ. ลดลง 45.4% เทียบกับไตรมาส 2/66 จากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธที่ปรับลดลง 9.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส เดียวกันของปีก่อน รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปรับลดลง 18.8% จากการลดลงของรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อตามการชะลอตัวของสินเชื่อปล่อยใหม่ ประกอบกับภาวะทางด้านตลาดทุนที่ยังคงไม่เอื้ออำนวย
ค่าใช้จ่ายในดำเนินงาน 3,809 ลบ. อยู่ในระดับทรงตัวจาก Q2/66 ผลขาดทุนจากการขายรถยึด 1,073 ลบ. ใน Q2/67 ปรับลดลง 25.6% เมื่อเทียบกับ Q1/67 ตามปริมาณการขายรถยึดที่ทยอยปรับตัวลดลง
NPL (non-performing loans) เงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ หรือ หนี้เสีย โดย % NPLs ต่อสินเชื่อ ซึ่งคิดจาก NPL มาเทียบกับเงินให้สินเชื่อโดยรวม ออกมาเป็น % ของ KKP Q2/67 4% เพิ่มขึ้นจากเดิม, Q1/67 3.8%, Q2/66 3.6%
และอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนจากการด้อยค่าต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage ratio) ที่ 136.5%
ครึ่งแรกของปี 67 ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและรายการขาดทุนจากการขายรถยึด (credit cost) คิดเป็นอัตรา 2.48% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ลดลงจาก 2.7% ในช่วงครึ่งแรกของปี 66
NIM ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) บอกถึงความสามารถในการหารายได้ของธนาคารจากส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่ายทั้งหมด ไว้ใช้วัดผลกำไรเบื้องต้นของกลุ่มธนาคาร คิดมาจาก
(รายได้ดอกเบี้ยรับ – ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย) / สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ย
NIM Q2/67 ของ KKP 4.8% ลดลงจากเดิม, Q1/67 4.9%, Q2/66 5.3%
ROE ROE (Return on Equity) อัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น
คิดจาก กำไรสุทธิ/ ส่วนผู้ถือหุ้น
ROE เป็นการบอกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ทำผลตอบแทนกลับมาได้เท่าไหร่ จากเงินของผู้ถือหุ้นที่ได้ลงไป ยิ่งสูง ยิ่งดี
ROE มีความสัมพันธ์กับ P/BV ถ้า ROE ลดลงการประเมินมูลค่าก็ลดลง
ROE ของ KKP Q2/67 ลดลง มาอยู่ที่ 4.8%, Q1/67 11%, Q2/66 8.7%
มีการอ่านงบการเงิน และข้อมูลหุ้นจริง ที่เรียบเรียง รวมรวบ เพิ่มเติมรายละเอียดอีกหลายเรื่อง ใน eBook "ส่องหุ้นด้วยงบการเงิน" สั่งซื้อกันได้จาก MEB และ OOKBEE
คอร์สออนไลน์ I-INVESTOR
ที่จะได้เรียนรู้ตั้งแต่การเลือกหุ้น
การอ่านงบการเงิน รวมไปถึงการประเมินมูลค่าหุ้น เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง
#หมอยุ่งอยากมีเวลา #หุ้น #งบการเงิน #KKP
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
