24 ก.ค. เวลา 06:53 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

เฉินหลง : นักแสดงผู้ทลายกำแพงฮอลลีวูดและเปลี่ยนโลกภาพยนตร์

เฉินหลง หรือ แจ็กกี้ ชาน (Jackie Chan) คือชื่อที่คุ้นเคยของคนทั่วโลกในฐานะนักแสดง ผู้กำกับ นักเขียนบท และผู้ออกแบบฉากต่อสู้ผู้มากความสามารถ ด้วยสไตล์บู๊ตลกที่เป็นเอกลักษณ์ ผลงานภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดระทึก และอารมณ์ขันอันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการภาพยนตร์โลก
เฉินหลง เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2497 ที่เกาะฮ่องกง มีชื่อจริงว่า เฉิน กั่งเซิง (Chan Kong-sang) ซึ่งแปลว่า "เกิดในฮ่องกง" วัยเด็กของเขาต้องเผชิญกับความยากลำบาก ครอบครัวของเขาเคยยากจนถึงขั้นเกือบจะขายเขาให้กับหมอชาวอังกฤษ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ
เมื่ออายุได้ 7 ขวบ เฉินหลงถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนงิ้วจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และการแสดงผาดโผนต่างๆ ที่นั่น เขาได้พบกับเพื่อนร่วมสาบานอย่าง หงจินเป่า (Sammo Hung) และ หยวนเปียว (Yuen Biao) ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังเช่นกัน
หลังจากจบการศึกษา เฉินหลงเริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงด้วยการเป็นสตันท์แมนในภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึงภาพยนตร์ของบรูซ ลี (Bruce Lee) อย่าง "Fist of Fury" (ไอ้หนุ่มซินตึ้งล้างแค้น) และ "Enter the Dragon" (ไอ้หนุ่มพันธุ์มังกร)
ในช่วงทศวรรษที่ 1970 เฉินหลงเริ่มมีผลงานการแสดงเป็นของตัวเอง แต่ภาพยนตร์ของเขายังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2521 เขาได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง "Snake in the Eagle's Shadow" (ไอ้หนุ่มหมัดเมา) ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ทำให้เฉินหลงกลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในวงกว้าง
ต่อมา เฉินหลงได้สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอีกหลายเรื่อง เช่น "Drunken Master" (ไอ้หนุ่มหมัดเมา) ภาค 2, "Police Story" (วิ่งสู้ฟัด) และ "Armour of God" (ใหญ่สั่งมาเกิด) ภาพยนตร์เหล่านี้ล้วนมีสไตล์บู๊ตลกที่เป็นเอกลักษณ์ของเฉินหลง ซึ่งผสมผสานศิลปะการต่อสู้แบบดั้งเดิมของจีนกับอารมณ์ขันแบบเสียดสี
ในช่วงทศวรรษที่ 1990 เฉินหลงเริ่มมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา จากผลงานภาพยนตร์อย่าง "Rumble in the Bronx" (ใหญ่ฟัดโลก) และ "Rush Hour" ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักแสดงเอเชียที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฮอลลีวูด
การเปิดประตูสู่ฮอลลีวูดสำหรับนักแสดงเอเชีย
ก่อนที่เฉินหลงจะประสบความสำเร็จในฮอลลีวูด นักแสดงเอเชียมักได้รับบทบาทที่จำกัดและมักเป็นบทบาทที่อิงกับภาพลักษณ์แบบแผนของชาวเอเชีย แต่เฉินหลงได้เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ดังกล่าวด้วยการนำเสนอตัวละครที่แข็งแกร่ง ฉลาด และมีเสน่ห์
ความสำเร็จของเขาได้เปิดประตูสู่ฮอลลีวูดสำหรับนักแสดงเอเชียรุ่นหลัง เช่น เจ็ท ลี (Jet Li) มิเชล โหย่ว (Michelle Yeoh) และหลิว อี้เฟย์ (Liu Yifei) ทำให้พวกเขาได้รับโอกาสในการแสดงบทบาทที่หลากหลายและมีความสำคัญมากขึ้น
เฉินหลงเป็นที่รู้จักในเรื่องความทุ่มเทและความมุ่งมั่นในการทำงาน เขาไม่เคยใช้สตันท์แมนในการแสดงฉากเสี่ยงตาย และมักจะได้รับบาดเจ็บจากการถ่ายทำอยู่เสมอ ความทุ่มเทของเขาทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงแอ็คชั่นที่เก่งที่สุดในโลก
นอกจากการแสดงแล้ว เฉินหลงยังเป็นผู้กำกับและนักเขียนบทที่มีความสามารถ เขาได้กำกับภาพยนตร์หลายเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น "Project A" (เอไกหว่า) และ "Police Story" (วิ่งสู้ฟัด) ซึ่งล้วนเป็นภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่นสุดระทึกและอารมณ์ขันที่ไม่เหมือนใคร
เฉินหลงเป็นมากกว่านักแสดง เขาคือตำนานผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก ด้วยความสามารถ ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นของเขา เขาได้สร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์ที่สร้างความสุขและความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก อิทธิพลของเขาส่งผลต่อวงการภาพยนตร์ทั่วโลก และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแสดงและผู้สร้างภาพยนตร์รุ่นหลังต่อไป
เฉินหลงคือตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จด้วยความพยายามและความมุ่งมั่น เขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเกิดมาในสภาพแวดล้อมแบบใด หากมีความฝันและความพยายาม ก็สามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้เช่นกัน
โฆษณา