TESLA รายงานผลกำไรไตรมาส 2 ต่ำกว่าคาด ร่วงกว่า 45% ยอดส่งมอบรถยนต์ลดลงสองไตรมาสติดต่อกัน
Tesla รายงานผลกำไรประจำไตรมาสที่ 2 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ จากยอดขายรถยนต์ลดลงเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน ราคาหุ้นร่วงลงกว่า 2% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ
กำไรต่อหุ้น 52 เซนต์ เทียบกับ 62 เซนต์ตามที่คาดการณ์ โดยอิงจากข้อมูลประมาณการจาก LSEG รายได: 25.50 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับ 24.77 พันล้านดอลลาร์ตามที่คาดการณ์โดย LSEG
Tesla ระบุว่ารายได้เพิ่มขึ้น 2% จาก 24.93 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า แต่ยอดขายรถยนต์ลดลง 7% เหลือ 19.90 พันล้านดอลลาร์ จาก 21.27 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิของTesla ลดลง 45% เหลือ 1.48 พันล้านดอลลาร์ หรือ 42 เซนต์ต่อหุ้น ในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับ 2.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 78 เซนต์ต่อหุ้น ในปีก่อน
ค่าใช้จ่ายด้านทุนในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็น 2.27 พันล้านดอลลาร์ บริษัทระบุว่า บริษัทได้ใช้เงิน 600 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์
หลังจากช่วงครึ่งปีแรกที่ไม่ราบรื่น Tesla ต้องลดพนักงานลงกว่า 10% บริษัทกลับมียอดส่งมอบรถยนต์ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 2 ช่วงต้นเดือนนี้ อย่างไรก็ตาม ยอดส่งมอบยังคงลดลงจากปีก่อนเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน
Tesla ยังคงเป็นผู้นำด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา แต่กำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรถยนต์ซีดานและ SUV รุ่นเก่าของบริษัท และผลกระทบจากการแสดงความคิดเห็นที่รุนแรงและก่อให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองของ อีลอน มัสก์
ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา Tesla ได้เสนอส่วนลดและโปรโมชันอื่น ๆ รวมถึงข้อเสนอทางการเงินที่ได้รับการอุดหนุนในจีนและสหรัฐอเมริกา เพื่อกระตุ้นยอดขาย ข้อเสนอเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท โดยอัตรากำไรสุทธิหลังหักกลบค่าใช้จ่าย (adjusted earnings margin) ลดลงเหลือ 14.4% จาก 18.7% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023
ผู้ผลิตรถยนต์คู่แข่งของ Tesla มีความเติบโตยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่เต็มรูปแบบในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2024 ในขณะที่ยอดขายของTesla ลดลง 9.6% ในช่วงเวลานั้น
รายได้ในธุรกิจผลิตและจัดเก็บพลังงานของ Tesla ซึ่งจำหน่ายและติดตั้งแบตเตอรี่สำรองขนาดใหญ่สำหรับใช้งานในที่อยู่อาศัย เชิงพาณิชย์ และสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นมูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์ บริษัทระบุว่า Megapack และ Powerwall ของบริษัทประสบความสำเร็จในการติดตั้งสูงสุดในช่วงเวลานี้
ในช่วงไตรมาสที่ 2 Tesla ได้เพิ่มการผลิต Cybertruck รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท ซึ่งเป็นรถบรรทุกแบบเหลี่ยมมุม ผลิตจากเหล็กกล้า ขณะนี้บริษัทระบุว่ารถรุ่นนี้อยู่ในเส้นทางที่จะบรรลุผลกำไรภายในสิ้นปี
มัสก์ สัญญาตั้งแต่ประมาณปี 2016 ว่าเทสลาจะเปลี่ยนรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมให้เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ บริษัทระบุว่าจะ "เปิดตัว" รถแท็กซี่ไร้คนขับรุ่นใหม่ในปลายปีนี้
ในปี 2021 มัสก์ ยังเริ่มสัญญาว่า Tesla จะพัฒนาและผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ที่สามารถทำงานในโรงงานและอาจทำหน้าที่อื่น ๆ ได้ อีกทั้ง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มัสก์ โพสต์ข้อความบน X ว่า เขาคาดหวังว่าเทสลาจะมีหุ่นยนต์เหล่านี้ทำงานในโรงงานของบริษัทในปีหน้า และจะมีหุ่นยนต์เพิ่มเติมสำหรับให้บริษัทอื่น ๆ นำไปใช้งานในปี 2026
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
