24 ก.ค. เวลา 12:25 • ประวัติศาสตร์
จีน

มู่หยงเว่ย จักรพรรดิผู้ไร้ประสบการณ์ ผู้นำพาแคว้นเยี่ยนสู่ความพินาศ

ในยุคสิบหกอาณาจักรของจีน แคว้นเยี่ยนตอนหน้าซึ่งก่อตั้งโดยชาวเซียนเป๋ยก้าวขึ้นสู่ความรุ่งเรืองในดินแดนภาคเหนือ และเมื่อเอ่ยถึงประวัติศาสตร์ของแคว้นนี้ บุคคลสำคัญที่ไม่อาจละเลยนามคือ มู่หยงเว่ย จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งแคว้นเยี่ยน ภายใต้รัชสมัยของเขา แคว้นเยี่ยนเผชิญกับทั้งความรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
มู่หยงเว่ย เป็นโอรสคนที่สามของ มู่หยง ฮวง จักรพรรดิแห่งแคว้นเยี่ยน เขาขึ้นครองบัลลังก์ในปี ค.ศ. 360 ขณะนั้นยังอยู่ในวัยเยาว์ การบริหารบ้านเมืองจึงตกอยู่กับขุนนางและขุนศึกฝ่ายต่างๆ ส่งผลให้รากฐานการปกครองของเขายังไม่มั่นคง
ในช่วงต้นรัชสมัยของมู่หยงเว่ย แคว้นเยี่ยนยังคงมีพลังอำนาจอยู่บ้าง ทว่าด้วยความไร้วิสัยทัศน์และความเด็ดขาดทางการเมือง ประกอบกบ การบริหารที่วุ่นวาย และ ความขัดแย้งภายในที่ทวีความรุนแรง แคว้นเยี่ยนจึงค่อยๆ เสื่อมถอยลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตลอดรัชสมัยของเขา แคว้นเยี่ยนต้องเผชิญกับศัตรูภายนอกที่แข็งแกร่ง ประกอบกับปัญหาการแย่งชิงอำนาจภายใน มู่หยงเว่ย ไม่อาจหาทางออกให้กับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกปัญหาต่างๆ รุมเร้า
ปี ค.ศ. 369 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ มู่หยงเว่ย พยายามแก้ปัญหาด้วยการย้ายเมืองหลวง แต่การตัดสินใจครั้งนี้กลับเร่งให้แคว้นเยี่ยนล่มสลายเร็วขึ้น กองทัพสูญเสียขวัญกำลัง ทรัพยากรมีจำกัด อำนาจของแคว้นเยี่ยนเสื่อมถอยอย่างรวดเร็ว
ในปี ค.ศ. 370 ฟู่เจียน จักรพรรดิแห่งแคว้นเยี่ยน ฉิน นำทัพเข้าโจมตีกองทัพของมู่หยงเว่ย กองทัพแคว้นเยี่ยนพ่ายแพ้สิ้นเชิง แคว้นเยี่ยนล่มสลาย มู่หยงเว่ย ถูกจับเป็นเชลย ต่อมา ฟู่เจียน แต่งตั้งเขาเป็นขุนนางและมอบบรรดาศักดิ์เป็นมาร์ควิส แม้จะรอดชีวิตจากเงื้อมมือของความตาย แต่ชีวิตของเขาก็ไม่ได้มีความสุข มู่หยงเว่ย สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 384
รัชสมัยของมู่หยงเว่ย เปรียบเสมือนภาพสะท้อนให้เห็นถึงช่วงเปลี่ยนผ่านจากความรุ่งเรืองสู่ความเสื่อมถอยของแคว้นเยี่ยน ความสามารถส่วนตัวและการตัดสินใจของเขาส่งผลต่อชะตากรรมของแคว้นเยี่ยนอย่างโดยตรง เมื่อศึกษาเกี่ยวกับรัชสมัยของมู่หยงเว่ย เราไม่ได้เพียงแค่เรียนรู้ถึงการขึ้นและลงของราชวงศ์เท่านั้น แต่ยังสัมผัสได้ถึงแง่มุมของมนุษย์ทั้งในด้านดีและด้านร้ายท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์
แม้ว่ามู่หยงเว่ยจะไม่ใช่กษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ แต่เรื่องราวของเขายังคงมีความสำคัญและควรค่าแก่การนำมาทบทวนและไตร่ตรอง
โฆษณา