24 ก.ค. เวลา 10:25 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ชู “หุ้นสหรัฐ-อินเดีย-เกาหลีใต้-ไทย-หุ้นเทคฯ”

5 ธีมเด่นลงทุนครึ่งปลังปี’24 มีไว้ “เพิ่มโอกาสผลตอบแทน” !!!
Fun of Funds: สำหรับ “บล.บลูเบลล์” (BlueBell) วางโมเดลธุรกิจไว้ชัดเจน ทั้งในฝั่งของ “ตราสารหนี้” (หุ้นกู้, ผู้แทนถือหุ้นกู้, ตลาดรองตราสารหนี้, ตราสารที่มีอนุพันธ์แฝง) ซึ่งเป็นพอชั่นหลักในปัจจุบัน
รวมถึงฝั่ง “กองทุนรวม” ที่เป็นนายหน้าซื้อขายกองทุนรวมให้บลจ.ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการถือหุ้นใน “บลจ.จัสท์” อีก 30% ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจกองทุนอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ “ที่ปรึกษาการเงิน” เติมเต็มบริการของบริษัทให้มีความครบถ้วนอีกด้วย
ล่าสุดได้จัดงานสัมมนาเอ็กซ์คลูซีฟ “Make it Great: The Vision Mid-Year 2024 Economic Outlook” จับมือ “3 บลจ.” ชี้เป้าลงทุนครึ่งหลังปี’24 เพื่อนักลงทุนจะได้ไม่พลาดโอกาสดีๆ ในการสร้างผลตอบแทนกัน
พร้อมเปิดตัวโลโก้ใหม่ของบริษัท ภายใต้แนวคิด “Make it Great” ที่สะท้อนถึง DNA ของบริษัทได้เป็นอย่างดี เรื่องราวจะเป็นเช่นไรนั้น ตามทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthy Thai’ ไปอัพเดทพร้อมๆ กันได้เลย
“BlueBell” ก้าวย่างบนแนวคิดใหม่ “Make It Great”...สู่การเติบโตที่ “มั่นคง” อย่างยั่งยืน
.
โดย “นริสรา ชัยวัฒนะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.บลูเบลล์ บอกว่า เรายังได้มีการพัฒนาโลโก้ของบลูเบลล์ขึ้นใหม่ เพื่อสะท้อนถึงแนวคิด “Make It Great” สื่อถึงความมุ่งมั่น แข็งแกร่ง มีไหวพริบ ปฏิภาณ ซื่อตรง และความอ่อนน้อมถ่อมตนของบลูเบลล์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์บลูเบลล์ให้เติบโตต่อไปอย่างมั่นคง “Make It Great” แนวความคิดที่จะมุ่งสร้างประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุดให้กับทุกคน
“Make It Great คือการใช้ประสบการณ์ องค์ความรู้ การวิเคราะห์ ความทุ่มเทใส่ใจในรายละเอียดและเคียงข้างอย่างจริงใจ และแนวความคิด Make It Great จะเป็นการท้าทาย เป็นพลังที่จะผลักดันองค์กร บุคลากรทุกคนของเราให้สร้างผลลัพธ์อันเป็นเลิศ เพื่อให้ ‘บล.บลูเบลล์’ อยู่ในใจนักลงทุนตลอดไป”
“หุ้นสหรัฐ” แพง...แต่แรงดี-ยังไปต่อได้
.
“เกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บลจ.กรุงศรี บอกว่า เศรษฐกิจโลกยังไปได้ สหรัฐเองก็ไม้เกิด Recession เพราะตัวเลขเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง แต่ถ้าดอกเบี้ยทรงตัวในระดับสูงต่อไปนานๆ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้เช่นกัน
นั่นทำให้ทาง “ธนาคารกลางสหรัฐ” (Fed) ส่งสัญญาณจะลดดอกเบี้ยและน่าจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.ย.24 นี้ เพราะตลาดแรงงานเริ่มลดความร้อนแรงลง ในขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐก็ชะลอตัวลงเช่นกัน และจากสถิติในช่วงก่อนเลือกตั้งสหรัฐ 3 เดือน “หุ้นสหรัฐ” ยังปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่
“หุ้นสหรัฐยังไปต่อได้ และ Fed จะลดดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. นี้ ส่งผลดีต่อการลงทุนใน ‘หุ้น’ และ ‘ตราสารหนี้’ ตลอดจนกลุ่ม ‘กองอสังหาฯ’ โดยหุ้นสหรัฐกลุ่มอื่นๆ มีแนวโน้มผลกำไรที่ดีขึ้น นั่นจะส่งผลให้หุ้นสหรัฐยังไปต่อได้ โดยบลจ.กรุงศรี มีกองทุนแนะนำ ได้แก่ KF-SINCOME, KF-CSINCOM, KFSINCFX KFGLOBAL, KFGLOBFX”
“หุ้นอินเดีย” & “หุ้นเกาหลีใต้”...เด่นสุดกลุ่มเอเชีย
.
เช่นเดียวกับ “ปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล” Director, ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ ที่มองว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา “หุ้นเอเชีย” เองอาจจะไม่ได้ถูกโฟกัสมากนักเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่ไปสนใจ “หุ้นสหรัฐ” ที่สามารถบวกต่อเนื่องและสร้างผลตอบแทนได้ดี แต่ถ้ามองผลตอบแทนของตลาดหุ้นในช่วงครึ่งแรกของปี24 จะพบว่าหลายตลาดในเอเชียก็สามารถทำผลตอบแทนที่ดีได้เช่นกัน
“ตลาดหุ้นเเกาหลีใต้” ซึ่งได้ประโยชน์จากกระแส AI เพราะมีบริษัทชั้นนำ ทั้งในอุตสาหกรรม Mobile Device และ Memory Chip นอกจากนี้เกาหลีใต้เป็นตลาดหุ้นที่มี Valuation น่าสนใจ เมื่อพิจารณาจาก Forward P/E ขณะที่การปฏิรูปตลาดทุนหรือ Value-up Program คาดว่าจะช่วยขับเคลื่อนตลาดหุ้นในระยะยาว
อีกตลาดหุ้นที่น่าสนใจคือ “ตลาดหุ้นอินเดีย” ที่มีการเติบโตของเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง โครงสร้างประชากรที่เอื้อต่อการขยายตัวของการบริโภคและภาคแรงงานในระยะยาว
“ปีนี้ Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยลง ซึ่งทำให้ ‘ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ’ มีแนวโน้มอ่อนค่า ซึ่งจากสถิติที่ผ่านมา ‘หุ้นตลาดเกิดใหม่’ และ ‘หุ้นเอเชีย’ จะ Perform ได้ดีเมื่อดอลลาร์อ่อนค่า โดยตลาดที่น่าสนใจ ได้แก่ อินเดีย และเกาหลีใต้ บลจ.ไทยพาณิชย์ มีกองทุนแนะนำ ได้แก่ SCBKEQTG และ SCBINDIA”
“หุ้นไทย” ทิ้งไม่ได้ เป้าสิ้นปี 1,450 จุด แนะมีผสมในพอร์ตหุ้น 20 - 30%
.
ปิดท้ายด้วย “ดร.สมชัย อมรธรรม” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธการลงทุน บลจ.กรุงไทย ที่ยอมรับว่า แม้ช่วงที่ผ่านมา “ตลาดหุ้นไทย” อาจจะดูแย่จนนักลงทุนส่วนใหญ่ละเลยและมองข้ามไปแล้ว แต่ไม่อยากให้คิดเช่นนั้น เพราะเชื่อว่า “หุ้นไทย” จะกลับมาได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
โดยผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากการที่รัฐบาลเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้ากว่า 6 เดือน ส่งผลกระทบต่อ GDP ไทยอย่างชัดเจน แต่หลังจากการเบิกจ่ายงบประมาณทำได้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม ตลอดจนการท่องเที่ยว ที่สำคัญภาคการส่องออกก็น่าจะเร่งตัวขึ้นด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐ หาก “โดนัลด์ ทรัมป์” ได้เป็นประธานาธิบดี
“หุ้นไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้น ให้เป้าดัชนีสิ้นปีที่ 1,450 จุด แนะกลุ่มหุ้นปันผลสูงเป็นสำคัญ และควรผสม ‘หุ้นไทย’ & ‘หุ้นตปท.’ 30 – 70 เพื่อให้พอร์ตหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ในช่วงนี้หุ้นไทยอาจจะดูไม่ดี สัดส่วน 20 -30% ก็ยังแนะนำให้มีติดพอร์ตไว้ โดย ‘หุ้นตปท.’ ที่น่าสนใจ เป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่มเทคฯ ทั่วโลก บลจ. กรุงไทย มีกองทุนแนะนำ ได้แก่ KT-HiDiv และ KT-Technology”
นี่คือ “พิกัดการลงทุน” เด่น ในช่วงครึ่งหลังปี’24 ที่ทาง “BlueBell” ร่วมกับพันธมิตรทั้ง “3 บลจ.” ตั้งใจนำมาฝากกับนักลงทุนทุกท่าน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสลงทุนดีๆ นี้ไป
โฆษณา