24 ก.ค. เวลา 15:07 • ข่าวรอบโลก

โครามารา เกาะที่กำลังจะหายไปจากแผนที่โลก

‘โครามารา’ (Ghoramara Island) เป็นเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในอ่าวเบงกอล ประเทศอินเดีย
สถานที่แห่งนี้ นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ว่า อาจหายไปจากแผนที่โลกในปี 2050
จากปัญหาระดับน้ำทะเลที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ วัน
1
เดิมทีโครามาราเคยเป็นเกาะที่มีขนาด 26 ตารางกิโลเมตร
1
หรือเท่าๆ กับเขตจอมทองในกรุงเทพมหานคร
แต่เมื่อวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยฝีมือมนุษย์ ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ประกอบกับการละลายของน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยได้พาเอาน้ำมหาศาลมาเติมจนเอ่อล้นตลิ่ง
ทั้งยังมีการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงจากพายุที่โถมกระหน่ำถี่มากขึ้น ทำให้พื้นที่ของเกาะโครามาราค่อยๆ หดหายไปทีละน้อยๆ
ปัจจุบัน คงเหลือแผ่นดินอยู่เพียง 6.7 ตารางกิโลเมตร
3
หรือพอๆ กับพื้นที่แขวงจันทรเกษมของเขตจตุจักรในปัจจุบัน
จากที่เคยมีสำมะโนประชากรมากถึง 40,000 คน ก็เหลือเพียง 5,193 คน
1
การเสียพื้นที่ทำให้ไม่เหลือที่ดินสำหรับอยู่อาศัย ขณะเดียวกันยังหมายถึงหน้าที่การงานที่ถูกริบหายไป
ในอดีตคนบนเกาะมีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกข้าว ปลูกผัก ไว้ทานไว้ขาย แต่ตอนนี้อาชีพเพียงอย่างเดียวที่พอจะจุนเจือยาไส้ได้คือ การทำประมง
1
นอกจากนี้ การย้ายถิ่นฐานอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก็หาได้ยกระยกดับชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นสักเท่าไหร่
มีแต่จะแย่ลงๆ
สถานการณ์ของหลายครอบครัวที่ย้ายออกจากเกาะไปแล้ว ต้องใช้เวลาปรับตัวนาน กว่าจะเข้ากับที่อยู่ใหม่ หรือกระทั่งงานใหม่ ที่หาได้ไม่ง่ายในเวลานี้
1
สำหรับประชากรที่เหลืออยู่ประมาณ 5,000 คนนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ฐานะยากจน หรือไม่ก็คนสูงอายุ ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไร
แต่มากกว่านั้น คือความทุกข์ระทมที่ต้องทนอยู่ระหว่างเวลาก่อนกาลเปลี่ยนผ่านเดินทางมาถึง
ชีวิตต้องเจอปัญหามากมายรุมเร้า ไล่มาตั้งแต่เรื่องการสูญเสียที่ดินทำกิน
ในบทสัมภาษณ์เกษตรรายหนึ่งที่อาศัยบนเกาะมาตั้งแต่เกิดจนฤดูกาลพัดพาวัยชรามาเยือน เขาเล่าว่า เมื่อก่อนเคยปลูกข้าวกินเอง
2
แต่วันนี้ต้องซื้อกินเพราะที่ดินจมอยู่ใต้น้ำหมดแล้ว
เงินจับจ่ายใช้สอยอาศัยได้จากลูกๆ ที่ย้ายออกไปทำงานนอกเกาะแล้วปันส่วนส่งกลับมาให้ที่บ้าน
การเพาะปลูกอย่างอื่นๆ ก็ทำได้ยาก เพราะน้ำทะเลซึมอยู่ตามชั้นดินหลายแห่ง
ความเค็มทำให้ดินขาดคุณภาพไม่เหมาะสมกับการเพาะปลูกสิ่งใดๆ อีกต่อไป
ส่วนชายหนุ่มหลายคนบนเกาะแทบทั้งหมดต้องกลายเป็นคนอาภัพรัก ไร้คู่ครอง
ไม่มีสาวจากแดนไหน อยากฝากอนาคตไว้กับชีวิตที่อาจไร้บ้านในอนาคต
เมื่อเร็วๆ นี้ทางการของรัฐต้องประกาศปิดโรงเรียนบนเกาะไป เพราะการกัดเซาะรุกคืบเข้ามาใกล้ฐานโครงสร้างอาคาร
1
หากดันทุรังเปิดไม่วายคงเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นสักวัน
เด็กๆ จึงต้องหยุดเรียนเป็นการชั่วคราว เพื่อรอให้โรงเรียนจัดสรรสถานที่เรียนใหม่ให้เสร็จก่อน
ขณะที่บางคนเล่าว่า ตลอดช่วงชีวิตที่อาศัยอยู่บนเกาะ เขาย้ายบ้านหนีน้ำมาแล้ว 5 ครั้งด้วยกัน
1
ส่วนที่ทำการไปรษณีย์เพียงแห่งเดียวของเกาะเปิดให้บริการแค่ครึ่งวัน เพราะมีจดหมายส่งถึงโครามาราเพียงวันละไม่ถึง 10 ฉบับ
1
เหล่านี้คือสถานการณ์ที่คนบนเกาะเผชิญและยากจะหลีกเลี่ยง
ในรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ได้กล่าวหาว่าภาครัฐไม่ค่อยเหลียวแลความเป็นไปของผู้คนบนเกาะสักเท่าไหร่
กว่า 5,000 ชีวิตที่เหลือจึงต้องใช้ชีวิตกันไปตามยถากรรม
ยิ่งในฤดูมรสุม มักจะเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างเฉียบพลันเนื่องจากเรือเล็กไม่สามารถออกจากฝั่งไปหาเสบียงจากเกาะข้างเคียงได้
ตามที่นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศได้คำนวณระดับน้ำทะเลที่ค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้น เดิมทีคาดการณ์เอาไว้ว่าเกาะแห่งนี้จะจมหายกลายเป็นนครแอตแลนติสในปี 2050
โดยระดับน้ำทะเลของภูมิภาคนี้ เพิ่มขึ้นปีละ 8 มิลลิเมตรต่อปี หรือคิดเป็น 250 เปอร์เซ็นต์ จากอัตราปกติของพื้นที่ทั่วโลก
แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ตลอดจนแนวโน้มการแก้ไขวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์ดูไม่ค่อยคืบหน้า
ทำให้คาดการณ์ได้ใหม่ว่า ผู้คนบนโครามาราคงได้ใช้ชีวิตบนแผ่นดินเกิดอีกเพียง 15 ปีเท่านั้น
อ้างอิง
The Guardian. ‘The island has been shrinking’: living on the frontline of global heating. https://bit.ly/2ZUb1vr
First Post. Ghoramara Island: Living on the edge of a rising sea. https://bit.ly/301YTcm
 
The Telegraph India. Erosion brings South 24-Parganas school on brink of collapse. https://bit.ly/3kg9E1l
1
Aljazeera. The hungry tide: Bay of Bengal’s sinking islands. https://bit.ly/3nZJmkY
โฆษณา