26 ก.ค. เวลา 01:39 • ข่าวรอบโลก

กระแสออมเงินอย่างบ้าคลั่งในจีน

โดย
นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
ขณะเขียนต้นฉบับของวันนี้ ผมอยู่ที่กุ้ยหลิน เขตปกครองตนเองกว่างซี เดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2024 ผมตระเวนบราซิล ฮ่องกง และจีน
ประหลาดใจที่สุดก็คือการใช้จ่ายเงินของคนจีนเปลี่ยนไปจากเดิมมากไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นก็เปลี่ยน
ตอนที่ผมลงหลักปักฐานที่กุ้ยหลินเมื่อ 15 ปีที่แล้ว สมัยนั้นเป็นช่วงที่คนจีนใช้เงินกันอย่างเต็มที่ ชอบแบรนด์เนม นิยมสินค้าต่างชาติ ทานอาหารในภัตตาคารหรูหราหมาเห่า
1
แข่งขันกันเรื่องรถ เรื่องไปเที่ยวต่างประเทศ อวดรวยกันตามโซเชียลมีเดีย คนไหนรวยคนนั้นก็มีคนติดตามมาก
3 ปีที่ผ่านมาเกิดปรากฏการณ์ใหม่อย่างหนึ่งซึ่งกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารของพวกเราอย่างเลี่ยงไม่ได้คือ คนจีนไม่สั่งอาหารเต็มโต๊ะเหมือนเดิม ผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19 และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้คนจำนวนไม่น้อยนิยมสั่งอาหารจานเดียวและทานจนหมดจาน ถึงคราวจ่ายก็นิยมจ่ายแบบของตัวใครตัวมัน
2
นอกจากนั้น ยังนิยมไปนั่งที่ร้านกาแฟที่ให้บริการอาหารจานเดียวและขนมด้วย ต่างคนต่างจ่าย พฤติกรรมการพบปะสังสรรค์ของคนจีนเปลี่ยนไปอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ภัตตาคารในประเทศจีนซึ่งเป็นธุรกิจเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ปิดตัวกันระนาว
อย่างร้านหม้อไฟชื่อดังที่มีสาขามากถึง 1,597 แห่ง หลังจากพฤติกรรมคนจีนเปลี่ยน ก็ทยอยปิดสาขาที่ละ 200-300 แห่ง ตั้งแต่ปลาย ค.ศ.2021 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
เกิดกระแสการออมอย่างบ้าคลั่งในหมู่วัยรุ่นจีน เรียกกระแสนี้เป็นภาษาอังกฤษว่า Revenge Saving สมัยก่อนเด็กจีนอวดรวย แต่สมัยนี้เด็กจีนอวดจน เดิมที่เคยโพสต์เรื่องเที่ยวต่างประเทศ ซื้อของแบรนด์เนม เด็กจีนปัจจุบันโพสต์เรื่องการใช้จ่ายเงินอย่างไรให้น้อยที่สุด
2
บางคนโพสต์ว่าตนเองใช้เงินเพียงเดือนละ 41.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,444 บาท จ่ายเป็นค่าอาหารเพียง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 48 บาทต่อวัน
กระแส Revenge Saving มีทั้งแง่บวกและมุมลบ แง่บวกก็คือเยาวชนคนจีนมีเงินออมมากขึ้น ลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ทำให้ได้ดุลมโหฬาร เฉพาะเดือนมิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา ยอดเกินดุลการค้าของจีนเพิ่มสูงถึง 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.583 ล้านล้านบาท
2
แต่ในแง่เสียก็คือเงินไม่ไหลเวียน ใครได้เงินมาแล้วก็เก็บ ไม่นำออกมาใช้จ่าย ไม่นำออกมาลงทุน เรื่องนี้อันตราย เป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นต้องออกมากระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย
1
ธนาคารแห่งชาติจีนหรือ Bank of China ออกมาให้ข้อมูลว่า ในไตรมาสแรกของ ค.ศ.2024 เงินฝากเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.8 จากไตรมาสแรกของ ค.ศ.2023
1
2 ปีที่แล้ว ภัตตาคารหรูหราหมาเห่าประเภท fine dining ซึ่งมักจะอยู่บนชั้น 6-7 ของอาคารสำนักงานในมหานครเซี่ยงไฮ้ต่างสงสัยว่า ลูกค้าที่เคยเต็มร้านหายไปไหนหมด
1
พบว่าไปกินร้านอาหารชั้นใต้ดินซึ่งขายอาหารราคาถูกสำหรับพนักงาน เป็นเทรนด์ที่โซเชียลมีเดียเรียกว่าเศรษฐกิจ B1 B2
และเกิดแฮชแท็ก #YoungPeopleOnlyGoShoppingAtB1B2 ซึ่งหมายถึงคนหนุ่มสาวซื้อของที่ชั้นใต้ดิน (B1 หรือ B2) เท่านั้น
ช่วงวิกฤติโควิด-19 คนในหลายประเทศไม่ได้ออกไปซื้อข้าวซื้อของ พอหมดโควิด-19 ก็เลยเกิดกระแส Revenge Spending 'ช็อปปิ้งล้างแค้น' ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อชดเชยเวลาที่หายไปในช่วงโควิด
1
แต่จีนกลับเกิดกระแส Revenge Saving หรือ ‘ประหยัดล้างแค้น’ เยาวชนจีนประหยัดถึงขนาดไปกินตามโรงอาหารผู้สูงอายุซึ่งราคาถูกมาก กระแสที่มาแรงอีกอย่างคือการซื้ออาหารที่ใกล้หมดอายุ
ห้างสรรพสินค้าที่ขายสินค้าที่ใกล้หมดอายุจากโรงงาน ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เปิดสาขาไปตามเมืองต่างๆ อย่างรวดเร็ว สินค้าที่ใกล้หมดอายุราคาถูกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 1 ใน 3 ของราคาเต็ม แม้ว่าจะเป็นสินค้าเก่าแต่ยังทานได้อย่างปลอดภัย
1
แม้แต่คนจีนในแผ่นดินจีนเองยังตามกระแสของคนจีนเองไม่ค่อยทัน ต้องปรับตัวและพัฒนาธุรกิจอยู่ตลอดเวลา นักธุรกิจต่างชาติที่มาลงหลักปักฐานในประเทศจีนที่ปรับตัวช้ามีความเสี่ยงสูงครับ.
1
โฆษณา