25 ก.ค. เวลา 02:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้นกู้ “ซีพี ออลล์” ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคักทุกครั้งที่ออกเสนอขาย

หุ้นกู้ “ซีพี ออลล์” ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคักทุกครั้งที่ออกเสนอขาย กำลังจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้เก็บหุ้นกู้เข้าพอร์ตลงทุนกันอีกแล้ว
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP ALL ผู้บริหารร้าน ‘เซเว่น อีเลฟเว่น’ และ ‘เซเว่น เดลิเวอรี่’ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ โดยคาดว่าจะเปิดให้จองซื้อในช่วงวันที่ 19-21 สิงหาคม 2567 ผ่าน 4 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย รวมถึงแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet
หุ้นกู้ “ซีพี ออลล์” มาคราวนี้ปังกว่าเดิม เพราะเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันนี้เอง ทริสเรทติ้งได้ปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร รวมถึงหุ้นกู้ที่จะเสนอขายครั้งนี้ จากระดับ “A+” มาอยู่ที่ “AA-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) สะท้อนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น กำไรที่ปรับตัวดีขึ้น และและภาระหนี้ที่ลดลง นอกจากนั้น ยังแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จากการมีสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และมีธุรกิจสนับสนุนที่เข้มแข็ง รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ
หุ้นกู้ชุดใหม่ของ “ซีพี ออลล์” ครั้งนี้ มีจำนวน 4 ชุด โดยกำหนดช่วงของอัตราดอกเบี้ยแต่ละชุด ดังนี้
🔸หุ้นกู้ชุดที่ 1 - อายุ 4 ปี 4 วัน อัตราดอกเบี้ย [3.05-3.25]% ต่อปี
🔸หุ้นกู้ชุดที่ 2 - อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.20-3.45]% ต่อปี
🔸หุ้นกู้ชุดที่ 3 - อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.55-3.75]% ต่อปี และ
🔸หุ้นกู้ชุดที่ 4 - อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.75-3.98]% ต่อปี
ทั้งนี้ จะมีการแจ้งอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายอีกครั้ง โดยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
จะเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนี้น่าสนใจสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอทุกๆ 6 เดือน และมีความเสี่ยงต่ำเพราะลงทุนกับบริษัทที่มีความมั่นคงสูง ด้วยเรทติ้ง AA-
ณ สิ้นไตรมาสแรก ปี 2567 (31 มี.ค. 67) “ซีพี ออลล์” มีจำนวนร้านสาขารวม 14,730 สาขาทั่วประเทศ และยังคงมีแผนงานการเปิดร้านสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวและทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดสาขาในประเทศไทยประมาณปีละ 700 สาขา
นอกจากนี้ การขยายธุรกิจไปยังประเทศกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน (สปป.) ลาว ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มเติมตามศักยภาพของแต่ละประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานของ ซีพี ออลล์ ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้รวม 241,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในกลยุทธ์ด้านสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
“ซีพี ออลล์” มีกลยุทธ์การสื่อสารและการบริหาร ภายใต้สโลแกน “สะดวกครบ จบที่เดียว (All Convenience)” ทั้งในเรื่องของสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการเป็นศูนย์บริการด้านสุขภาพและความงามของชุมชน ซึ่งสอดรับกับการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัว จำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมา และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น
ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ตลอดทั้งเศรษฐกิจของประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยหลักการของการเป็น “เพื่อนที่รู้ใจ” ใกล้ทุกชุมชน และเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่พึ่งพาได้
ในด้านธรรมาภิบาลและการบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนของ “ซีพี ออลล์” นั้น ยืนยันได้ด้วยการรับรองจากสถาบันต่างๆ เช่น
- ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิก FTSE4Good Index ติดต่อกันเป็นปีที่ 6
- เป็นสมาชิก DJSI ในกลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 และกลุ่มดัชนี DJSI World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6
- ได้รับการจัดอันดับด้านการกำกับดูแลกิจการจาก IOD ในระดับดีเลิศ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
โดยในปี 2567 นี้ บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายด้านความยั่งยืนองค์กร “2ลด 4สร้าง 1DNA” เพื่อยึดมั่นเป็นองค์กรที่อยู่เคียงคู่ชุมชน สร้างสรรค์สังคมยั่งยืน ผ่านแนวคิด ESG ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance)
“2 ลด” จะเน้นลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และลดการใช้พลังงาน เป็นแกนขับเคลื่อนด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม
“4 สร้าง” เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสังคม (Social) ได้แก่ สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างชุมชนอุ่นใจ และ
“1 DNA” เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านธรรมาภิบาล (Governance) โดยรวมพลังพนักงานกว่า 250,000 คน ขับเคลื่อน “DNA ความดี 24 ชั่วโมง”
ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ
คาดว่าจะเสนอขายในช่วงวันที่ 19-21 สิงหาคม 2567 โดยผู้ลงทุนทั่วไป จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
สนใจจองซื้อหุ้นกู้ “ซีพี ออลล์” สามารถติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 4 แห่ง ดังนี้
1. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Bangkok Bank Mobile Banking ได้ด้วย)
2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร.02-111-1111 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai Next ได้ด้วย)
3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 ต่อ 869 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์
www.kasikornbank.com/kmyinvest ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา)
(ซึ่งรวมถึงบล.กสิกรไทย ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย)
4. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)โทร. 02-777-6784 (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่น SCB EASY ได้ด้วย)
(ซึ่งรวมถึงบล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์)
ผู้บริหารของ “ซีพี ออลล์” และผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ฝากให้มาเน้นย้ำกับผู้ลงทุนว่า ขอให้ผู้ลงทุนระวังมิจฉาชีพที่แอบอ้างชื่อ “ซีพี ออลล์” หลอกให้ลงทุน โดยนำเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินจริง จึงขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาผลตอบแทนที่มีความเป็นไปได้ หรือติดต่อสอบถามผ่านสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่งที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ก่อนตัดสินใจลงทุน
#CPALL #หุ้นกู้
--
ติดตามเราผ่าน
Facebook: เรียลลงทุน
X: เรียลลงทุน
Blockdit: เรียลลงทุน
YouTube: เรียลลงทุน
Line: @RealLongtun
Podcast: เรียลลงทุน
โฆษณา