24 ก.ค. เวลา 07:35 • ความคิดเห็น
เราไม่รู้เหมือนกันว่า ความสุขแบบครึ่งๆ กลางๆ มันเป็นยังไง แต่ก็ลองพยายาม สังเกต ..เวลากายมันหิวกระหาย ..ท้องมันร้อง เคยลองลดข้าว กินเพียงถ้วยเล็กเท่า ถ้วยน้ำพริก วันละสามมื้อ ..ถึงตอนกลางคืนเสียงมันร้อง ร้องเหมือนอึ่ง ที่อยู่รอบสระน้ำมันร้องระงม หิวๆๆๆ เราก็ทำอยู่ประมาณเดือนเดียว น้ำหนักลดไป 13 กก . เค้าว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า .
เรื่องของกาย ..เวลากายหิวกระหาย ..เราเอาอาหารอะไร ใส่ลงไป ในท้อง ความหิวกระหายของกาย ก็สงบลงไป พอความหิวกระสงบลง เราก็ใช้กายไปทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ไปใช้พลังงาน ออกแรงทำงาน .เอ้า. เดี๋ยวหิวอีกแล้ว กินอีกแล้ว ..ก็ไปทำนั้นนี้ แล้วกับมากิน ..กินแล้วนอน ..มันวนเวียน อยู่แค่นี้ ..
1
..จิตข้าที่อาศัยเรือนกาย ..อยากจะถามกายเหมือนกันว่า นี่แก..ไม่ต้องหิวได้มั้ย .แกหิว ..กระหายอาหารอย่างเดียว ยังไม่พออีกหรือ ..ทำไม่แกต้อง..มีราคะตัณหาเกิดขึ้นด้วย ..ข้าก็เลยเดือดร้อน ..ไปเสาะแสวงหา ของมาให้แกกิน ..แกกิน ..แล้วยังแก่เฒ่าอีก ..ฉันละเบื่อแกจังเลย แต่ฉันก็ยังหนีแก่ ..แต่มันยังทำไม่ได้ ..เจ้ากายมีกรรม..วันหนึ่งฉันกับแกต้องจากกันแน่นอน ..ทางใครทางมัน..
1
ก่อนที่จะถึง จุดที่ต้องแยกทางกัน เราจะทำกายกรรมนี้ ให้เกิดเป็นกายบุญ ..กายที่พ่อแม่ให้มา ..กายนี้ให้เราเกิดมาใช้อีกครั้ง ให้แก้ไข .ความหลงใหล .ในอารมณ์กรรมต่างๆ ที่จะไหลออกมา .เกิดขึ้นในเรือนกาย เกิดขึ้นจากการใช้กาย ..ที่ต้องทำมาหากินต่างๆ มีความทะเยอทะยาน ไปหามายึดถือ เพื่อเรื่องกายให้สบาย .เลี้ยงกายอย่างไรมันก็แก่
ชีวืตที่เคลื่อนไหวไปตามอารมณ์กรรม มีแต่ขนเวรกรรมมาทับถมเรือนกายทับถมลงไปในธาตุที่อาศัย ..เราจึงต้องขนไอ้ความยึดถือนั้นออกไปบ้าง ทำให้มันเป็นทาน เป็นบุญ ปฏิบัติธรรมขึ้นมา ให้กายนี้ ..กายนี้ส่งคืนบุญกุศลให้พ่อแม่ ให้กายพ่อแม่ ได้อนุโมทนา ..คงจะได้ผ่อนคลายกรรม ที่เคยใช้ธาตุนะโมผิดพลาดไป เพราะไม่รู้จักพระคุณของธาตุทั้งสองของพ่อแม่ ..ระลึกขึ้นมาได้ ..น้ำตามันนองหน้า ..ขอให้จิตข้าพเจ้ามีความกตัญญูรู้คุณทุกชาติไป
โฆษณา