26 ก.ค. เวลา 11:30 • ไลฟ์สไตล์

ใจพัง แต่ถังต้องไม่แตก

เคล็ดลับจัดการเงินสำหรับคนที่เพิ่งเลิกกับแฟน เพราะหัวใจสลายอาจนำไปสู่พฤติกรรมการใช้เงินเกินตัว
ข้อมูลจาก Cosmopolitan นิตยสารสัญชาติอเมริกันระบุว่า คนพึ่งโดนทิ้งมีแนวโน้มจะใช้จ่ายมากขึ้นหลังการเลิกรา นักจิตวิทยาบำบัด ราเชล วัตสัน (Rachelle Watson) อธิบายเพิ่มว่า เบื้องหลังพฤติกรรมการใช้เงินเกินตัวของคนใจพัง โดยเฉพาะในฝั่งของคนที่เพิ่งถูกบอกเลิก เป็นความพยายามที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามีอำนาจในการจัดการชีวิตอีกครั้ง
ความเครียดและความพยายามจะควบคุมชีวิตส่วนอื่น ๆ มักจะแสดงออกมาผ่านการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก หรือการตัดสินใจซื้อตั๋วไปเที่ยวในนาทีสุดท้าย โดยให้เหตุผลว่า "มันเป็นเงินของเรา เราจะใช้มันอย่างไรก็ได้"
จากการศึกษาของ Experian บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลและรายงานเครดิตผู้บริโภคซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในดับลิน พบว่า โดยเฉลี่ยแล้ว การแยกทางกับคู่รักมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1,068 ปอนด์ (ประมาณ 47,000 บาท) ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการหาที่อยู่ใหม่ และค่าสมัครสมาชิกต่าง ๆ ที่เราไม่สามารถแบ่งจ่ายกับอดีตคนรักได้อีกต่อไป
แต่นั่นยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างเช่น การช็อปปิ้งเพื่อบำบัดความเครียด
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ความเสียหายทางอารมณ์ลุกลามไปสู่ความเสียหายทางการเงิน
เราจึงนำเคล็ดลับการเงินสำหรับคนที่เพิ่งโสดมาฝาก
1.ก่อนใช้จ่าย ควรถามตัวเองว่า "สิ่งที่เราต้องการจริงๆ ตอนนี้คืออะไร?"
แทนที่จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยตามอารมณ์ เราควรให้เวลาตัวเองในการไตร่ตรองดูก่อน โดยก่อนจะใช้จ่ายควรถามตัวเองก่อนว่า ซื้อมาแล้วได้ใช้รึเปล่า มีวิธีอื่นที่จะช่วยได้ไหม รออีกนิดได้ไหม หรือคำถามสุดท้ายก่อนเราจะจ่ายเงินก็คือ เราจะใช้วิธีใดจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งนี้มาในราคาที่คุ้มค่าที่สุด?
การตั้งคำถามเหล่านี้กับตัวเองจะช่วยให้เราฉุกคิดและได้นึกถึงความจำเป็นของสิ่งที่กำลังจะจับจ่าย ทำให้การตัดสินใจใช้จ่ายเป็นไปอย่างรอบคอบและมีเหตุผลมากขึ้น
2.ก่อนจะใช้จ่ายอย่างฟุ้งซ่านลองทำบัญชีรายรับ - รายจ่ายดูก่อน
เจสซิก้า ลีออนส์ (Jessica Lyons) ที่ปรึกษาทางการเงินของ Black Swan Capital ให้คำแนะนำว่า "ไม่ว่าความสัมพันธ์จะพังทลายลงอย่างไร ย่อมต้องมีช่วงเวลาของการปรับตัวและเปลี่ยนแปลง และการทำงบประมาณเป็นสิ่งหนึ่งที่เราสามารถควบคุมได้"
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นเรื่องสำคัญที่เราควบคุมได้เสมอ นอกจากจะช่วยควบคุมสถานการณ์การใช้จ่ายแล้ว การทำบัญชีในช่วงอกหักยังช่วยให้เราตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอารมณ์ ซึ่งจะช่วยยับยั้งพฤติกรรมการใช้เงินเกินตัวได้
ดังนั้น ก่อนจะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ลองทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้เห็นภาพรวมทางการเงินของตนเองและช่วยในการตัดสินใจใช้จ่ายอย่างมีสติมากขึ้น
3.แทนที่จะซื้อของใหม่ ลองจัดห้องใหม่ดูก่อน
หลังการเลิกรา หลายคนอยากจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่อย่าง แต่เรามักจะลืมไปว่าจริง ๆ แล้วของเหล่านั้นมันไม่ได้จำเป็น ดังนั้นการจัดห้องจึงเป็นอีกหนึ่งทางที่ดีในการคลายความเครียด และการจัดห้องอาจจะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นจากการได้ขายของที่ไม่จำเป็นหรือของขวัญจากแฟนเก่าที่เราไม่ต้องการใช้แล้ว
4.พักจากโซเชียลมีเดียเพื่อลดแรงกระตุ้นในการใช้จ่าย
ในช่วงที่ชีวิตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง หลายคนมักหาทางออกด้วยการทำ "Retail Therapy" หรือการช็อปปิ้งเพื่อยกระดับอารมณ์ของตัวเองให้ดีขึ้น
งานวิจัยจาก Pennsylvania State University พบว่า 62% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขาช็อปปิ้งเพื่อทำให้ตัวเองอารมณ์ดีขึ้น บางคนถึงกับกล่าวว่าการซื้อของสามารถช่วยคลายเครียดได้ดีกว่าการนั่งสมาธิด้วยซ้ำ
ซึ่งพฤติกรรมนี้อาจนำไปสู่การใช้จ่ายมากกว่าที่เงินที่เราตั้งไว้หรือใช้จ่ายมากกว่าเงินที่เรามี ดังนั้น การพักจากโซเชียลมีเดียจึงเป็นวิธีหนึ่งที่อาจช่วยลดแรงกระตุ้นในการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้
5.ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว เพราะการได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์เงินซื้อไม่ได้
เมื่อใจเราพัง เรามักเบี่ยงเบนความสนใจไปกับการจับจ่าย เพื่อให้รู้สึกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว สิ่งที่จะช่วยเยียวยาหัวใจที่แตกสลายได้จริง ๆ คือการได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์และความรักที่เงินไม่สามารถซื้อได้
ดังนั้น แทนที่จะใช้เงินฟุ่มเฟือยเมื่อใจพัง ลองเปลี่ยนมาใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัว เพื่อพูดคุยและแบ่งปันความรู้สึกซึ่งช่วงเวลาแบบนี้มีคุณค่ามากกว่าสิ่งของที่เงินสามารถซื้อได้
=======
เขียนและเรียบเรียงโดย: กนกจันทร์ เรืองวัฒนานนท์
#aomMONEY #personalfinance #การเงินส่วนบุคคล #ความสัมพันธ์และการเงิน
โฆษณา