25 ก.ค. เวลา 11:08 • การเมือง

เศรษฐศาสตร์การอพยพ: มุมมองจากทรัมป์สู่การเลือกตั้งปี 2024

ในยุคปัจจุบัน การอพยพย้ายถิ่นฐานเป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญ โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว หลายๆ ประเทศเริ่มมีนโยบายที่เข้มงวดขึ้นต่อผู้ย้ายถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแรงกดดันของประชาชนที่ต้องการรักษางานและทรัพยากรภายในประเทศ การวิเคราะห์จากมุมมองเศรษฐศาสตร์จะช่วยให้เราเข้าใจถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของการอพยพในโลกที่ร่ำรวยนี้ได้ชัดเจนขึ้น
ผลกระทบทางเศรษฐกิจของการอพยพย้ายถิ่น
จากมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ การอพยพย้ายถิ่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ด้านหนึ่ง การอพยพสามารถช่วยเพิ่มกำลังแรงงานในตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกัน หากมีการอพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคม เช่น ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม และการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานในกลุ่มประชากรท้องถิ่น
การอพยพย้ายถิ่นมีผลกระทบที่ซับซ้อน มันสามารถช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถสร้างแรงกดดันต่อค่าจ้างและทรัพยากรในประเทศที่รับผู้ย้ายถิ่น
นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด Dr. George Borjas
มุมมองของพรรคการเมืองในสหรัฐอเมริกา
การตอบสนองของพรรคการเมืองต่อการอพยพย้ายถิ่นมักแตกต่างกันไปตามแนวคิดทางการเมือง ในสหรัฐอเมริกา พรรคการเมืองหลักสองพรรคมีมุมมองที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:
Democratic Party:
มักสนับสนุนการอพยพโดยให้เหตุผลว่าการอพยพช่วยเติมเต็มแรงงานในตลาด ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม พรรคเดโมแครตเห็นว่าการเปิดรับผู้ย้ายถิ่นเป็นวิธีที่ดีในการรับมือกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานและประชากรที่สูงอายุ
สำหรับการเลือกตั้งในปี 2024 Democratic Party: เน้นย้ำการปฏิรูปกฎหมายการอพยพให้เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Republican Party:
มีแนวโน้มที่จะมองการอพยพในแง่ลบมากขึ้น โดยให้เหตุผลว่าการอพยพที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจนำไปสู่ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ เช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน การลดลงของค่าจ้าง และปัญหาความขัดแย้งทางวัฒนธรรม พรรครีพับลิกันมักสนับสนุนนโยบายที่เข้มงวดขึ้นในการควบคุมการอพยพ
สำหรับการเลือกตั้งในปี 2024 Republican Party: เน้นการเสริมสร้างความปลอดภัยชายแดนและการบังคับใช้กฎหมายการอพยพที่เข้มงวด
นโยบายการอพยพของโดนัลด์ ทรัมป์ (2017-2021)
ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา (2017-2021) มีแนวคิดเรื่องนโยบายการอพยพที่เข้มงวดและมุ่งเน้นไปที่การควบคุมการอพยพที่ไม่ถูกกฎหมาย รวมถึงการเสริมสร้างความปลอดภัยชายแดน ซึ่งมีนโยบายหลักๆ ดังนี้
  • การสร้างกำแพงชายแดนกับเม็กซิโก: ทรัมป์ได้ผลักดันการสร้างกำแพงชายแดนเพื่อป้องกันการอพยพที่ไม่ถูกกฎหมาย
  • นโยบายแยกครอบครัว: นโยบายที่ให้แยกครอบครัวที่เข้ามาอพยพอย่างไม่ถูกกฎหมายเพื่อกดดันให้พวกเขากลับประเทศต้นทาง
  • การยกเลิกโครงการ DACA: ทรัมป์พยายามยกเลิกโครงการ DACA (Deferred Action for Childhood Arrivals) ซึ่งให้ความคุ้มครองชั่วคราวแก่ผู้ที่อพยพเข้ามาในสหรัฐตั้งแต่ยังเด็ก
  • นโยบาย “Travel Ban”: การห้ามเดินทางเข้าประเทศสำหรับผู้ที่มาจากประเทศมุสลิมบางประเทศเพื่อป้องกันการก่อการร้าย
บทสรุป:
การอพยพย้ายถิ่นเป็นปัญหาที่ซับซ้อนและมีผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมที่หลากหลาย การวิเคราะห์จากมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ช่วยให้เราเข้าใจถึงผลกระทบเหล่านี้ได้ชัดเจนขึ้น ในขณะที่พรรคการเมืองมีมุมมองที่แตกต่างกัน การหาสมดุลระหว่างการรับผู้ย้ายถิ่นและการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
ข้อมูลอ้างอิง:
  • Borjas, George J. "Immigration Economics." Harvard University Press, 2014.
  • Peri, Giovanni. "The Economic Benefits of Immigration." Berkeley Review of Latin American Studies, 2016.
  • Card, David. "Is the New Immigration Really So Bad?" Economic Journal, 2005.
โฆษณา