26 ก.ค. เวลา 05:52 • หนังสือ

หมื่นสุคนธ์สังหาร

เมฆาราตรี เขียน
โปรยสำนักพิมพ์ดีบุ๊คส์ :
หยางหลิงลู่ บุตรีขุนนางขั้นหกผู้ต่ำต้อยกลับได้รับพระราชโองการให้แต่งงานเป็นภรรยาเอกของ อวี่เหวินจิ้ง ขุนนางกังฉินผู้มีอายุมากกว่านางถึงสิบเจ็ดปี ทั้งยังได้ชื่อว่ามีอุปนิสัยวิปลาสอำมหิต หากเมื่อถึงวันวิวาห์ ไม่เพียงแต่เจ้าบ่าวจะไม่ยอมปรากฏตัว ยังหยามเกียรตินางด้วยการส่งไก่ตัวผู้มาเข้าพิธีมงคลแทนตนเอง และไม่ยอมแม้แต่จะร่วมหอหลับนอนกับนาง ซึ่งเป็นถึงภรรยาพระราชทาน
แม้ว่าหยางหลิงลู่จำต้องใช้ชีวิตกับสามีผู้แปลกประหลาดเช่นนี้ ทว่าตัวนางเองก็หาได้แตกต่างจากอวี่เหวินจิ้งนัก เพราะแท้จริงแล้ว ทั้งนางและเขาต่างก็กุมความลับบางอย่างที่ไม่อาจบอกกล่าวกับผู้ใดได้ ความลับที่พัวพันถึงความมั่นคงของราชบัลลังก์ และ อ้านเยี่ย หน่วยงานลับที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุทธภพ
เหนืออื่นใด ความลับนั้นยังเกี่ยวข้องกับ อวี้ซิน สมญานาม "หอมกำสรวล" นักฆ่าอันดับหนึ่งผู้มีความแข็งแกร่ง โหดเหี้ยม เย็นชา และสังหารผู้คนด้วยพิษแห่งหมื่นสุคนธ์
หลังอ่าน :
งานของนักเขียนไทยเขียนแนวจีนโบราณซึ่งนาน ๆ เราจะหยิบมาแนะนำสักเรื่อง ส่วนใหญ่จะติดสำนวน คลังคำ และบทสนทนาที่อับจน แต่ “เมฆาราตรี” นับเป็นหนึ่งในนักเขียนไทยไม่กี่คนที่เรายอมรับว่าเขียนแนวจีนได้สละสลวยชวนติดตาม สำนวนดี แม้อีกนิดจะเป็นลิเกแล้วแต่ยังอ่านได้ไม่ติดขัดนัก
แก่นเรื่องเปิดมาด้วยอารมณ์ขันของนางเอก-หยางหลิงลู่ บุตรีขุนนางตงฉินตระกูลเก่าแก่แต่สุดจะยากจน ทัศนคติที่ดีงามทำให้นางใช้ชีวิตในจวนรกเรื้อเพราะบิดาสมถะยิ่งอย่างบุกน้ำลุยไฟ แก้ไขปัญหาความไม่มีได้อย่างน่าเอ็นดู ตามมาด้วยการเปิดตัว “อาเก้า” ฉากหน้าเป็นบุรุษงามล่มเมือง แสนสุภาพเอาอกเอาใจนางเอก แต่ฉากหลังดันมีชายาเอก ชายารอง ที่จิตใจค่อนข้างซับซ้อน ส่วนหยางหลิงลู่ก็ไปขอพึ่งพาเขาเนือง ๆ บอกไม่ได้ว่าสรุปนางรู้สึกอย่างไรกับเขาที่จ้องจะดึงตัวนางไปเป็นชายาอีกคนกันแน่
วันหนึ่งชีวิตลุ่ม ๆ ดอน ๆ ของนางเอกก็มาถึงจุดหักเห เมื่อได้รับสมรสพระราชทานกับ “อวี่เหวินจิ้ง” พระเอกผู้ได้รับสมญานามว่าขุนนางกังฉิน ไม่ค่อยมีใครเคยพบหน้าค่าตาของเขา มีแต่ชื่อเสียงเลวร้ายซุกก้นหีบ หยางหลิงลู่แต่งงานเข้าจวนและพบกับเรื่องพิสดารพันลึกมากมาย เช่นเจ้าบ่าวส่งไก่ตัวผู้มาร่วมพิธีแทนตัว หรือนางอยู่เดียวดายในห้องหอร่วมสองเดือน จู่ ๆ ก็มีบุรุษโผล่มาทำมิดีมิร้ายกับนางกลางดึกจนต้องวางกับดักล่อมาติดกับ และพบว่าเป็นสามีที่ไม่เคยพบกันของนางนั่นเอง
เริ่มต้นเรื่องเหมือนจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพระนางที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันไปและเขยิบความรู้สึก แต่ไป ๆ มา ๆ นักเขียนเริ่มใส่แก่นรอง แก่นย่อย เข้ามาซ้อนกันจนไม่แน่ใจว่าต้องการชูแก่นหลักใดกันแน่ ตั้งแต่ปมความลับของตระกูลพระเอก เงื่อนงำในอดีต เหตุใดนางเอกถึงขี้แยจนน่าลำไย บางทีดูขลาด ๆ งง ๆ แต่บางครั้งดันคิดเรื่องวางค่ายกลได้ ฯลฯ
ไหนจะคลื่นลมในราชสำนัก แผนการชิงบัลลังก์ของหลายขั้วอำนาจ พระเอกที่คล้ายจะมีเขี้ยวเล็บน่าสะพรึง เอาเข้าจริงกลับขยี้ไม่สุด เคมีเคใจพระนางที่บอกไม่ได้ว่ารู้สึกรักกันตอนไหน แม้จะเท้าความถึงอดีตที่เคยเจอกันนานมาแล้วก็ไม่ทำให้คนอ่านเชื่อได้ว่ารักเพราะจิตใจเดียวกันจริง ๆ หรือความลับของหยางหลิงลู่ที่พัวพันกับองค์กรลับของฮ่องเต้เมื่อเฉลยมาแล้วก็ไม่ได้ว้าวเท่าใด กระทั่งการคลี่คลายปมในเวลาต่อมาก็ทำได้อิหลักอิเหลื่อไม่น้อย
คล้ายกับว่านักเขียนพยายามยัดร้อยเงื่อนปมเข้ามาในเรื่องเดียวกันแต่สะสางได้ไม่สุดสักปมเดียว แทบไม่มีปมไหนทำให้เราเชื่อได้ว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ พระเอกที่เหมือนจะเก่งแต่ไม่เก่ง ตัวร้ายที่เหมือนจะร้ายแต่ดันงั้น ๆ 5555 หรือนางเอกที่คล้ายจะมีหลายตัวตนในคนเดียวแต่การสร้างสะพานปูไปแต่ละบุคลิกดันไม่ราบรื่น แถมสะดุดเป็นพัก ๆ
สรุปว่าเป็นเรื่องที่อ่านได้เพลิน ๆ สำนวนดี มีความพยายามผลักดันทุกปมที่คิดว่าน่าจะเร้าใจให้มาอยู่ด้วยกัน (แค่ว่าคนอ่านไม่เร้าใจด้วย) พระนางไม่ค่อยมีเสน่ห์ การดำเนินเรื่องขลุกขลักอยู่บ้าง
คะแนนเต็ม 10 ให้ 6.5 เทให้ความตั้งใจของนักเขียนล้วน ๆ ค่ะ
เชื่อว่าเรื่องหน้า “เมฆาราตรี” ต้องทำได้ดีกว่านี้แน่นอน
โฆษณา